“พชร์ อานนท์”อัปเดตคดีกับ “นิก คุณาธิป” ปัดเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก

“พชร์ อานนท์” อัปเดตคดีกับ “นิก คุณาธิป” ปัดเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก

           ดูท่าคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่กับ “นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ”  จะมีท่าทียืดเยื้อ ยากที่จะจบลงหรือการยอมความ ก็คงจะไม่เกิดขึ้นแล้วและขอยืนยันไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็กแม้อีกฝ่ายจะออกมาโพสต์ข้อความขอโทษแล้วก็ตาม สำหรับ “พชร์ อานนท์”  ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาอัปเดตให้ฟังว่า 

อ่านข่าวต่อ : "พชร์ อานนท์" โพสต์โชว์คำสั่งศาล หมายเรียก "นิก" มารับทราบ

           ก็คดีบอกไปแล้วว่าเรื่องมันอยู่ในศาลเขาเป็นคนเริ่มต้นเอาทนายความมาก่อนมันก็ต้องฟ้องกันและเคยไกล่เกลี่ยไปแล้วครั้งนึง แต่เขาไม่ยอมจะเอาสัญญาคืนอย่างเดียว ทางศาลก็บอกไม่เกี่ยวกับสัญญามันเกี่ยวกับคดีฟ้องหมิ่นประมาทตนตอนนั้นก็โอเค ขอโทษทุกสื่อที่เขาลงและจ่ายค่าทนายความมาเพราะตนได้จ้างทนายความมาว่าความให้แต่ทางเขาก็ไม่ไกล่เกลี่ย เพราะคิดว่าไม่โอเคและยังจะขอสัญญาคืนซึ่งมันไม่เกี่ยวกับสัญญาเลย และพยายามไกล่เกลี่ยแล้วแต่เขาไม่เอางั้นก็ต้องสู้กันในศาล โดยที่เขาอยากขอโทษไกล่เกลี่ยแล้วยอมความก็อยากให้ลองเข้าไปอ่านข้อความเขาใหม่อีกทีดูว่าเขาขอโทษจริงหรือเปล่า

           ซึ่งมีหลายคนอ่านมาก็บอกว่า ไม่ใช่ส่วนตัวรู้จักเขามา 7 ปีรู้ว่าเป็นยังไง ยันไม่ยอมความปล่อยให้ศาลตัดสินเลย เพราะไม่ได้เป็นคนเริ่มที่ผ่านมาใจดีมาตลอดไกล่เกลี่ยแล้วเขาไม่เอา เพราะฉะนั้นไม่เอาก็ไม่เป็นไรก็เลยมาพึ่งศาล ส่วนตัวก็ทำงานไปแล้วอยู่ๆเขาก็มาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ตามที่เป็นข่าวและได้มีการไปถ่ายรูปคู่กับทนายเพื่อจะมาขู่เรื่องสัญญา ฉะนั้นตนเลยหาทนายความมาสู้คดีมาแก้ต่างซึ่งถ้าเขาบริสุทธิ์ใจจริงรู้ว่าตนมีพระคุณเป็นคนให้เข้ามาในวงการและมีชื่อเสียงก็ต้องไม่คิดที่จะด่าตั้งแต่ทีแรก ไม่คิดที่จะขายบ้านขายรถเพื่อจะสู้คดีหากเขาไม่คิดอย่างนั้นมันก็จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเรื่องสัญญามันก็คุยกันได้แต่ในเมื่อเขาต้องการอย่างนั้นก็จัดให้

           ทั้งนี้เขาไม่ได้มีการโทรมาคุยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่วันนัดจนถึงวันนี้หรือตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงวันนี้ไม่มีโทรศัพท์ หรือข้อความฝากจากเขามาถึงตนเลยมีแต่เขาไปคุยกับลูกน้อง และว่าตนอย่างเสียหายให้ลูกน้องฟัง โดยในชั้นศาลตอนนี้อยู่ในกระบวนการไต่สวนข้อมูลไปแล้ว รับประทับฟ้องไปแล้วอยู่ในขั้นตอนของการประกันตัวสู้คดีทางศาลก็อยากให้ไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบวันไหนแต่ตนได้ไกล่เกลี่ยไปแล้วอย่างที่บอกก็ไม่ได้ใจดำอะไร แต่เขาไม่ยอมตามที่ไกล่เกลี่ยก็ต้องสู้กันต่อ

           ส่วนที่เขาโพสต์ขอโทษก็อยากให้ไปอ่านดีๆเขาโพสต์ด่าอีกครั้ง ไม่ได้เป็นการขอโทษ แต่เขาใช้คำต่างๆ มาว่า ลองอ่านกันให้ดี ซึ่งก็ไม่ทันแล้วปล่อยแล้วแต่ศาลตัดสิน รับต้องยืดเยื้อเพราะว่าเขาต้องการอย่างนั้นเอง ตนไม่ได้เป็นคนหาเรื่องส่วนตัวเป็นผู้ใหญ่และอยู่เฉยๆ แต่เขามาหาเรื่องที่สำคัญเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับสัญญาเลย เป็นคดีหมิ่นประมาทอย่างเดียว แต่เขาเอาไปพัวพันไปหมดว่าจะไกล่เกลี่ยเอาสัญญาคืนซึ่งบอกไปแล้วว่าค่าฉีกสัญญา 3 ล้านบาท ยันไม่ได้เป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก แต่ก็พูดความจริงว่าได้ไกล่เกลี่ยไปแล้วแต่เขาไม่ยอม