วิเคราะห์สรุปไทมไลน์คดี “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” และชู้รักม้วนเดียวจบเข้าใจง่าย
เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่รับต้นปี 2566 กรณี “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” ถูกกล่าวหาว่ามีชู้รัก ความแตกเมื่อ “ทนายตั้ม ษิทรา” ทนายความของฝ่าย อดีตสามีหญิง ออกมาเปิดเผยข้อมูลตามข่าวมากมาย
อ่านต่อ:“ทนายตั้ม ษิทรา” บอกพอกันทีกับลูกความแบบนี้ | daradaily
แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องเหมือนจะพลิกเมื่อทาง “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” ได้มีการฟ้องฝ่ายหญิงไปเมื่อ ปลายปีที่แล้วเช่นกัน ดาราเดลี่ขอสรุปและวิเคาระห์ตามที่สื่อต่างๆ รายงานดังนี้
ตุลาคม 2565
- อดีตรองนายก (นาย ย ชื่อสมมติ) มีความสัมพันธ์ลับๆ กับ นส.ธ ตั้งแต่ 2 ปีก่อน
- หลังจากนั้น นาย ย ได้มีการเข้าพิธีแต่งงาน กับ นส.ธ โดยมีรูปถ่ายของ นาย ย ถ่ายคู่กับ พ่อแม่ และ นส ธ ด้วย
- เดือน ตค ที่ผ่านมา สามี จับได้ว่า นส.ธ มีความสัมพันธ์ลับกับ นาย ย เพราะ นส.ธ เปลี่ยนไป
- สามีสืบจนได้เห็นแชต และ รูปถ่ายชวนสยิว ของ นส.ธ และ นาย ย
- สามี ขอ นส.ธ หย่า แต่ นส.ธ ไม่ยอมหย่า
- สามีเริ่มโวยวายว่าจะฟ้องหย่า
- สามีได้เปิดเผยว่า โดนข่มขู่
ธันวาคม 2565
- สามีรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงมาหาทนายตั้ม และขอให้เปิดเผยเรื่องนี้
- หลังจากที่ สามี จับได้ ว่า นส.ธ มึชู้ มีการเจรจาขอหย่า โดยมีการเรียกค่าเสียหาย 8 หลัก (ไม่ชัวร์นะ แต่ข่าวที่ได้ยินมาคือ 25 ล้าน ต่อรองได้)
- พอโดนจับได้ นาย ย ต้องเรื่องไปถึงศาล นาย ย จึงดำเนินการฟ้องกลับ นส.ธ และครอบครัว รวมทั้งสามี นส.ธ ด้วยว่า ฉ้อโกงสินสอด และ หลอกให้รัก
- ทนายตั้ม เปิดเผยว่า นาย ย รู้แต่แรกแล้วว่า นส.ธ มี สามีมาแต่ต้น ซึ่งอันนี้จะต้องรอดูความจริงกันต่อไป
ข้อสังเกตเป็นความเห็นในโซเชียลโดยซ้อขอเม้าท์วิจารณ์ว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ นาย ย จะพลิกเกมส์ คือ พอรู้ว่า โดนจับได้ว่ามีความสัมพันธ์ลับๆ กับ นส.ธ ซึ่ง มีสามีอยู่แล้ว และตกลงกันไม่ได้ จึงรีบดำเนินการฟ้อง เพื่อให้ ตอนที่ตัวเองโดน สามี นส.ธ ฟ้องหย่า จะได้มีหลักฐานไปบอกศาลว่า ไม่รู้มาก่อนว่า นส.ธ มีสามีมาแล้ว และเพื่อใช้การฟ้องนี้เป็นเกราะป้องกันข้อครหาจากสังคม ว่า ทำผิดศีลธรรม เพราะการฟ้องแบบนี้จะทำให้เข้าใจว่า นาย ย ไม่รู้มาก่อนว่า สน.ธ มีสามีแล้ว
- หรือ เป็นไปได้หรือไม่ว่า สามี นส.ธ รู้แต่แรกว่า นาย ย คบหากับ นส.ธ แต่แรก แต่เนื่องจากตกลงเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงออกมาฟ้องร้อง เพราะอีกฝ่าย เป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม ถ้าเกิดเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมา จะเสียหายหนัก
- ใดๆก็ตาม เรื่องนี้ ยังไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง แต่ข้อมูลที่ซ้อรู้มาคือ มันยังมีข้อมูลที่มากกว่านี้ แต่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งซ้อเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ดังนั้น รอดูต่อไป
มกราคม 2566
“ทนายตั้ม ษิทรา” ให้สัมภาษณ์ (12/01/66)
- นาย ย และ นส.ธ รู้จักกันมาตั้งแต่ ปี 65
- นาย ย รู้มาตั้งแต่คบกับ นส.ธ ว่า นส.ธ มีสามีแล้ว
- พอ สามี นส.ธ โวยวาย ว่าจะฟ้องหย่า นส.ธ จึงไปบอก นาย ย นาย ย จึงแก้เกมส์ด้วยการไปแจ้งความว่าโดนหลอกเอาสินสอด
- นาย ย มีเมียที่จดทะเบียนสมรสแล้ว
- ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ในทางกฎหมายที่ นาย ย จะไปจัดงานแต่งงานและให้สินสอดแก่ ญ อื่น
+++++++++++++++++++
- หลังจากที่ ทนายตั้ม แถลงข่าวเรื่องนี้ วันที่ 9/1/66
- วันที่ 10/1/66 นาย ย พาภรรยา ไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขตดุสิต
- วันที่ 11/1/66 อดีตภรรยานาย ย ไปเปลี่ยนนามสกุล และทำบัตร ปชช ใหม่
นาย ย แจ้งความว่า นส.ธ และครอบครัวหลอกเอาสินสอดเดือน พย
- สามี นส.ธ ฟ้องหย่า วันที่ 29-30 ธค
- ทนายตั้มแจ้งว่า ที่ นาย ย แจ้งความก่อน ที่ สามี นส.ธ ฟ้องเพราะ การห้องร้องต้องเตรียมเอกสาร จึงใช้เวลามาก แต่การที่ นาย ย ไปแค่แจ้งความ มันใช้เวลาแพพเดียว ดังนั้น นาย ย จึงแจ้งไวกว่า
- วันที่ 12/1/66 ทนายตั้ม และ สามี นส.ธ จะไปแจ้งความ เรื่อง นาย ย แจ้งความเท็จ ที่ สน บางยี่ขัน
- ที่พ่อ นส.ธ โดนหมายจับ เพราะ พ่อ นส.ธ มีหมายจับ คดีอื่นอยู่ เลยไม่ไปคุยกะเจ้าหน้าที่ เลยโดนออกหมายจับ
- ทนายตั้มมั่นใจว่า ไม่มีพิธีแต่งงาน แต่เรื่องนี้เป็นการกุเรื่องขึ้น