เจาะตลาดออนไลน์ 2020 หมดหยุด “ดารา” ลูกค้าทุ่มงบลุย “อินฟลูเอนเซอร์”!?
ในปัจจุบันต้องบอกเลยว่าผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหญ่ๆ หลายๆ แบรนด์ เริ่มที่จะตีตลาดใหม่ และหันมาบุกตลาดออนไลน์มากขึ้น เพราะในปัจจุบันคนไทยใช้โซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์แทบทุกกิจวัตรในการดำเนินชีวิต และมากขึ้นจากเดิมถึง 38% (ข้อมูลจาก www.ThaiSMEsCenter.com) รวมไปถึงแอพลิเคชั่นออนไลน์เองก็เจริญเติบโตมากขึ้นเช่นกัน
และแน่นอนว่าช่วงที่ธุรกิจออนไลน์เฟื่องฟูอย่างเห็นได้ชัด ก็ได้ผุด “อินฟลูเอนเซอร์” หรือผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล ซึ่งในไทยเองก็แจ้งเกิดกันหลายคนในช่วงปีที่ผ่านมา และกลายเป็นอาชีพสุดฮอตเพราะรายได้ดี ลูกค้าจ้างทำรีวิวกันเพียบ!! แถมผู้ที่ติดตามก็มีความเชื่อถือในตัวอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าคนกลุ่มอื่น ที่ไม่ใช่เพื่อนและครอบครัวอีกด้วย
อินฟลูเอนเซอร์มีหลายแบบ เช่น กูรูด้านความงามและแฟชั่น คนที่ชอบท่องเที่ยวและชิมอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเกม ดนตรี ภาพยนตร์ รวมไปถึง Celebrity คนดังที่ออกสื่อโซเชียลเป็นประจำ ซึ่งในปี 2019 ที่ผ่านมา Forbes Thailand ได้สรุปข้อมูลของอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละช่องทางดังนี้
1. ชีวิตติดรีวิว
2. กับข้าวกับปลาโอ
3. TripTH ทริปไทยแลนด์
1. วีเจมายด์ (@wjmild)
2. Sunbeary (@Sunbeary)
3.พิมฐา (@pimTHa)
1. ใต้เตียงดารา (@underbeddara)
2. มิลค์เศษใจ (@mimilkSS)
3. Wongnai (@wongnai)
Youtube
1. zbing z.
2. kaykai Salaider
3. epicpb THgame (MonDEV)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบัน คนเชื่อ “อินฟลูเอนเซอร์” มากกว่า “ดารา” ซะอีก
ฝ่ายบริหารงานลูกค้า (Account Executive) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า AE ของบริษัทเอเจนซี่แห่งหนึ่งได้เปิดเผยแก่ “ดาราเดลี่” ว่า “สาเหตุที่ทุกวันนี้อินฟลูเอนเซอร์เป็นที่นิยมมากกว่าดารา เพราะคนทั่วไปรู้ว่าดาราถูกจ้างมารีวิวแน่นอน แต่ในขณะที่ก็รู้ว่าอินฟลูเอนเซอร์เองก็ถูกจ้างมาเหมือนกัน แต่อินฟลูเอนเซอร์จะดูใกล้เคียงกับผู้บริโภคทั่วไป ดูเรียลและจับต้องได้มากกว่าดารา
ในเรื่องของค่าใช้จ่ายเองก็มีผล เพราะการจ้างอินฟลูเอนเซอร์จะถูกกว่าจ้างดาราเยอะมาก อย่างถ้าเป็นไมโครอินฟลูเอนเซอร์ที่มียอดผู้ติดตามในโซเชียล 50,000 – 100,000 คน ลงรูปภาพในอินสตาแกรม 1 รูป ลูกค้าเสียค่าจ้างแค่ 3,000 บาท ในขณะที่ถ้าจ้างดาราลูกค้าจะเสียงบ 6 หลักขึ้นไป แถมดาราบางคนก็มีข้อจำกัดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเสียเปรียบกว่าการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งพอมาทำการตลาดกับอินฟลูเอนเซอร์แล้ว ก็สามารถกระจายการโปรโมทไปได้มากและคุ้มกว่าจ้างดาราแค่คนเดียว”
จริงหรือไม่ “อินฟลูเอนเซอร์” สร้างรายได้มหาศาลได้ในเวลาอันรวดเร็ว ?
“สไปรท์ บะบะบิ” อีกหนึ่งยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์สายฮา ที่โด่งดังจากการรีแคปนางงาม ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สร้างรายได้กว่าหลักแสนต่อเดือน เจ้าตัวได้เผยว่า..
“เดือนนึงก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาหลายงาน ก็จะเลือกรับงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนันและต้องไม่ผิดกฎหมาย เลือกอะไรที่เข้ากับตัวเอง แต่ปกติเวลาลูกค้าจะติดต่องานเค้าก็จะรู้อยู่แล้วว่าคาแร็คเตอร์ของเราเป็นยังไง ที่เคยติดต่อมาก็ไม่ได้ราคาสูงมาก 4-5 หลักเอง แต่สิ่งที่ลูกค้าจะได้จากเราก็คือได้โปรโมทแบบจัดเต็มแน่นอน
จริงๆ เวลาลูกค้าเค้าจะโปรโมทอะไรสักอย่าง เค้าก็จะกระจายให้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีฐานแฟนคลับที่แตกต่างกันไป บางแบรนด์ก็กระจายตามภาค แคมเปญนึงที่ลูกค้าทำก็ไม่ได้เลือกอินฟลูเอนเซอร์แค่คนเดียว แต่เลือกหลายๆ คนเพื่อให้มีภาพจำของผู้บริโภคว่ามีการรีวิวจากหลายคน เราเองก็ดีใจนะที่มีรายได้เขามาซัพพอร์ตในช่วงนี้ เพราะช่วงโควิดระบาดเราเองก็ไม่ได้มีรายได้หลักจากร้านเช่าชุด ก็ได้ตรงนี้เข้ามาทดแทนกัน”
แล้วต้องทำอย่างไร ถึงจะได้เป็น “อินฟลูเอนเซอร์” ?
1. หาความถนัดที่สุดของคุณ โดยความถนัดนั้นคุณจะต้องเข้าใจและเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
2. สร้างตัวตนของคุณขึ้นในโลกออนไลน์ รวมถึงสร้างบัญชีธุรกิจในแพลตฟอร์มโซเชียล 1-2 ช่องทาง
3. เข้าใจผู้ชมของคุณ ต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร และต้องสามารถครองใจผู้ติดตามจนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพวกเขาได้
4. สร้างและโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง คุณต้องกำหนดกลยุทธ์ของคอนเทนต์ว่าจะสร้างออกมาในรูปแบบใด เนื้อหาประมาณใด โดยอิงจากความชอบและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
5. ความสม่ำเสมอคืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญ คุณจะต้องกำหนดความถี่ในการโพสต์และสร้างเป็นตารางเพื่อความสม่ำเสมอ
6. มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามของคุณ โดยคุณอาจต้องตอบทั้งความคิดเห็นและตอบคำถามต่าง ๆ ที่ผู้ติดตามของคุณถามหรือแสดงความคิดเห็นเข้ามา
7. ให้แบรนด์รู้ว่าคุณกำลังเปิดรับความร่วมมือ ประกาศตัวเองในฐานะ Influencer ที่สนใจในความร่วมมือกับแบรนด์ หรือประกาศรับงานรีวิวต่างๆนั่นเอง (ข้อมูลจาก taokaemai.com)