สธ.ขยายการตรวจและเฝ้าระวังเข้มข้น รุกพื้นที่มีรายงานผู้ป่วยจำนวนมาก
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า “มาตรการที่จะต้องเข้มข้นในขณะนี้คือ จะขยายการตรวจและการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นเชิงรุก มุ่งเน้นไปยังพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยจำนวนมาก เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี ภูเก็ต และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น โดยกรมควบคุมโรคจะชี้เป้าหมายให้กับพื้นที่เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคอย่างเต็มที่ และสนับสนุนมาตรการจำกัดการเข้าออกในบางพื้นที่อย่างเคร่งครัด”
อ่านข่าวต่อ : ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 54 ราย เสียชีวิตจาก COVID-19 อีก 2 ราย
โดยที่จังหวัดภูเก็ตเริ่มพบการระบาดตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2563 ปัจจัยเสี่ยงหลักที่พบ ได้แก่ อาชีพที่มีการติดต่อกับนักท่องเที่ยวหรือคนจำนวนมาก และติดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย มีชาวต่างชาติเดินทางมาจากพื้นที่ระบาด จังหวัดได้มีมาตรการปิดสถานบันเทิง ร้านนวดบริเวณ ขยายทั้งจังหวัดและมีการปิดช่องทางเข้าออกจังหวัดแต่ ยังพบมีผู้ป่วย จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกเพิ่มเติมในชุมชน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ จะเฝ้าระวังผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ติดตามอาการ และกักกันให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อต่อไป
สำหรับกรุงเทพฯ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของการระบาดตั้งแต่ผู้ป่วยรายแรกในประเทศจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้เนื่องจากผู้ป่วยที่พบในปัจจุบันเป็นกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้เป็นหลัก แสดงให้เห็นว่า มาตรการที่รัฐบาลทำมาได้ผลในการควบคุมในระดับชุมชน สถานที่ชุมนุมชน แต่ยังมีการแพร่เชื้อในกลุ่มผู้ใกล้ชิด ดังนั้นการทำ Social Distancing จึงต้องเข้มข้น ทั้งในบ้าน และที่ทำงาน หรือในที่ที่มีผู้คนไปรวมตัวกัน อย่างไรก็ตาม การที่จะควบคุมป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ทุกคน"