“แสงสุรีย์”เผยดีขึ้นหลังเข้าผ่าตัดตา  พร้อมลุยทำงานเพลง

“แสงสุรีย์”เผยดีขึ้นหลังเข้าผ่าตัดตา  พร้อมลุยทำงานเพลง

       ก่อนหน้านี้ทาง “บิณฑ์  บรรลือฤทธิ์” ไปแจกเงินให้กับผู้เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid -19 และได้เจอกับอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” โดยบังเอิญพร้อมทั้งได้ทราบว่าดวงตาด้านขวามองไม่เห็น จนกระทั่งได้พาไปเข้ารับการผ่าตัด ณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จนมีอาการดีขึ้นแล้ว ล่าสุด “แสงสุรีย์” ก็ได้ออกมาเผยว่า

อ่านข่าวต่อ : ฟังเสียงรักสาวเสื้อลายจาก "แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์" ก่อนผ่าตัดตา

      ตอนนี้มองเห็นชัดแล้วแต่ยังไม่ชัดแท้เสียทีเดียว ได้ 70 เปอร์เซ็นต์การใช้ชีวิตประจำวันก็สะดวกมากขึ้นทีเดียวตนแอบเปิดดูอยู่บ่อยๆ ทั้งที่คุณหมอยังไม่ให้เปิดแว่นดำแต่ก็ต้องเปิดเพราะมันรู้สึกเกะกะ พอเปิดแล้วโล่ง มองอะไรเห็นชัดขึ้นโดยความรู้สึกแรกหลังจากที่เรามองเห็นชัดขึ้นก็นึกถึงบุญคุณของคนที่ทำการผ่าให้นึกถึงบุญคุณของคุณหมอ แล้วก็เจ้านายอย่าง “คุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองตาบอดดูจะได้รู้ว่าความรู้สึกมันเป็นยังไงกับสิ่งแรกที่ทำหลังจากมองเห็นชัดก็ได้นั่งต่อเพลงใหม่ของตัวเองคนที่จะให้ไปร้องเพลงตอนที่หายป่วยแล้วซึ่งเพลงนี้คือหยุดทำไปตั้งนานและได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชื่อเพลง “ชีวิตของแสงสุรีย์”

       ส่วนชีวิตที่ผ่านมาก็รู้สึกทุกข์ทรมานลำบากมากเหมือนกัน เป็นคนที่ยากจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพอมาอยู่วงดนตรีเป็นนักร้องลูกทุ่งก็ยิ่งจนเข้าไปใหญ่แทนที่จะรวยหากพูดไปก็จะหาว่าต่อว่านายทุนยันไม่มีรายได้อะไรค่าเปอร์เซ็นต์เทป ค่าเปอร์เซ็นต์แผ่น ค่าร้องยังฟรีเลยซึ่งตอนนี้ก็มีงานเข้ามาเยอะเลยด้วยความที่เขาสงสารก็ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรักความเมตตาหลังจากนี้ก็เริ่มแสดงคอนเสิร์ตได้ แต่ทางคุณหมอบอกว่าจะให้ดีจริงต้อง2-3เดือนไปแล้ว

      โอกาสที่จะกลับมาเห็นชัด100เปอร์เซ็นต์มีไหมก็น่าจะได้ 70-90 เปอร์เซ็นต์ทั้งนี้ได้มีการวางแผนชีวิตก็จะระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุดจะเข้าสังคมสังกัดอะไรก็ต้องคิดให้มากที่สุดเพราะมันพลาดมาแล้วมันแทบเอาคืนไม่ได้เลย เหลือแต่ชีวิตเท่านั้นเองที่อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้

     ก็ขอฝากด้วยว่าเป็นนักร้องแล้วอย่าจนอย่างตนพยายามตั้งสติ ตั้งตัวให้ดี ไม่ใช่ว่าตอนดัง มีเงินก็เอาไปเที่ยว ไปกินเล่นอะไรเสียหมด รับมีค่ายเพลงติดต่อมาเยอะแต่ว่าขอคิดดูก่อนก็ผ่านมามาก เห็นประสบเหตุการณ์มาแล้ว คิดว่าทำเองก็ได้ ทำไปเรื่อยๆแบบนี้จะดีกว่า พรรคพวกเพื่อนฝูงช่วยกันทำมาหากินไป คงจะอิสระแน่นอนยันขอเป็นงานร้องเพลงถ้าใครอยากจะทำบุญช่วยเหลือก็ทำมาได้ตามบัญชีแต่เดี๋ยวจะหาว่าพูดกลับกลอก มันอดไม่ไหวจริงเพราะคนโทรมาต่อว่าทำไมหยิ่งบ้างอะไรบ้าง