ยอมจ่าย 1 ล้าน “เจนนี่-ลิลลี่” เคลียร์ทุกประเด็นดราม่า
ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกครั้งแรก สำหรับลูกทุ่งสาวเจ้าของเพลงฮิต “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และ “ลิลลี่ ได้หมด ถ้าสดชื่น” หลังเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลายเป็นมหากาพย์ที่ลุกลามดราม่าใหญ่โต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนแบ่ง เรื่องของศิลปินในค่าย รวมถึงพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เหมาะสม และไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็จะถูกจับตามองและเป็นประเด็นอยู่ตลอด ล่าสุด ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกถึงดราม่าที่ผ่านมาซึ่งเธอเผยว่า
อ่านข่าวต่อ : เปิดแชทหลุด “เจนนี่-ศิลปินในค่าย” ด่า “เก้า” ไม่น่าเอามาร่วมงานแต่แรก
สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมากๆ พร้อมที่จะลุยทุกงานต่อแล้วค่ะ ดีขึ้นเพราะคนในครอบครัวมาที่หนึ่ง รวมถึงกำลังใจจากแฟนคลับที่มีให้กันตลอดตั้งแต่เริ่มเป็นข่าวจนถึงตอนนี้ มันทำให้เรามีแรงที่จะสู้ต่อ พร้อมจะมูฟออนทำงานต่อไป
เรื่องข่าว 70-30 คืบหน้าที่หนูได้ดูสัมภาษณ์ล่าสุด ทางน้องฟ้องหลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวอะไรอีกเลย ที่บ้านก็รอหมายศาลและเตรียมเอกสารการสู้ หนูไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายเลย หนูเพิ่งได้ทำงานเกี่ยวกับกฎหมายกับทนายเพราะเรื่องนี้ ตอนเกิดเรื่องแรกๆ ก็มีการทักเฟซบุ๊กหาน้อง ครอบครัวน้องเกือบทุกคน แต่ก็ไม่ได้มีการตอบกลับมาจนเป็นข่าวใหญ่ ช่วงหลังก็มีผู้ใหญ่ไปคุยเรื่องตัวเลขของน้องแต่ก็ไม่สำเร็จ
หลังจากนั้นเคลียร์ไม่ลงก็มาทราบว่าน้องฟ้อง ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วก็ต้องเอาหลักฐานสู้ ถ้าเราแพ้เราก็พร้อมจะจ่ายเราพร้อมตั้งแต่ที่เป็นข่าวแล้ว เรามาคิดดูว่ามันก็โอเค 30 ไม่ได้ทำให้เราเสียหายมาก เราควรจะให้น้องไปมันเป็นน้ำใจด้วย แต่ที่น้องมาแถลงมันมากกว่านั้นคือ 3 ล้าน เราเลยมองว่าไม่สมเหตุสมผล รายได้จากเพลงได้ประมาณ 4 ล้านนิดๆ ถ้าอย่างนั้นคนอื่นละ “ลิลลี่” ละ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่า 3 ล้านที่เขาพูดวันแถลงเพื่อต้องการไกล่เกลี่ยหรืออะไร รอดูในเรื่องของกฎหมายค่ะ
จะลบเอ็มวีหรือจ่าย 30 เปอร์เซ็นต์ ก็จ่ายเงินดีกว่าค่ะ เพราะว่าชีวิตนี้ไม่รู้ว่าจะทำเพลงได้ 350 ล้านวิวอีกไหม มันยากมาก ทำทุกอย่างให้เพลงได้อยู่เพื่อเป็นหลักฐานจารึกไว้ว่าครั้งหนึ่งเจนนี่-ลิลลี่ มีเพลง 350 ล้านวิวนะ
