10 อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์เพิ่มโอกาสสำเร็จ มีลูกน้อยที่สมบูรณ์แข็งแรงรับปีกระต่าย
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำมีบุตรยากคือ การทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ หรือ เรียกว่า “ภาวะทุพโภชนาการ” ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ผิดปกติ ไข่ไม่โต ฮอร์โมนไม่สมดุล ครูก้อย - นัชชา ลอยชูศักดิ์ ผู้ก่อตั้งเพจBabyandmom.co.th เพจที่ให้ความรู้และการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยากตามหลักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาและรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับหลักโภชนาการในการรับประทานอาหารที่จะช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยบำรุงไข่ บำรุงมดลูก และปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงบำรุงคุณภาพสเปิร์มของฝ่ายชาย เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ ได้แนะนำ “10 อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์เพิ่มโอกาสสำเร็จมีลูกน้อยที่สมบูรณ์แข็งแรง ” ที่สามารถหาทานได้ง่าย เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์แข็งแรงตามที่ปราถนา
1. โปรตีน
ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ควรทานโปรตีนให้เพียงพอเพื่อบำรุงเซลล์ไข่ให้อ้วนโต สร้างผนังมดลูกให้แข็งแรง เน้นทานโปรตีนจากพืช ลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะมีงานวิจัย จาก Harvard School of Public Health พบว่าผู้หญิงกินโปรตีนจากสัตว์จำนวนถึง 39% จะประสบปัญหาภาวะที่มีบุตรยากมากกว่าผู้หญิงที่กินโปรตีนจากพืช โดยแหล่งโปรตีนจากพืช ที่มีประโยชน์ ได้แก่ อัลมอนด์ วอลนัท ถั่วลูกไก่ ถั่วเหลือง เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน และยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยของผู้หญิงที่อยากตั้งท้องอีกด้วย ส่วนแหล่งโปรตีนจากสัตว์ ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ ได้แก่ ไข่เป็ด ไข่ไก่ ปลาทะเล ปลาแซลมอน ทานนมแพะแทนนมวัว เนื่องจากนมวัวมีน้ำตาลแลคโตสสูงกว่านมแพะจึงเสี่ยงต่อภาวะ PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง แถมยังโมเลกุลใหญ่ ย่อยยาก ตกค้างในลำไส้ นมแพะ มีโปรตีนที่ก่อให้เกิดการแพ้น้อยกว่านมวัวถึง 89% และเมื่อตั้งครรภ์แล้วลูกอาจเสี่ยงที่จะแพ้นมวัวได้
2. ผักใบเขียว
ไม่ว่าจะเป็น ผักโขม ผักคะน้า บรอกโคลี ล้วนอุดมไปด้วยกรดโฟลิกช่วยสร้างและป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทของตัวอ่อน อีกทั้งช่วยซ่อมแซมพันธุกรรมสร้างกรดอะมิโนที่ใช้แบ่งเซลล์สร้างเม็ดเลือดแดงและขาวในไขกระดูกของลูกน้อย แคลเซียมมีส่วนช่วยป้องกันคุณแม่สูญเสียมวลกระดูกเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างกระดูกของทารกในครรภ์ และวิตามิน E ช่วยเร่งและเพิ่มอัตราไข่ตก, บำรุงครรภ์ อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งผักใบเขียวยังมีวิตามินเอ และอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ที่เพิ่มออกซิเจนให้เลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกได้ดี ทำให้มดลูกแข็งแรง เพิ่มโอกาสสำเร็จที่ตัวอ่อนจะฝังตัว และที่สำคัญควรทานวันละไม่ต่ำกว่า 400 กรัม หรือ 8/10 ส่วน ในรูปแบบกินเพียว ชงผงผักดื่ม หรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ เพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อการกินผักมากเกินไปและทำให้ร่างกายได้รับวิตามินที่เพียงพอต่อความต้องการ
3. อาหารทะเล
