“จิ้งหรีดขาว” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เผยนาทีบีบหัวใจ สูญเสียแม่ช่วงโควิด
นางเอกลิเกชื่อดัง “จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ” ออกมา เปิดเผยชีวิตหลังสูญเสียคุณแม่ที่ตนเองนั้นเศร้าหนักมาก หวั่นเป็นโรคซึมเศร้า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow โดยเจ้าตัวบอกว่า
อ่านข่าวต่อ:“จิ้งหรีดขาว” เล่ารักซ้อนรักเจ็บปางตาย เมียตัวจริงประกาศตัว
สำหรับตอนนั้นนอกจากโควิดแล้ว คุณแม่ไม่สบายด้วยถึงขั้นเสียชีวิต นี่หนักหนาสาหัสสำหรับพี่หรีดมากเลย เราไม่เคยคิดว่าชีวิตเราน้องมาเจออย่างนี้ ทางคุณแม่อายุเยอะแล้ว 83-84 แล้วก็เป็นหลายโรค เบาหวาน ความดัน หัวใจอ่อนๆ แต่ ณ วันหนึ่งเรารู้สึกว่าแม่แข็งแรง วันหนึ่งอากาศเย็นเหมือนไม่สบาย อยู่ๆ หนักไปเลย แล้วก็เริ่มโควิดมา มันหนักมาก
คือเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเรา จะบนบวชชีพราหมณ์ทุกปีอยู่แล้ว พอบวชแล้วแม่ดีขึ้น เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง แกขาหักเป็นหนักกว่านี้อีก แล้วก็เดินได้หมายถึงว่าท่านขาหัก น้าหรีดก็ไปบวช ท่านกลับมาเดินได้
รอบนี้ก็เหมือนกัน ป่วยแล้วน้าหรีดไปบวช แล้วเขาก็อยู่ได้ แต่อยู่ใน ICU ไง ยื้อไว้ได้ 4 เดือน ณ ตอนนั้นมันยังพอมีงาน เริ่มโควิดใหม่ๆ พี่ยังถ่ายรายการ เชื่อไหมพี่เดินทางกรุงเทพฯ-ชัยนาท บางทีนั่งอยู่ ICU เฝ้าแม่เที่ยงคืนแล้วกลับมากรุงเทพฯ เช้าไปถ่ายรายการ ถ่ายรายการเสร็จกลับมาหาแม่ เป็นอยู่อย่างนี้เกือบๆ 4 เดือน
ที่เขาสั่งเสียไว้คือเขาบอกเลยว่าเขาไม่เจาะคอ แต่พอถึงเวลาจริงๆ หมอบอกว่าแม่เป็นภาวะหัวใจล้มเหลว หายใจเองไม่ได้ มันเหมือนต้องใส่ แล้วเราเหมือนขัดเขา มันบีบหัวใจมาก เราคิดว่าแม่อยู่ต่อได้ไหม แม่เคยดี แม่เคยกลับมาปกติได้ สรุปแล้วใส่ เห็นแม่สภาพแบบนั้น เราก็คิดกันเยอะ เราก็ปรึกษาพี่ว่าเราควรใส่ให้แม่ไหม พอใส่ไปแล้วก็ต้องเจาะคออีก มันเป็นสเต็ปของมัน เรารู้สึกมันบีบหัวใจทุกครั้งที่เราเห็นแม่นอนอยู่บนเตียง มันแย่ คืออยู่ ICU 4 เดือน พี่น้องทุกคนบอกว่าแม่รักบ้านมาก แม่บอกอยากจะกลับมานอนตายที่บ้าน ทุกครั้งที่พูดกันก่อนที่จะป่วย พูดกันเล่นๆ ว่า ถ้าแม่ตาย ตายที่บ้านนะ พอหมอบอกไม่ไหวแล้ว พี่น้องทุกคนบอกจะเอาแม่กลับบ้าน หมอไม่การันตีนะว่าการเดินทางแม่อาจจะเสียชีวิตตรงนั้นได้เลย มันเป็นอะไรที่บีบหัวใจมาก จากโรงพยาบาลมาที่บ้านประมาณเกือบ 20 โล เขาบอกเลยว่ามีสิทธิ์ที่จะไปกลางทางได้เลย
ตอนที่แม่มาไม่รู้สึกตัวแล้ว เหมือนทุกอย่างไม่ตอบสนอง จะมีลูกโป่งใหญ่ๆ บีบ ถ้าคุณหยุดบีบแม่ก็จะไปเดียวนั้น หลานชายซึ่งเป็นพยาบาลบีบ แล้วทุกคนนั่งล้อมแม่ในรถ บอกว่าแม่เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย จะถึงบ้าน ใจมันอยากให้แม่ถึงบ้าน ตรงนั้นบีบหัวใจมาก เราน้ำตาไหล แล้วมองแม่ แม่ไปให้ถึงนะ เอาที่แม่อยากถึงบ้าน พอถึงหน้าประตูบ้านลูกหลานทุกคนรอเต็มหน้าประตูบ้านเลย แล้วพอเอาแม่ลงก็ยังบีบกันอยู่ เขาบอกเลยว่าอยู่ได้ชั่วโมงครึ่งนะ ยากระตุ้นมันต้องหมดตามที่หมอสั่ง เราต้องหยุดบีบ พอแม่นอนที่บ้าน บีบลูกโป่งอยู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมา เหมือนเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่เราต้องหยุดบีบลูกโป่งแล้ว มันเหมือน นี่เราจะฆ่าแม่เหรอ หลานบอกไม่ได้น้าหรีด เราต้องลงกันแล้ว ยังไงยากระตุ้นก็ต้องหมด พอทุกคนบอกแม่ไปทุกอย่าง ทำครบทุกอย่าง พอหยุดบีบลูกโป่งเขาไปเลยนะ
คือเราอยากจะพูดว่าแม่อยู่ต่อไหม บีบกันต่อได้ไหม ยามันหมดคือเขาไป หลังจากที่คุณแม่ไปแล้ว เราก็ยังนอนร้องไห้อยู่เป็นเดือน พี่คิดว่าพี่เป็นโรคซึมเศร้า เพราะว่าเวลาที่มันสะสม พี่มีความรู้สึกว่าเหมือนจิตพี่ป่วย มันอยู่ในภวังค์ อยู่ในความเศร้าตลอดเวลา 4 เดือนผ่านไป จนแม่เสียไป อีกประมาณ 2 เดือนพี่ยังไม่รู้สึกดีเลย ทุกคนจะรู้สึกว่าพี่เป็นคนสนุกเฮฮา แต่พอกลับบ้านไปพี่นั่งร้องไห้ มันเหมือนยังมีอะไรอยู่ในสมองเรา เหมือนแม่ยังอยู่ในใจตลอดเวลา แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ เวลามันช่วยเยียวยา