เงินซื้อความรักไม่ได้ “แอนนี่ บรู๊ค” แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง

เงินซื้อความรักไม่ได้ “แอนนี่ บรู๊ค” แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง

        เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่สู้ชีวิตโดยลำพัง หลังจากเป็นข่าวใหญ่เมื่อหลายปีก่อน สำหรับ “แอนนี่ บรู๊ค” ที่ล่าสุดกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเรื่อยมาจนลูกชายของเธออายุ 8 ขวบแล้ว แต่ที่สำคัญและน่านับถือใจคือเธอไม่เคยไปร้องศาลหรือประกาศให้ใครออกมารับผิดชอบดูแลลูก เธอตัดสินใจไปทำงานร้องเพลงอยู่ต่างประเทศนานกว่า 5 ปี และล่าสุดก็ได้กลับมาทำงานบันเทิงบ้างในช่วงหลัง และนี่คือคำบอกเล่าทั้งน้ำตาของ “แอนนี่ บรู๊ค” ว่าด้วยความรักและการเลี้ยงลูกซึ่งเงินไม่สามารถซื้อได้

Q : ผ่านช่วงเวลาเริ่มต้นที่เลี้ยงลูกมาได้อย่างไร ?

A : สิ่งแรกที่เรารู้จะต้องเลี้ยงลูกคนเดียวสิ่งแรกสำหรับแอนนี่คือวางแผนว่าจะใช้ชีวิตนับจากนี้กับอีกคนซึ่งเป็นเลือดเนื้อของเราอย่างไร เราจะมีอนาคตให้เขาแบบไหน เราจะดูแลเขาได้ดีมากน้อยแค่ไหน อันดับแรกคือเรื่องเงินเพราะเด็กต้องกินต้องใช้ เงินจะหาจากไหนนี่เป็นปัจจัยหลัก เพราะเราเป็นคนเดียวที่ต้องหาเงินจะเลี้ยงให้เขาเติบโตบนพื้นฐานของความเป็นจริง มีชีวิตที่เข้าใจเรา เข้าใจโลก และเข้าใจชีวิตของเขาเอง

Q : การเลือกโรงเรียน กับรายรับ – รายจ่าย ?

A : ตอนแรกที่เกิดเรื่องคือเราคิดแล้วแหละว่างานในวงการบันเทิงคือจบแล้ว แต่โชคดีที่แอนก็มีเพื่อนหลายวงการ เพื่อนนักร้อง แดนเซอร์ หรือทำงานอยู่วงการนักดนตรี แอนมองว่าวงการบันเทิงจบไปแล้วเราก็ลองทำงานอื่นเช่นขายของก็ไม่ได้ก็ไปตรงอื่น ก็ไปร้องเพลงกัน ถ้าเมืองไทยหางานยากเราก็ไปรอบๆ เมืองไทยนี่แหละ แรกๆ ก็ไปร้องเพลงที่มาเลเซีย สิงคโปร์ ถ้าไปได้เงินก็ไป ไม่ได้เสียหายอะไร  คนอาจจะคิดว่าเราไปทำงานอะไร เราเปลี่ยนความคิดคนไม่ได้ แต่เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเรารู้ว่าไปทำอะไร

Q : ก็มีเงินพอให้ลูกเข้าโรงเรียนสองภาษา?

A : ก็ไปสามเดือน 6 เดือน มีใบทำงาน 5 ปี ไปๆ กลับๆ จนมีใบทำงาน ก็ให้ลูกเริ่มเรียนโรงเรียนสอนภาษาและอินเตอร์ แต่พอลูก 8 ขวบ แอนคิดว่าเขาน่าจะมีภาวะต้องการแม่ เราสัมผัสได้นะ เราเป็นแม่ เราจ้างคนมาเลี้ยงลูกได้แต่ใครเลี้ยงก็ไม่เหมือนแม่ แต่เราก็คิดว่าเงินจะไม่พอนะ แต่ก็ไม่เป็นไรนะเราก็เอาก้อนสุดท้ายกลับมาดูแลลูกก่อน ให้ความสนใจกับลูกก่อน แอนคิดแค่นี้เลยค่ะ แอนย้ายลูกออกมาเรียนโรงเรียนสองภาษาได้สองปีแล้วนะ ตอนนี้ย้ายจากโรงเรียนอินเตอร์มาสองภาษาแล้ว คือเป็นโรงเรียนที่ค่าเทอมไม่แพงมากนัก ลูกไม่เอาเงินไปโรงเรียนเลยเค้าบอกว่าเงินเนี่ยเอาให้แม่กินข้าว ซึ่งเรามีข้าวกินอยู่แล้วแต่ความคิดของเขาคือไม่อยากใช้เงิน เราบอกลูกไม่อยากกินขนมหรือน้ำหวานเหรอ เขาก็บอกว่าแม่ใส่ให้แล้วในกระเป๋าไง

Q : เคยคิดให้พ่อเขามาจ่ายไหม เคยร้องขอไหม ?