ปลาทะเล เป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมอง ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ได้ดี อีกทั้งสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศอีกด้วย อาหารทะเลอีกหนึ่งชนิดที่อยากแนะนำคือ หอยนางรม อุดมไปด้วยสังกะสีและวิตามิน C, D, B12, ธาตุเหล็ก, เซเลเนียม และทองแดง ช่วยกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่สำหรับการตั้งครรภ์ ถ้าอยากให้เห็นผลควรทานก่อนวันตกไข่ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรนำมาปรุงสุกก่อน
4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์สืบพันธุ์เสียหาย ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อีกทั้งช่วยให้ภาวะเจริญพันธุ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังช่วยป้องกันท้องผูกและป้องกันทารกมีภาวะสมองผิดปกติขณะตั้งครรภ์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่
5. ข้าวกล้องและขนมปังจำพวกไม่ขัดสี
อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ผ่านการขัดสี ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดดี เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายจะใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานกว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่ผ่านการขัดสี ระดับน้ำตาลในเลือดจึงคงที่ ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้อิ่มง่าย ไม่รู้สึกหิวง่าย อีกทั้งช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารและขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดดี ได้แก่ ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีต และธัญพืช ทั้งนี้ควรเลือกและควบคุมปริมาณในการทานแต่ละครั้งให้เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
6. กล้วยหอม
อุดมไปด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ซุกโคส กรดอะมิโน ธาตุเหล็ก เกลือแร่ โพแทสเซียม เส้นใยอาหาร และวิตามิน B6 ซึ่งช่วยเสริมระบบประสาทและกล้ามเนื้อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ไข่ของผู้หญิงแข็งแรงขึ้นและลดโอกาสเสี่ยงต่อการแท้งลูก นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงและอิ่มนาน ทั้งนี้ไม่ควรทานก่อนทานอาหารมื้อหลักเพราะจะทำให้ทานอาหารได้ไม่เยอะ ทำให้ลดโอกาสการรับสารอาหารต่างๆ ในมื้ออาหารอีกด้วย และควรทานทุกเช้าเพียงวันละ 1-2 ลูกเท่านั้น เนื่องจากมีฤทธิ์ทำให้ท้องอืดง่าย
7. มะเขือเทศ
อุดมไปด้วยวิตามิน C โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส รวมถึงไลโคปีนที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวพรรณสดใส อีกทั้งปรับสมดุลของร่างกายในการบำรุงไข่ให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น นอกจากนี้หากทานในช่วงตั้งครรภ์จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย, บำรุงกระดูก, ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และป้องกันครรภ์เป็นพิษจากการติดเชื้อในกระแสเลือดเพราะปัญหาความดันโลหิตสูงจนทำให้คลอดก่อนกำหนดอีกด้วย แถมยังมีกากใยสูงช่วยย่อยอาหารและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
8.เมล็ดแฟล็กซีด เมล็ดฟักทอง และงาดำ
เป็นธัญพืชที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงร่างกายคุณแม่ โดยเมล็ดแฟล็กซีด เปรียบเป็น โอเมก้า3บนดิน มีความปลอดภัยจากการปนเปื้อนสารพิษ เมื่อเท่ียบกับปลาทะเลน้ำลึกที่มีโอเมก้า3สูงเช่นกัน สำหรับโอเมก้า3 เป็นกรดไขมันดี มีผลดีต่อการสร้างสมองและระบบสายตาของทารกในครรภ์ นอกจากนั้นแล้วสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Clinical Nutrition เมื่อปี 2016 พบว่าการรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดภาวะไข่ไม่ตก และเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ทำให้มดลูกหนาตัวเตรียมพร้อมรับการตั้งครรภ์ขณะที่ เมล็ดฟักทอง พบว่ามีธาตุสังกะสี หรือ Zinc สูง สำหรับ Zinc มีความสำคัญต่อการทำงานของรังไข่ ผลิตไข่ และการพัฒนาของเซลล์ไข่ในระยะเริ่มต้น รวมถึงการแบ่งตัว และความพร้อมในการปฏิสนธิ และ งาดำ เป็นธัญพืชที่ให้ธาตุเหล็กสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ คือ เซซามินสูง ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันเซลล์ไข่เสื่อม
