“รัศมีแข-มดดำ” ขึ้นศาลหวังไกล่เกลี่ย จากกรณี “ไฮโซแชมป์” ฟ้องหมิ่นประมาท
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (14 ก.พ.) “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” และพิธีกรชื่อดัง “มดดำ คชาภา” ได้เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อเข้าไต่สวนในคดีหมิ่นประมาท เกี่ยวกับไฮโซชื่อดัง โดยล่าสุด “รัศมีแข” พร้อมทนายได้เปิดใจหลังขี้นศาลว่า
วันนี้ศาลท่านให้มาไกล่เกลี่ย คดีนี้สืบเนื่องมาจากที่เขาฟ้อง นัดแรกเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ปี 64 มาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นทนายและโจกท์เองขอเลื่อน โดยคำสั่งศาลด้วยระเบียบของโควิด จนถึงวันนี้ 14 ก.พ. ปี 65 ซึ่งวันนั้นศาลได้กำชับว่า อยากให้ทุกคนมาวันนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยกัน เพราะมันเป็นคดีที่คุยกันได้ ทางเราได้เชิญ มดดำและแข มาศาล ตามที่ศาลอยากให้มา เพื่อไกล่เกลี่ย เรามาด้วยเจตนาที่ดี แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เจอเหมือนเดิม ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 วันนี้คู่กรณีก็ไม่ได้มา แล้วทางทนายเขาก็ขอเลื่อนเหมือนเดิม ถามว่าวันนี้ผมคัดค้านไหม ผมก็คัดค้าน ทางทนายพี่มดดำก็คัดค้าน ท่านก็มองว่าถ้าเป็นอย่างนี้ ก็นัดขึ้นไวหน่อย เป็นวันที่ 25 เมษายน
สาเหตุที่คู่กรณีไม่มา ต้องเรียนอย่างนี้ ฝั่งคู่กรณีถ้าพูดถึงโจกท์ เท่าที่ผมทราบก็คือ ผมไม่รู้ว่าเขากลับมาจากต่างประเทศหรือเปล่า ในส่วนคดีอาญาที่ทางผมฟ้อง ที่ศาลแขวงพัทยา ที่อัยการฟ้อง มีการออกหมายจับ เท่าที่ผมสอบถามจากพนักงานสอบสวน
ด้านรัศมีแขเผยต่อว่าเรารู้สึกภูมิใจในตัวเราเอง ตั้งแต่เราโตมา เราโตที่ต่างประเทศ การศึกษาที่เราได้รับ มันบ่มให้มองตัวเราเองว่า เราเป็นคนที่ถูกต้องแล้ว เป็นคนที่คู่ควรที่อยู่ในสังคม อีกหนึ่งความภูมิใจก็คือ การที่เป็นลุง เป็นน้า เป็นหลาน แล้วได้ทำหน้าที่ ตามกฎหมายทุกอย่าง แม้ว่าตัวเราจะโดนฟ้องร้องก็ตาม แต่เรามาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนเรื่องของคดีอันนี้ต้องปรึกษาทนาย อย่างที่บอกแขไม่ได้อยู่เมืองไทย ไม่รู้ว่าระบบการจัดการที่นี่ทำยังไง เพราะการมาศาลทุกครั้งของแข ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องคดี แขจะคิดทุกอย่าง โอเคที่สวีเดนเป็นแบบนี้ ก็น่าจะประมาณนี้ ตามความรู้สึกของแข กับพี่มดดำก็ได้คุยกัน ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของทนายทั้งหมด
ด้านทนายบอกต่อว่าวันนี้ที่มาเรามาโดยหลักจำเลยไม่ต้องมาก็ได้ แต่ที่เรามาวันนี้จากที่ศาลท่านสั่งให้มา แต่ท้ายที่สุดที่เรามีเจตนาจะมาคุยด้วยเต็มใจอยากคุยจริงๆ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้คุย ศาลท่านมองว่าถ้าครั้งหน้าไม่มาอีก ศาลก็ต้องกำชับเลยว่าถ้านัดหน้าไม่มาก็ต้องจำหน่ายคดี ยกฟ้องไปเลยแล้วแต่ท่านสั่ง ซึ่งในนัดหน้าวันที่ 25 เม.ย. ในส่วนคดีทำร้ายร่างกาย แขยืนยันเอาเรื่องเต็มที่ เราอยู่ในประเทศที่มีกฎหมาย แล้วกฎหมายก็คุ้มครองสิทธิของเราอยู่แล้ว กับสิ่งที่แขสูญเสียไป หน้าแขอาจจะไม่เป็นอะไรตอนนี้ด้วยเวลาที่รักษาหาย แต่ว่าความรู้สึกของแขข้างในใครรักษาได้บ้าง สิ่งนี้แหละที่มีมูลค่าที่สุด
คดีอาญาเราฟ้องที่ศาลแขวง พัทยา นัดอีกประมาณวันที่ 16 มี.ค. ที่ศาลแขวงพัทยา ซึ่งคดีที่ศาลแขวงพัทยาศาลประทับฟ้องแล้วนะ นัดต่อไปคือนัดสอบคำให้การเขาก็ต้องไปศาล แต่ในส่วนของคดีที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการฟ้องก็เดินอยู่เหมือนกัน ถ้าพูดกันสั้นๆ คดีอาญาเราเดินอยู่สองเส้นทาง เส้นทางทนายฟ้องเอง กับเส้นทางตำรวจ ผมพยายามติดตามตลอดก็คือว่าพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งให้อัยการแล้ว แต่ตัวผู้ต้องหาไม่ยอมไปพบพนักงานอัยการก็เลยออกเป็นหมายจับขึ้น