สันนิษฐานที่อยากให้เป็นจริง “หน้ากากลูกโป่ง” อาจเป็นเขา
สร้างเสียงฮือฮากลางรายการสำหรับเสียงร้องทรงพลัง และลีลาการแร็ปสับรัวๆ ในเพลง “น้ำลาย” (Silly Fools) ของ “หน้ากากลูกโป่ง" ในการแข่งขันรอบ Semi Final ของ The Mask Singer งานวัดเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (9 เมษายน) ที่ผ่านมา ทำเอาเหล่ากรรมการตะลึงไปตามกันกับความสามารถทั้งการแต่งท่อนแร็ป
อ่านข่าวต่อ : “อาม-เต๋า” ร้องเพลงทิ้งท้าย ถอดหน้ากากอำลารายการ
ด้วยตัวเองทั้งหมดและถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยมจนป๋าเต็ด และ ครูอ้วน นั้นชมไม่ขาดปากและอยากจะรู้ว่าหนุ่มร่างเล็กเจ้าภายใต้หน้ากากเป็นใครกันแน่ ก่อนจะไปถึงรอบไฟนอลและทราบว่าเขาเป็นใคร และใครจะเป็นผู้คว้าแชมป์ เสียงตอบรับที่มีต่อ “หน้ากากลูกโป่ง” นั้นเกินต้านทาน เรียกว่าอาจจะเป็นตำนานอีกคนที่จะพลิกประวัติศาสตร์ในวงการหลังจากมาออกรายการนี้
“หน้ากากลูกโป่ง” เผยถึงการเลือกเพลงและการเข้ามาแข่งขันในรายการ The Mask Singer เพราะว่าระยะเวลาตั้งแต่เข้าวงการมากว่า 6 ปีนั้นต้องเผชิญกับแรงกดดันและคำดูถูกเรื่องการร้องเพลงจนทำให้ไม่อยากร้องเพลงอีกต่อไป จึงอยากขอพิสูจน์อีกสักตั้งและไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไรผ่านเพลง “น้ำลาย” โดยคอมเมนต์ที่มีต่อเทปรายการของวันดังกล่าวเต็มไปด้วยการคาดเดาว่าภายใต้ “หน้ากากลูกโป่ง” คือนักร้อง-นักแสดงหนุ่มวัยรุ่น “เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” เพราะว่านอกจากเสียงจะมีความคล้ายแล้ว ยังมีข้อสันนิษฐานที่ตรงกับชีวิตจริงของหนุ่ม “เจมส์”
“เจมส์ ธีรดนย์” เข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงสังกัดนาดาว จากซีรีส์ดัง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2 กับบทกวนๆ อย่าง “ซัน” ในวันนี้กับฐานะนักแสดงหน้าใหม่ เขาเริ่มต้นเติบโตในวงการจากแรงผลักดันทั้งจากแฟนคลับที่ชื่นชอบ และคำติเตียนถึงฝีมือการแสดงที่ยังไม่ถึงขั้น
แต่เมื่อโอกาสด้านการแสดงมาถึงมือหนุ่มคนนี้เรื่อยๆ “เจมส์” ก็พิสูจน์ให้เห็นมากขึ้นว่ามีเลือดการเป็นนักแสดงซุกซ่อนอยู่ในนั้น โดยเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งผ่านบท “บู” นักสเก็ตป่วยซึมเศร้าใน SOS skate ซึม ซ่าส์ ที่เขาต้องลดน้ำหนักตัวเองลงเยอะมาก และกดความรู้สึกให้เหมือนหนึ่งในผู้ป่วยซึมเศร้าจริงๆ การเข้าถึงบทบาทของเจ้าตัวครั้งนี้ ทำให้หลายคนชื่นชมและแอบเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นซึมเศร้าหรือเปล่า
นอกจากนั้นยังร่วมแสดงภาพยนตร์ “ฉลาดเกมส์โกง” อีกหนึ่งความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยที่กวาดรางวัลที่ทำรายได้สูงสุดในต่างประเทศ และกวาดรางวัลล้นมือจากเวทีสุพรรณหงส์ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ไทยที่สามารถคว้ารางวัลได้มากที่สุดบนเวทีแห่งนี้ กว่า 12 รางวัล
ก่อนที่จะมาร่วมโปรเจ็คท์ NINE BY NINE (9×9) ที่เปิดประสบการณ์ทั้งการแสดง ร้อง และเต้น เขารับบทบาทเป็นหัวหน้าวงอีกด้วย ผลงานเลือกข้นคนจาง เป็นอีกหนึ่งบทบาท ที่เขาถูกเรียกว่า “เวกัส” และรับบทบาทนี้ได้อย่างน่าหมั่นไส้ การเป็นศิลปินทำเพลงและออกทัวร์ร้องเพลง เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์และพูดถึงอีกครั้งในฐานะผู้ชายแต่งตัวเก่ง และแต่งหน้า ซึ่งถือว่าน้อยคนที่จะแสดงแพชชั่นถึงเรื่องเมคอัพ
ก่อนจะมาถึงจุดพลิกผันที่เขาขอเลือกเส้นทางใหม่อีกครั้งกับการเป็นศิลปินเต็มตัว ลาออกจากนาดาว และเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกวง TRINITY ร่วมทีมกับ เติร์ด ลภัส, ปอร์เช่ ศิวกร และ แจ๊คกี้ จักริน เดบิวต์ศิลปินกลุ่มวงแรกใต้สังกัด 4NOLOGUE เจ้าตัวแสดงความไม่มั่นใจในเส้นทางนี้ที่ไม่รู้ว่าสำเร็จแค่ไหน แต่เขาแน่วแน่จะไม่ทิ้งความพยายาม และเชื่อว่าดีกว่ามาเสียดายทีหลัง
เสียงวิพากษณ์วิจารณ์เรื่องการร้องเพลงนั้นเป็นธรรมดา แต่ ทั้ง 4 คนก็ผลักดันผลงานเพลงมาถึง 4 เพลง ได้แก่ Haters Got Nothing, I O U, Jazzy, Hidden Track จับมือฝ่ากระแสดราม่าและขอสร้างสรรค์ผลงาน นับเป็นเวลาร่วม 6 ปีได้พอดิบพอดีของหนุ่ม “เจมส์” ในวงการบันเทิงนี้ บังเอิญไปตรงกับที่ “หน้ากากลูกโป่ง” พูดทิ้งเอาไว้ หากเป็น “เจมส์” จริงๆ ต่อให้จะเป็นแชม์หรือไม่เป็นเสียใจก็ดีกว่าเสียดาย เห็นจะจริง เพราะว่าเขาได้พิสูจน์ความสามารถแล้วเมื่อโอกาสมาถึง และเชื่อว่าแฟนๆ จะยังซัพพอร์ตศิลปินหนุ่มคนนี้ต่อไป