9. อโวคาโด้
อโวคาโด อุดมไปด้วยไขมันดี และเป็นแหล่งของวิตามิน E ที่ช่วยเรื่องการปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง มีโพแทสเซียม และวิตามิน K ที่เป็นกลไกทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินชนิดอื่นๆ ได้ดีมากขึ้น นอกจากนั้นไขมันดีในอโวคาโด เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ที่งานวินัยค้นพบว่าเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เข้ามาทำลายระบบภายในของร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นอโวคาโดยังมีโฟแลตสูงที่เป็นยาทางธรรมชาติที่ป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ได้
10. ดื่มน้ำมะกรูดคั้นสด
น้ำมะกรูดมีสารต้านอนุมูลอิสระ “เควอซิทีน” สูง ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ปกป้องเซลล์ไข่ ลดภาวะไข่ฝ่อ ที่สำคัญน้ำมะกรูดคั้นสดยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอและทำให้วงจรไข่ตกเป็นปกติ และอุดมด้วยวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อทานน้ำมะกรูดเป็นประจำจะช่วยปรับให้แม่ๆ มีประจำเดือนมาเป็นปกติ และมีอาการปวดประจำเดือนน้อยลงด้วย ทำให้รังไข่และมดลูกแข็งแรง จึงผลิตไข่ที่มีประสิทธิภาพออกมาและเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาร Bioflavonoids หรือวิตามิน P ช่วยป้องกันเซลล์ต่างๆ ขณะเตรียมฝังตัวอ่อนเพื่อทำ IUI, ICSI หรือ IVF
ครูก้อย-นัชชา กล่าวด้วยว่า นอกจากแหล่งของอาหาร ที่แนะนำไปหากผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ ยังกังวลว่าสารอาหารในแต่ละมื้อได้รับครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือไม่ อีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถช่วยได้ คือ “การบำรุงแบบครบสูตร ด้วย “โปรตีน Ferty” โปรตีนมีที่ช่วยสร้างความสร้างสมดุลในระบบร่างกายให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ สำหรับ โปรตีน Ferty ที่ครูก้อยแนะนำให้ทานเป็นอาหารเสริมนั้น ผลิตจากพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี รวมถึงสารอาหารบำรุงเซลล์ไข่ครบถ้วนกว่า 33 ชนิด รวมถึงมีมัลติวิตามิน , กรดอะมิโน, คอลลาเจน, เบต้ากลูแคน, โฟลิก, Q10 จำนวน 30mg และ มีอิโนซิทอล ซึ่งเป็นสารบำรุงไข่ ถึง 150 mg โดย Ferty 1 ซอง มีโปรตีน 25 กรัม เท่ากับทานไข่ขาว 7-8 ฟอง นอกจากนั้นแล้วโปรตีน Ferty มาในรูปแบบของ Isolate Soy Protein ดูดซึมได้ทันที และสามารถทานได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์ จนถึงคลอดและให้นมบุตรได้
พร้อมเสริมด้วยวิตามินบำรุงเตรียมตั้งครรภ์ โอวาออล์ (OVA ALL) ประกอบด้วยกรดโฟลิก โคเอ็นไซม์คิวเทน ฟิชออยล์ และ มัลติวิตามินและแร่ธาตุรวมกว่า 20 ชนิด เพิ่มธาตุเหล็ก (Iron) บำรุงเลือด และสารบำรุงไข่ “อิโนซิทอล” (Inositol) อีกทั้งมีวิตามิน D3 เข้มข้นช่วยเรื่องการฝังตัวของตัวอ่อนที่เหมาะสำหรับหญิงเตรียมตั้งครรภ์ไว้ครบถ้วน
การทานอาหารที่มีประโยชน์ และเสริมด้วยวิตามินรวมถึงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการบำรุงร่างกาย ก่อนการตั้งครรภ์ ถือเป็นเคล็ดลับที่นำไปสู่ความสำเร็จของการตั้งได้สำเร็จ โดยสตรีที่มีประวัติตั้งครรภ์ยาก หรือ มีบุตรยาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใส่ใจให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เพื่อให้ภาวะเจริญพันธุ์มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จของการตั้งครรภ์ เมื่อแม่ๆบำรุงร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรงและพร้อมที่สุด ครูก้อยเชื่อเหลือเกินว่า เบบี๋ต้องมาอยู่กับเรา.