เป็นไปได้แค่ไหนกับการพัฒนา "ไทยฟลิกซ์" สู้ "เน็ตฟลิกซ์"
กับประเด็นที่ทาง "นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)ได้เผยถึงแนวความคิดการสร้างแพลตฟอร์มไทยฟลิกซ์ (Thaiflix)โดยยกตัวอย่างเน็ตฟลิกซ์ (Netflix)เพื่อจะทำให้มีช่องทางในการส่งเสริมการสร้างทางเลือกขยายโอกาสธุรกิจภาพยนตร์ไทย งานนี้ทาง"ดาราเดลี่"เลยได้มีการสัมภาษณ์มุมมองเรื่องนี้กับผู้ที่คร่ำวอดในวงการบันเทิง
โดยทาง "คุณชายอดัม หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล" ได้เผยว่า โดยทาง"คุณชายอดัม หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล" เผยว่า จริงๆได้ทำแพลตฟอร์มและได้ดูแลคอนเทนต์ซื้อขายที่เรียกว่า OTT อยู่แล้วนอกจากนั้นเป็นผู้จัดและเคยเป็นที่ปรึกษาช่อง PPTV ก็เห็นว่าคอนเทนต์ในเมืองไทยถูกซื้อหมดแล้ว กรณีที่รัฐบาลจะทำ"ไทยฟลิกซ์" ก็ต้องมีการแข่งขันแต่ไทยมีของดีอยู่แล้วจะแข่งขันกับอะไร มองว่าตลาดคอนเทนต์เติบโตและภาพยนตร์ก็มีคุณภาพมีการซื้อคอนเท้นต์อยู่แล้วอย่างหนังของผมก็กำลังจะขึ้น "เน็ตฟลิกซ์" ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้และค่ายใหญ่ๆก็มีการซื้อขายอยู่แล้วพอมีการซื้อขายส่วนใหญ่เลยจะถามว่า "ไทยฟลิกซ์" ทำมาเพื่อซัพพอร์ตใครถ้าตลาดมีเม็ดเงินที่ลงทุนตรงนี้และราคาคอนเทนต์ตลาดไทยเพิ่มขึ้นทุกปีในตลาดซื้อขายถ้าเพิ่มขึ้นในระดับที่ซื้อทีผลิตละครได้เลยก็ไม่ต้องขายโฆษณาในทีวีแล้วหรือเปล่าก็ยัง สมมุตถ้าซื้อของในราคาที่สามารถผลิตได้เองเลยทำไม
-ผู้กำกับชื่อดังอย่าง "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ได้เผยว่า ก็ไม่รู้ว่าที่คิดเป็นโครงสร้างแบบไหนแต่คิดว่าถ้ามีส่วนของไทยเองก็ดีในกลุ่มสมาคมผู้กำกับก็เคยคุยกันแต่มองเป็นหนังสั้นที่รับทำสร้างมูลค่าหรือที่ยังหาโอกาสฉายไม่ได้แต่จะเอาทั้งหมดมาไว้ในนี้แต่ในภาคธุรกิจจะคุยยังไงเพราะเป็นงานลิขสิทธิ์เลยคิดไม่ออกหรือโมเดลจะเป็นยังไงถ้าเกิดขึ้นก็นึกไม่ออกเช่นกันอย่าง"เน็ตฟลิกซ์"ขัดเจนเป็นสตรีมมิ่งออนไลน์เป็นโมเดลเดียวกับทั้งหมด อเมซอนก็เหมือนกันแต่ "ไทยฟลิกซ์" ใครทำเจ้าภาพเป็นรัฐบาลจะเป็นธุรกิจยังไงนึกไม่ออกส่วนตัวได้ยินว่ามีการคุยกันบ้างแล้วแต่ตนไม่รู้รายละเอียดมีทาง"คุณอ๊อด บัณฑิต ทองดี"เข้าไปคุยบ่อยท่านเป็นอดีตนายกไปในนามตัวแทนสมาคมถามว่าถ้ามีจะเป็นผลดีไหมก็หนังไทยเก่าๆมีช่องทางที่คนจะดูได้อยู่แล้วคนถือสิทธิ์เขามีช่องทางกระจายอยู่แล้วแต่ถ้าไม่มีโอกาสอย่างคนรุ่นใหม่ทำหนังสั้นก็จะดีเพราะตอนนี้ดูฟรี ก็นึกโมเดล"ไทยฟลิกซ์" ไม่ออกว่าเป็นไงถ้าเกิดจะทำพวกสื่อโซเชียลของประเทศไทยเหมือนจีนทำเองก็เป็นอีกโมเดลนึงเป็นแบบสตรีมมิ่งโมเดลแต่ "ไทยฟลิกซ์" ไม่รู้จะเป็นยังไง
"อ๊อด บัณฑิต ทองดี" อดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเผยว่า ก็ได้ยินมาบ้างซึ่ง "ไทยฟลิกซ์" พร้อมที่จะทำได้ไหมก็แค่ตลาดเพื่อนบ้านพอได้แต่คงไม่สูงเท่า "เน็ตฟลิกซ์" หรืออเมซอนถ้าไทยทำแค่ไปถึงเมืองจีนพอเป็นไปได้ไม่หวังส่วนแบ่งหรือตีตลาด "เน็ตฟลิกซ์" ซึ่งทางเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาดูคอนเทนต์ไทยเยอะมากเป็นไปได้ก็ทำเป็นการเก็บสมาชิกเพื่อนบ้านได้และต้นทุนการสร้างภาพยนตร์หรือซีรีย์ต้องไม่สูงมากด้วยซึ่งถ้าทำได้ก็เป็นประโยชน์ต่อวงการแต่มองว่ายากถ้ารัฐบาลจะลงทุนและดูแลไปให้สุดได้แค่ไหนเพราะใช้งบทั้งนั้นถ้าได้เป็นเรื่องที่ดีมากจะได้มีคอนเทนต์มากขึ้น "ไทยฟลิกซ์" ก็มีโอกาสเกิดได้จริงถ้ามีเป็นการสร้างงานสร้างคอนเทนต์ให้คนในวงการมีผลงานมากขึ้น