อยากบอกอะไรกับคู่กรณี ก็แค่อยากบอก “เก้า เกริกพล” เพราะว่าวันแรกที่เราร่วมงานกันเราก็คุยกันสองคน พี่เหมือนเดิมเสมอ พร้อมเคลียร์เสมอ พร้อมร่วมงาน เพราะยังไงเราก็ศิลปินใต้ด้วยกัน เราเป็นมิตรกันยิ้มให้กันดีกว่า เผื่อวันนึงมีอะไรช่วยเหลือกันได้ได้ช่วยเหลือกัน อยากให้จบแบบไหน จบแบบตอนนั้นผู้ใหญ่โทรไปเคลียร์เป็นตัวเลขก็ 1 ล้าน เพราะว่าน่าจะสมเหตุสมผลแล้ว น้องเก้าล้านนึง หนูล้านนึง ลิลลี่ล้านนึง ที่เหลือทีมงาน หนูไม่ทราบว่าน้องยังไงเพราะคุยกับผู้ใหญ่ฝั่งน้องซึ่งเราไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่ว่าการเคลียร์มันไม่ลงตัว เดี๋ยวเขาจะดำเนินการฟ้องแล้ว หนูก็เคยคิดจะไปคุยกับน้องตรงๆเลยทักแชทเฟซบุ๊กไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ
ถามว่าน้อยใจมั้ยเวลาเกิดเรื่อง มีแต่คนมาทับถม ที่ผ่านมาคือที่สุดในชีวิตแล้ว ไม่เคยร้องไห้นานขนาดนั้น ออกมาไลฟ์สดโน่นนี่ แล้วมีผู้ใหญ่มาเตือนบอกว่าให้เราหยุด ให้เชื่อเขา เขาอยู่ในวงการมาก่อน หนูก็ทำมาตลอด สุดท้ายหนูก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นจริงๆด้วย เสียใจมากๆแต่พอหันไปดูคนรอบตัวสิ่งของรอบตัวที่เราสร้างมามันก็คุ้มดีนะคะ ถึงแม้มันจะแลกด้วยน้ำตาหน่อย
ลิลลี่เห็นพี่ร้องไห้หนักขนาดไหน หนักมาก คือหนูอยู่ข้างๆตลอด หนูลองคิดเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น หนูคงไม่ไหว การร้องไห้มันหนักอยู่แล้ว แต่นี่แบบปล่อยโฮออกมามันแย่มากๆ ติดกันเป็นอาทิตย์ หนูพยายามเข้มแข็ง พยายามไม่ร้อง เราจะไม่ร้องให้เห็น
เรื่องดราม่าเด็กๆในค่าย วันที่เป็นข่าว คนแรกที่ลาออกคือ “น้องเปา กิ่งกาญจน์” แล้วเป็นข่าวดัง หนูเลยเรียกทุกคนประชุมรวมกันว่าใครอยากออก ออกเลย เพราะบางทีผู้ปกครองที่ดูข่าวเขาเครียด บางครอบครัวโทรมาหาหนู สรุปออกไปทั้งหมด 5 คน เหลือ 23 คน ที่เหลือหนูเลยให้นัดเซ็นสัญญาเลย มีทนาย มีผู้ปกครองสงสัยตรงไหนถามได้เลย ข้อตกลงชัดเจนทุกอย่าง เราดูแลทุกคนเหมือนครอบครัว แชทที่หลุดออกมามีทั้งจริงและปลอม แชทในกลุ่มเราอันนั้นเราขอโทษด้วยค่ะ น้องคงเสียความรู้สึกกับคำหยาบที่เราว่าไป แต่ตอนนั้นอารมณ์โกรธหลายอย่างมันเข้ามา หลังจากเกิดเรื่องมันทำให้หนูเห็นข้อบกพรองของหนูแทบจะทุกจุด ไม่มีอะไรหนักกว่านี้แล้ว เราบอกน้องๆในค่ายว่าต่อไปนี้มีอะไรคุยกับเราตรงๆ เราก็ตั้งกฎว่าจะไม่พูดคำหยาบในกลุ่ม ไม่นินทาใคร
สุดท้ายขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา ขอบคุณพี่ๆให้หนูกล้าออกทีวีครั้งแรก ซึ่งหนูกลัวมาตลอด หนูได้รับบทเรียนเต็มที่มากๆแล้ว หนูสำนึกทุกอย่าง หนูจำเป็นบทเรียนจำที่ทุกคนสอน ไม่ใช่ว่าหนูเงียบไม่ได้ทำอะไรเลย หนูขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจกันเข้ามา