จาก “ซูชิ” ที่ชอบ สู่ร้านโอมากาเสะที่ใช่! “ดิว อริสรา” กับความอร่อยแบบพรีเมียม

จาก “ซูชิ” ที่ชอบ สู่ร้านโอมากาเสะที่ใช่! “ดิว อริสรา” กับความอร่อยแบบพรีเมียม

           หากพูดถึงร้านซูชิสไตล์โอมากาเสะ แน่นอนว่าต้องมีชื่อร้าน Ari Sushi (อาริ ซูชิ) เป็น 1 ในลิสต์แน่นอน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าร้านนี้เป็นของนักแสดงสาวหน้าสวย “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” และวันนี้ “ดาราเดลี่” มีโอกาสได้พูดคุยกับเถ้าแก่เนี๊ยะคนใหม่ของวงการถึงเรื่องราวต่างๆ ของร้านซูชิสุดฮอต 

อ่านข่าวต่อ : รักหวาน “ดิว อริสรา” ขยับสถานะรุ่นพี่เรียกแฟน

          โดย "ดิว" ได้เผยถึงจุดเริ่มต้นว่า “ตอนแรกเลยที่นี่เป็นร้านซูซิของที่อื่น แล้วเราก็มาเปลี่ยนเป็นอาริ คือดิวเป็นคนชอบกินซูชิอยู่แล้วค่ะ แล้วด้วยคนพิเศษของเราเป็นคนชอบกิน ชอบสรรหาเหมือนกัน เราเลยมาคุยกัน ร้านนี้ช่วงเริ่มต้นเราชิมข้าวกันเองเลยนะ มีอยู่ช่วงหนึ่งกินบ่อยมาก จนโอ๊ยไม่ไหวแล้วต้องโทรไปหาพี่เค้าเลยว่า ช่วยกินหน่อยได้มั้ย ช่วยคอมเมนต์หน่อยได้มั้ย แต่เราก็ค่อยๆ ปรับตามรสชาติปากเลยค่ะ มันจะมีความญี่ปุ๊นญี่ปุ่น แต่ถูกปากคนไทย อย่างข้าวจะมีรส ไม่ได้เรียงเม็ดแบบจืดๆ คือดิวก็กล้าพูดเลยนะคะ ว่าคุณภาพของเราดีมากจริงๆ

          “ตอนนี้ร้านเปิดมาได้เกือบ 1  ปีแล้ว ฟีดแบ็คดีมากนะคะ คนมาทานกันเรื่อยๆ ก็มีลูกค้าประจำ แล้วยิ่งพอเราเริ่มมีการพีอาร์ มีดารามากินหรือเราเริ่มโปรโมทคนที่เป็น New Target ก็เริ่มเข้ามากขึ้น แต่ด้วยความที่ร้านเป็นโอมากาเสะ ไม่สามารถรองรับคนได้เยอะเบอร์นั้น รอบหนึ่งเปิดเต็มที่ไม่เกิน 8 คน วันนึงก็มี 2-3 รอบ คือดิวเน้นทำสิ่งที่เราชอบ ส่วนอาหารก็ไม่ได้ฟิคตายตัวเหมือนร้านทั่วไป มีเมนูใหม่ๆ มีอะไรใหม่ๆ ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล”

         แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไป อยากทำอะไรที่ตัวเองชอบ อยากกินอะไรที่ตัวเองชอบ ไม่ได้อยากทำอะไรที่ต้องได้เงินเว่อร์ขนาดนั้น อย่างปลา ถ้าเราเอามาแล้วลดปริมาณเราก็ทำได้ แต่ในเมื่อเราเองก็อยากกินของดีๆ เราก็ต้องทำในสิ่งที่คิดว่าดี มันก็ได้คำตอบในชีวิต ดิวว่าไม่มีลูกค้าคนไหนบอกว่าไม่คุ้ม อย่างที่ร้านนี่เราประมูลของมาเลยนะ แบบมีอูนิ 50 กล่องทั่วโลก กล่องละราคา 30,000 เราก็ประมูลมา ก็มีช็อคเหมือนกันนะ เหมือนเราเอามันเอาสนุกด้วยล่ะ (หัวเราะ) คืออยากทำทีเดียวแล้วก็ทำให้ดีไปเลย

          แต่ช่วงโควิดก็ยอมรับว่ากระทบมากนะคะ เพราะร้านมันต้องปิดไป แต่เราก็ไม่อยากรู้สึกอะไรมาก เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ตอนแรกเห็นคนอื่นมีเดลิเวอรี่ เราก็คิด แต่กลัวว่าจะทำให้ไม่อร่อย แต่พอปลดล็อคเราก็กลัวว่าจะมีคนมากล้าใช้เงินมั้ย แต่ลูกค้าก็กลับมากินเยอะ จองเต็ม เราก็รู้สึกดีใจที่คนหายไปแล้วคิดถึงร้านเรา ก็ถือว่า แลกกันไป ดิวก็พยายามมองบวกว่าเราก็เป็นคนดีของใจของลูกค้าเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ส่วนธุรกิจอื่นๆ ก็มีแพลนๆ ไว้บ้าง ไว้มีอะไรอัปเดตเมื่อไหร่จะติดต่อหาดาราเดลี่เลยนะคะ”