“ณวัฒน์” เคลียร์ประเด็น “อินดี้ จอห์นสัน” ถูกขู่ไม่รับงานทานข้าว พร้อมแจงยิบปมดราม่า “แอน จักรพงษ์”
กับกรณีที่ “เอม วิทวัส”หรือ “เอม ตามใจตุ๊ด” ได้ออกมาโพสต์แชทการคุยกันของ “อินดี้ จอห์นสัน” รองชนะเลิศอันดับที่ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ที่มีการเสนอให้ไปร่วมทานข้าวกับผู้ใหญ่ในราคา 20,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวได้ปฏิเสธไปแต่กลับถูกด่าหยาบคายพร้อมยังจะแฉให้ยับอีก จนทำให้ประเด็นดังกล่าวร้อนแรงในกลุ่มแฟนนางงามและโลกโซเชียล โดยล่าสุดทาง“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”ผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ก็ได้ออกมาเคลียร์เรื่องนี้พร้อมแจงยิบปมดราม่าที่เกิดขึ้นกับทาง “แอน จักรพงษ์” ให้ฟังด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ : “ณวัฒน์” เปิดใจเคลียร์ หลัง มิสแกรนด์ฯ ซบช่องวัน
ก็รู้สึกตกใจทางน้องส่งข้อความให้อ่านตอนนี้เป็นเรื่องของกฎหมายแบ่ง 2 ส่วนซึ่งทางน้องจะมีการไปดำเนินการทางกฎหมายในวันพรุ่งนี้ส่วนตนจะคุยกับฝ่ายกฎหมายที่บริษัทในข้อหาหมิ่นประมาทที่อีกฝ่ายมีการบอกมิสแกรนด์ขาย… ทั้งมีการด่าทอแบบไม่มีการอ้อมค้อมเพราะจากเรื่องในแชทกลายเป็นเรื่องสาธารณะไปแล้วยันเวทีนี้ไม่มีการขายอะไรไม่มีใครสามารถมาทำแบบนั้นได้และไม่กลัวเสียภาพลักษณ์แต่เป็นหนึ่งเคสที่เจอบ่อยซึ่งแชทที่หลุดออกมาคนพี่พิมพ์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับนึงเพราะช่วยจัดออแกไนซ์ให้กับเวทีมิสแกรนด์ฯเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว
กับเรื่องนี้ทาง“อินดี้” เดือดเพราะเป็นคนรู้จักกันมาก่อนแล้วมาพูดจารุนแรงน่ากลัว ชวนกินข้าว2 หมื่นไม่รับงานก็ด่าโง่มันคือมีเรื่องของความปลอดภัยด้วยเพราะอีกฝ่ายบอกมีแบล็คใหญ่และคำว่ากินข้าวของผู้หญิงก็เหมือนสื่อสารที่น่าจะเข้าใจว่าไม่ใช่แค่กินข้าวเป็นการสื่อถึงเรื่องอย่างว่าอยู่แล้วโดยขอจัดการเรื่องนี้ให้สิ้นซากเป็นการดูหมิ่นเวทีทั้งที่เราไม่เคยขายแต่ถ้าเกิดตัวนางงามจะรับงานแบบนี้ก็ขอปลดออกจากตำแหน่งทุกวันนี้มีการคัดกรองหลายชั้นส่วนตัวได้บอกกับน้องๆไปให้ดูเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์
ส่วนเรื่องหากอีกฝ่ายถ้าสำนึกผิดก็ขอให้เวลาถึงพรุ่งนี้ตอนเที่ยงส่งอีเมล์มารับสารภาพได้จากหนักจะกลายเป็นเบาโดยคำขอโทษต้องการอยู่แล้วแต่ต้องการมากกว่านั้นอย่าทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่และนางงามทุกคนมีสิทธิ์ฟ้อง ไม่กลัวจะมีแบล็คใหญ่เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตายอยู่แล้ว
สำหรับประเด็นดราม่ากับ“แอน จักรพงษ์” ก็ไม่ขอเอ่ยชื่อมองว่าคนเราต้องมีเหตุผลมีหลักการการสนับสนุนกันในฐานะเป็นลูกค้าก็เป็นแบบนั้นจริงแต่เป็นการทำตามข้อตกลงในเรื่องผลประโยชน์กันและกันทั้งสองฝ่ายส่วนตัวก็ทำงานเต็มที่เต็มความสามารถ พร้อมเผยเมื่อปี 2561 เด็กในสังกัดตน 20 คนไปเดินแฟชั่นชุดไทย แต่ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกซึ่งไม่มีห้องแต่งตัวต้องไปแต่งตัวกันตามซอก ทุกคนทำงานลำบาก แต่ทุกคนทำงานได้เต็มความสามารถ ซึ่งเป็นแบบนี้หลายครั้ง
ด้านเรื่องสปอนเซอร์อีกฝ่ายก็จ่ายเงินช้า ตนทวงแล้วทวงอีกและที่พูดมีหลักฐาน หลักการทุกอย่างชัดเจนก็เป็นปีที่บริษัทตนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ถ้ามีปัญหาเรื่องหนี้ข้ามปีจะทำให้เกิดปัญหาและไม่แน่ใจว่าปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะอะไร เป็นเพราะเด็กของอีกฝ่ายที่สื่อสารไม่รู้เรื่องหรือเปล่าเพราะลูกน้องเขาชอบอ้างว่านายไม่อยู่ นายไม่เข้าแต่เรื่องเงินก็ได้เคลียร์กันจบหมดไปเรียบร้อยแล้วอย่างวันนี้ที่ออกมาพูดไม่ได้ทวงเงินเพราะได้ครบแล้วอีกฝ่ายไม่ผิดแค่ดีเลย์ย้ำไม่ได้เนรคุณที่ตนพูดคือความจริงและไม่ได้โกรธซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยงาน ไม่ได้ร่วมงานกันอีกเลย
กับที่ได้โพสต์ไปหากมองว่าตนเกาะคนดังตนคงไม่พูดถึงอีกฝ่ายที่พูดเกาะเนื้อเรื่องมากกว่าให้ไปลองย้อนดูเทปสัมภาษณ์ในรายการเก่าซึ่งเคยชื่นชมสนับสนุนขนาดไหน เพราะอีกฝ่ายเก่งและเป็นคนจริงจังแต่พอเห็นที่ไปออกรายล่าสุดมันไม่ใช่สิ่งที่อยากจะเคยผลักดันเรื่องที่พูดในรายการเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมโดยเรื่องที่อีกฝ่ายว่า ตนให้ไปแปลงเพศก็ไม่ได้โกรธ
ถามว่ากลัวคนมองคนข้ามเพศเป็นลบไหม คิดว่าเรื่องนี้ควรมองที่รายบุคคล โดยเผยทิ้งท้ายว่าจะเป็นเพื่อนกันได้หรือเปล่าก็คงจะไม่เป็นไร เจอแล้วก็คุยได้แต่ไม่ขอคุยเรื่องงานและสนับแนวทางแบบนั้นไม่ได้จริงๆและขอให้ใจเย็นทุกอย่างจะค่อยผ่านไปได้แน่นอน