สู้ชีวิต "สำลี" อดีตผู้ช่วยนักมายากล กับชีวิตใหม่ที่มีลูกเมียเป็นกำลังใจ
เป็นข่าวอีกครั้งเมื่อ “สำลี สังวาลย์” อดีตผู้ช่วยนักมายากลชื่อดังโพสต์รูปบ้านหลังใหม่ที่จังหวัดสระแก้ว จากเมื่อ 14 ปีก่อนเคยเป็นข่าวว่าตกอับ ลำบาก ร้องไห้ลูกป่วย ไม่มีเงินพาลูกไปหาหมอ วันนี้ “สำลี” กำลังจะขึ้นบ้านใหม่ มีรถขับ ครอบครัวก็หน้าชื่นมีความสุขพร้อมหน้า ทีมข่าวเลยไม่ขอรอช้า พร้อมต่อสายตรงให้เจ้าตัวได้เปิดใจถึงเส้นทางสู้ชีวิตหลังหายหน้าไป 6 ปี
Q : หลายปีก่อน ชีวิตลำบาก ขนาดร้องไห้ไม่มีเงินรักษาลูกป่วย ?
A : ก็หลายปีแล้ว หลังจากข่าวออกไปที่ลูกป่วย กรณีนั้นก็ทำให้ผมเป็นหนี้ ผมออกมาขายของออนไลน์เรื่อยมา ก็อยู่กับครอบครัว ลูกสาวตอนนั้นป่วย ซี่โครงหายไปอย่างละซี่ หมอนรองกระดูกผิดรูป หมอบอกถ้าผ่าตัดต้องไปที่จีน ต้องใช้เงิน ถ้าผ่าตัด โอกาสรอด 20 เปอร์เซ็นต์ หมอก็ให้คำปรึกษารักษาในบ้านเราไปเรื่อยๆ ผมก็ร้องไห้เลยตอนนั้นก็พยายามหาทางรักษาเรื่อยมา ตอนนั้นลูกสาว 6 ขวบ ก็ทำตามที่หมอสั่ง เพราะไปจีนก็ใช้เงินหลายล้านเงินเราไม่มี ก็รักษาตามแพทย์สั่ง น้องก็ค่อยๆ ดีขึ้น จากนั้นพี่ๆ ที่รู้จักก็บอกผมว่าลองเอาของมาขายเผื่อมาเลี้ยงครอบครัวได้
Q : จุดเริ่มต้นขายของออนไลน์ ?
A : ผมเริ่มขายกระเป๋าแฟชั่นก่อน กระแสตอบรับมีทั้งเอฟซีมาให้กำลังใจ โดนโจมตีก็มี ผมไลฟ์สดก็โดนด่าเหมือนกัน คนที่เข้ามาเป็นหมื่น แต่บางทีขายได้ 10 ใบก็มี โดยมากเข้ามาบูลลี่เราแบบว่าคนเรามีทั้งรักและเกลียด มุมมองคนหลายแบบให้กำลังใจก็มี แต่นักเลงคีย์บอร์ดเยอะมาก ด่าเราเหมือนหมูหมาก็มี ผมก็ทนผมก็ไหว้พระ
Q : จากนั้นทำอะไรต่อ ?
A : ผมไปขายเสื้อกีฬา ขายอุปกรณ์มือถือบ้าง มีช่วงหนึ่งขายไม่ได้เลย ท้อแท้ เหนื่อย ไลฟ์คนดู 10 คนก็มี โดนโกงก็มี ก็สู้ๆ จน มาถึง 5 ปีภายหลัง ผมก็พยายามดิ้นรนหาทาง พยายามเก็บเงินให้เมียบริหารทุกอย่าง มีคนมาอุดหนุนเยอะขึ้น บางคนที่ติดตามตั้งแต่ปีแรกที่เราขายวันนี้ก็ยังติดตามดูเราตลอด ผมเชื่อว่าที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเขาดูน้องสำลีอยู่ ผมบอกจะไม่คดไม่โกงจะจริงใจแก่ลูกค้า
Q : ที่รวยขึ้นเกิดจากอะไร ?
