“นิต้า อนิพรรณ” อัปเดตปมคุณแม่ถูกแจ้งความฐานฉ้อโกง ยันเคลียร์ใจกับ “แนท” แล้ว
เข้าสู่กระบวนการไกลเกลี่ยกับลูกหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการเกิดกรณีที่ทาง “น.ส.ภิญญลักษณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์”ซึ่งเป็นคุณแม่ของ “นิต้า อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์”ถูกแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงหลังถูกหลอกชักชวนลงทุนธุรกิจโมเดลลิ่งและรับงานถ่ายโฆษณาจนทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาท ล่าสุดทาง “นิต้า อนิพรรณ”ก็ได้ออกมาอัปเดตถึงเรื่องนี้พร้อมยืนยันทางคุณแม่และน้องสาว “แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” ได้คุยเคลียร์ใจกันแล้วให้ฟังด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ : “นิต้า อนิพรรณ” ไม่กดดันถูกเปรียบเทียบหลังโดดรับงานแสดงตามน้องสาว
ก่อนหน้านี้ทางลูกหนี้ติดต่อมาหาตนเยอะคิดว่าเพราะเป็นคนใจดีที่สุดสามารถคุยผ่านได้ง่ายที่สุดแต่ก็ไม่ได้เครียดหรือกังวลอะไรที่ผ่านมาทางบ้านก็เคยเป็นหนี้อยู่แล้วเลยมีตอนแรกตกใจแต่พักหลังก็รู้ส่วนตัวได้คุยกับคุณแม่ณ.ตอนนั้นและไม่รู้ท่านทำธุรกิจนี้จะคุยกันเรื่องอื่นมากกว่ารับตอนนี้คุยให้กำลังใจคุณแม่ช่วยหาทางออกให้เท่าที่จะช่วยได้ท่านก็บอกขอเวลาเจ้าหนี้นิดนึง กับทาง “แนท อนิพรณ์” ก็คุยกันตลอดเป็นตัวกลางที่จะบอกคุณแม่เพราะตอนแรกจะไม่ได้คุยกันกับที่ทางน้องสาวจะเครียดมากเพราะสีหน้าเขาเป็นแบบนั้นมากว่าปกติเขาจะชิลและทางน้องก็ได้คุยกับคุณแม่แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องในชั้นศาลประเด็นนี้จะเป็นคุณแม่กับเจ้าหนี้เท่านั้นน้องก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรโดยตอนที่เจ้าหนี้โทรมาตอบได้เท่าที่ได้
ทั้งนี้มองว่าทุกบ้านมีปัญหาแค่หาทางออกเป็นหนี้ยืมมาก็ต้องใช้แต่ต้องขอเวลานิดนึง ยันเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับงานถึงตนและน้องแค่ตกใจหาทางแก้กันมากกว่าซึ่งส่วนตัวจะเป็นคนกลางแต่พักหลังน้องกับคุณแม่ได้เริ่มคุยกันแล้วท่านเองก็ไม่อยากให้ตนกับน้องไปเกี่ยวข้องเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่รู้เรื่องแต่รับรู้ในฐานะลูกคุณแม่ก็รู้สึกผิดมากตอนแรกธุรกิจไปได้ดีแต่จะโทษเป็นเพราะพิษโควิดอย่างเดียวก็ไม่ได้การทำธุรกิจต้องมีการวางแผนทางคุณแม่จะสู้เดินหน้าต่อ
สำหรับเรื่องที่น้องสาวกับคุณแม่ถูกจับตามองอย่างที่บอกได้คุยกันไม่มีปัญหาอะไรกันแล้วที่ก่อนหน้านี้น้องไม่รับรู้ทำให้มีปัญหากันด้วยความที่ทั้งคู่นิสัยใจร้อนและพูดเร็วเวลาคุยกันไม่มีใครฟังกันตนจะเป็นคนฟังซะมากกว่า ทั้งนี้ที่ได้เกิดเหตุการณ์เข้ามาในชีวิตทำให้แกร่งขึ้นเวลาที่รับรู้ปัญหาไม่ได้ลำบากใจที่เป็นคนกลางชอบฟังและสรุปใจความสำคัญเหมือนเป็นการประสานรอยร้าวให้และไม่แน่ใจจะใช้หนี้หมดในกี่ปีก็เริ่มใช้บางส่วนไปแล้วเท่าที่คุณแม่ท่านจะหาได้ไม่กล้าตอบกี่เปอร์เซ็นต์เดี่ยวเจ้าหนี้ได้ยินจะมาถามว่าทำไมเขาไม่เห็นได้เลยปัญหานี้ก็ต้องแก้เดินหน้าต่อไปกับความเชื่อมั่นที่จะทำธุรกิจนี้ก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ถ้าคุยกันดีตกลงน่าจะเข้าใจไม่มีปัญหาและตอนที่คุณแม่ท่านทำไม่คิดว่าจะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น