“โต๋-ไบรท์” เล่าโมเมนต์หวานเซอร์ไพรส์ขอแต่ง แจงหลังจัดงานหมั้นในรพ.ช่วงโควิด-19
ได้มีการเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานกลางรายการสดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับ “โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” กับ “ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ”โดยล่าสุดทั้งคู่ก็ได้ควงกันออกมาเผยถึงโมเมนต์พร้อมแจงดราม่าหลังจัดพิธีหมั้นในโรงพยาบาลช่วงโควิด-19ให้ฟัง
อ่านข่าวต่อ : เปิดคำอวยพร “ไบรท์” ถึง “โต๋” โชคดีที่สุดได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต ...
โดย“โต๋ ศักดิ์สิทธิ์”เผยว่าเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาตนตั้งใจอยากจะไปขอฝ่ายหญิงแต่งงานที่เลือกวันที่ 25เพราะเป็นวันที่มีความหมายของทั้งคู่คือเป็นวันแรกที่คบกันอย่างเป็นทางการคือวันคริสต์มาสเมื่อ 9 ปีที่แล้วและที่ขอในรายการเพราะมองว่าเป็นที่ของฝ่ายหญิงด้วยกับที่หลายคนมองถ้าเป็นศิลปินต้องขอบนคอนเสิร์ตก็คิดว่าควรจะไปขอผู้หญิงในที่ที่เขาสวยที่สุดและที่ที่เป็นบ้านของเขานั่นคือรายการเรื่องเล่าฯไปขอบคุณแฟนเพลงแฟนข่าวที่ติดตามเพราะทุกคนคงเห็นคู่เรามาตั้งแต่วันแรกเมื่อ 9 ปีก่อนซึ่งอยากจะไปขอทุกท่านด้วยว่าจะแต่งงานกันแล้ว
ซึ่งพอวันที่ 2 มกราคมก็ได้มีการจัดพิธีสู่ขอและพิธีหมั้นแบบเล็กๆในครอบครัวที่โรงพยาบาลก็อยากให้คุณแม่ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงเห็นและมั่นใจว่าลูกสาวของท่านจะมีคนดูแลรวมถึงให้คุณแม่ได้อวยพรให้ด้วยเป็นสิ่งที่มีความหมายกับทั้งคู่.และครอบครัวมาก
“ไบรท์ พิชญทัฬห์” เผยว่า ถ้าย้อนไปคุณแม่จะตื่นไม่ค่อยเยอะเนื่องจากว่าตัวโรคต้องระงับอาการปวดด้วยมอร์ฟีนจะทำให้หลับเยอะ แต่เช้าวันนั้นคุณหมอให้ยากระตุ้นก่อนหนึ่งวัน เพื่อให้ท่านรับรู้ดีขึ้นก็ลุ้นกันแต่ด้วยความที่ท่านเป็นแม่และไปบอกท่านก็รับรู้ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตัวท่านก็ฮึบมาก วันนั้นใช้เวลาไม่นานเพราะคุณแม่จะเหนื่อยมากคุณหมอก็ถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้างวันนี้ลูกสาวจัดงานต่อหน้าท่านก็บอกว่าดีใจซึ่งตนก็รู้สึกดีใจเช่นกันในฐานะลูกอย่างน้อยท่านได้รับรู้ว่าต่อไปจะมีคนดูแลไม่ต้องห่วงส่วนตัวจะสนิทกับคุณแม่มากและมีการถามเป็นห่วงอะไรตนไหมท่านก็ส่ายหัว
“โต๋ ศักดิ์สิทธิ์” วันนั้นก็ตั้งใจบอกกับคุณแม่และตั้งใจให้คุณพ่อคุณแม่ตนไปด้วย อยากให้คุณแม่มั่นใจว่าตนและครอบครัวจะรักดูแลฝ่ายหญิงเหมือนลูกสาวบอกคุณแม่ว่าไม่ต้องห่วงจะดูแลตลอดแล้ววันนั้นมันก็มีความหมายมากยังจำแววตาที่คุณแม่ยิ้มรับให้ได้เป็นสัญญาที่ให้ไว้และก็ทำตามทุกอย่าง
พร้อมเผยงานหมั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันผ่านการปรึกษาผ่านการขออนุญาตกับคุณหมอหมดแล้วโดยแต่งงานทุกอย่างแพลนไว้กลางปีนี้แต่ปลายปีที่แล้วพอคุณแม่ฝ่ายหญิงไม่สบายหนักคุณหมอก็พูดกับตนว่าถ้าอยากจะทำอะไรควรรีบเลยเลื่อนทุกอย่างมา จากตอนแรกจะเป็นกลางปีนี้เลื่อนมาเร็วขึ้นหมดเลยเพราะสิ่งที่สำคัญก็คือมันไม่ใช่แค่ตัวเราอย่างเดียวอยากให้คุณแม่เขาได้เห็นว่าไม่ต้องห่วง
ส่วนฤกษ์ที่แน่ชัดพอเสร็จงานหมั้นวางแผนไว้ว่าเราจะจัดงานกันปลายปีแต่ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่หนักทั้งคู่คุณแม่ฝ่ายหญิงไม่สบายหนักต้องดูแลท่านและต้องทำงานด้วยก็พยายามอยู่ข้างกันตลอดและเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผู้จัดการตนก็มาเสียกะทันหันอีกก็พยายามปลอบใจกันตลอดว่าจะต้องเดินผ่านช่วงนี้ไปทำให้ไม่มีเวลานึกถึงจะจัดหาฤกษ์เมื่อไหร่ยังเป็นเรื่องรองอยู่เรื่องงานฉลองเอาไว้ก่อนไว้พร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวค่อยบอก เรื่องจดทะเบียนสมรสก็ยังไม่ได้คิดเลยเพราะว่าไม่มีเวลาคิด
“ไบรท์ พิชญทัฬห์” เผยทิ้งท้ายว่าตอนนี้ขอโฟกัสที่คุณแม่เป็นหลักเดี๋ยวจบงานก็จะไปที่โรงพยาบาลปกติหลังจากอ่านข่าวเสร็จก็จะไปโรงพยาบาลทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ พยายามจะใช้เวลากับคุณแม่ให้ได้มากที่สุด เรื่องอื่นคุยกันค่อยว่ากันและฝ่ายชายผจก.เพิ่งเสียด้วยเลยต้องประคับประคองกันไป