A : ขายของออนไลน์ล้วนๆ รถที่ขับอยู่ก็มาจากการขายออนไลน์ มาจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ไม่ได้คดโกงหรือทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย อย่างเรื่องการขายกางเกงยีนส์ คือเมื่อ 4 ปีแล้ว แรกๆ ไม่มีความรู้เลย เป็นโชคมากกว่าต้องขอบคุณพี่เอสที่ยื่นโอกาส และจุดประกายให้ผมรู้จักยีนส์วินเทจ ตอนนั้นได้มา 300 ตัว เป็นยีนส์แบบซิป แรกๆ ผมปฎิเสธไป เพราะกลัวขายไม่ได้ ผมบอกว่าไม่มีทุนเพราะราคาสูง เขาบอกว่าเอาแบบนี้นะให้ผมไปขายก่อน ถ้าขายได้ก็เอามาแบ่งเปอร์เซนต์ เมียผมเลยสอนผมว่าอย่าบอกว่าทำไม่ได้ถ้าไม่ลองทำ หลังจากนั้นพี่เขาส่งยีนส์มาให้ผมโดยรถตู้มาที่แปดริ้ว ตอนนั้นผมยังไม่มีรถที่ผมขับอยู่ ก็ไปรับของเย็นวันนั้นพอคัดไซส์เสร็จก็กลับมาไลฟ์ขายผมขายได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ หมดเกลี้ยงขายดีมาก
Q : เงินก้อนแรกที่ได้มา เอามาทำอะไร ?
A : ก็ยังไม่ได้ดาวน์บ้านนะ ผมก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ ที่ผมอยู่ทุกวันนี่ก็คืออาศัยจอดรถ เราก็กลัวมีปัญหาข้างหน้า ลูกก็เริ่มโต อยากขยายครอบครัว ผมบอกเมียว่าน่าจะมีบ้าน ผมก็เอาเงินที่ขายของออนไลน์ที่เก็บไปดาวน์บ้านดีไหม ผมก็ไปโครงการบ้านมาหลายแห่ง คือเมียผมอยู่กบินทร์ไง ย่านนี้เป็นแหล่งทำมาหากินก็ถูกใจโครงการนี้ ผมตัดสินใจเลือกที่นี้แล้วก็อยู่ใกล้คนที่สนับสนุนที่เคยให้เอายีนส์มาขายด้วย แรกๆ เราคุยกับธนาคารไม่ผ่านสักทีจนมาถึงโครงการนี้ เจ้าของโครงการน่ารัก ทุกอย่างเป็นใจจนกู้แบงค์มาได้จำนวนหนึ่งก็นำมาดาวน์บ้าน ทุกอย่างเกิดจากที่ผมเก็บเงินและใช้อย่างมีประโยชน์
Q : ราคาบ้าน ?
A : 6 ล้าน ตอนนี้มอบกรรมสิทธิ์แล้ว ผมกำลังจัดสวน ติดแอร์ กล้องวงจรปิด ทำไปทีละขั้น เงินหมดไง ค่าจดจำนอง มีบ้านหลังหนึ่ง ใช้เงินสำรองด้วยที่ผมสะสมมา
Q : ครอบครัวแฮปปี้มากขึ้น ?
A : ครับจากวันที่ผมเคยร้องไห้ที่ห้วยขวาง 14 ปีแล้วจนเป็นข่าวว่าไม่มีเงินไปรักษาลูก แต่ชีวิตเปลี่ยนก็ 6 ปีหลังที่มาขายของออนไลน์ พี่ๆหลายท่านถามมาเยอะ หนูท้อแท้อยากฆ่าตัวตาย พี่สำลีทำยังไงจากคนตกอับ ผมจะบอกแนวทางบางคนมาขอเงิน ผมบอกพี่ผมมีรายจ่าย แต่ผมจะบอกว่าให้ทำมาหากินและเก็บออม หลายคนโทรมาคุยกันร้องไห้ชีวิตจากที่เคยลำบากขนาดนั้น ตอนนี้มีคนมาขอคำปรึกษา ยิ่งบ้านเมืองตอนนี้ภาวะโควิดด้วย เศรษฐกิจด้วย เราเคยลำบากมาก่อน ผมโชคดีที่พ่อตาแม่ยายและครอบครัวที่เข้าใจผมให้โอกาสผม เมียก็ไม่ทอดทิ้งอยู่กับผมทุกครั้งไม่ว่าทุกข์หรือสุข คอยเช็ดน้ำตาช่วยผมตลอด