A : ไม่เคยสนใจเลย ตั้งแต่ลูกเกิดมาก็ไม่เคยคิดเรื่องเรียกร้องให้ใครมาช่วยดูแล ไม่รู้ว่าไปจะทำเพื่อไรด้วย

Q : เงินพอไหม เลี้ยงลูกแบบ  “แอนนี่ บรู๊ค”   ?

A : แอนโชคดีมากน้องทีเป็นเด็กดีมาก เป็นเด็กที่เข้าใจแม่ หนูรู้ว่าวัยนี้เป็นวันที่ลูกควรได้รับความเอาใจใส่ที่ลึกซึ้ง ลูก 8 ขวบเรื่องคำสอน คำพูดคำจา เขาจดจำนะ เราจำได้ตอนเด็กๆ ย้อนตัวเองไปตอนนั้นเรารักแม่มากขึ้น รักครอบครัวมากขึ้น ใจเขาใจเรา เราบอกน้องทีเราต้องประหยัดนะ ทีไม่เคยขอเงินแม่ไปเลยแม้แต่บาทเดียว เวลาไปโรงเรียนแอนก็จะใส่นมอะไรให้เขาบ้าง เค้าเป็นเด็กดีมาก

Q : ลูกเคยร้องขอของเล่นบ้างไหม ?

A : เรื่องเกมส์กับเด็กก็ปกตินะเขาอยากได้อยู่แล้ว แต่แอนจะให้เฉพาะโอกาสดีๆ เช่นวันไหนเขาไปทำงานไปออกรายการด้วยกัน เราก็บอกลูกว่ารายการนี้ไอทำงาน  ยูทำงาน เราแบ่งเงินนะ ถ้ายูเอาไปซื้อเกมส์ทั้งหมดเงินของลูกก็หมดเลย แม่ไม่ให้แล้วนะ ยูทำงานได้แล้วถ้าอยากได้อะไร น้องทีต้องเก็บเงินเอง

Q : กอดกันร้องไห้ ทุกข์ขนาดไหนสุด ?

A : ไม่เหลือเงิน โดนเทงานในยุคโควิด ตอนนั้นเราตั้งใจเพื่อให้ได้เงินและงาน ยอมปล่อยตัวเองให้อ้วนเพื่อแฟชั่นชุดนั้น มันเยอะนะเงินชุดนั้น ก็รู้สึกว่าทำไมทำกับเราแบบนี้ เราน้อยใจร้องไห้ออกมา ก็เราตั้งใจจะหาเงินไม่ใช่ความผิดของเรา

Q : ลูกกำลังใช้เงิน ไม่เคยไปง้อ ขอใคร ?

A : ถ้าไม่จำเป็นแอนนี่ไม่อยากจะเข้มแข็งนะ แอนทำงานแต่เด็กเราคนบ้านนอกทำงานแต่เด็ก 7-8 ขวบ เรื่องพวกนี้ไม่ได้หนักหนาสำหรับแอนเลยเรื่องความอดทนหรือประหยัดในการที่จะต่อสู้กับชีวิต แอนต้องขอบคุณพ่อแม่ที่ให้เราเป็นคนบ้านนอกทำให้เราอดทนผ่านไปได้

Q : “น้องที” เปลี่ยนชีวิต “แอนนี่” ยังไง ?

A : เขาทำให้หนูเป็นผู้เป็นคน เขาทำให้หนูอยากจะเป็นคนทีดีขึ้นให้เขา อยากเป็นแบบนี้ให้เขาไปตลอด ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เรามีวันนี้

Q : เงินไม่ได้ให้คำตอบทั้งหมดของรัก  แม่เลี้ยงเดียวแบบแอนนี่?

A : ใจเขาใจเรา ถามว่าเงินมีอำนาจมากไหม มากกว่าความรักของพ่อแม่ไหม ไม่นะ เวลาต่างหาก ความผูกพัน การกอด การอธิบาย การพูดคุยกันทุกวัน การกอดกันก่อนนอนมันมีความสุขที่สุด แล้วเด็กก็จะโตมาพร้อมความรักความอบอุ่นซึ่งเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ให้เขาไม่ได้ ไม่ว่าจะมีเงินมากมายขนาดไหนแต่ถ้าคุณไม่เคยหัวเราะเล่นกับลูกแม้แต่ครั้งเดียว ครอบครัวแบบนั้นจะไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับคุณ