“เจจินตัย” ควงภรรยา-ลูกสาว เผยสาเหตุย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยถาวร?!
“เจจินตัย” วันนี้ขอควงภรรยาสาวคนสวย “บี อิสราวรรณ” และลูกสาว “น้องพลอยเจ” ที่ตอนนี้ทั้งครอบครัวกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว พร้อมเปิดชีวิตครอบครัวหลังไปตั้งรกรากใช้ชีวิตที่อเมริกานานกว่า 2 ปี บอกเลยว่าเกือบทำให้ชีวิตครอบครัวไปไม่รอด เผยสาเหตุอะไรที่ทำให้ตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทย ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31
อ่านข่าวต่อ: "เจ จินตัย" ตอบชัดคิดดันลูกสาว "น้องพลอยเจ" เข้าวงการหรือเปล่า
ครอบครัวนี้อยู่มาวันหนึ่งตัดสินใจย้ายจากเมืองไทยไปอยู่อเมริกา เกิดเหตุการณ์อะไรถึงไปทั้งครอบครัว ?
เจจินตัย : เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรื่องแรกคือโควิด
บี : ตอนนั้นลูกเรียนออนไลน์อย่างเดียวอยู่บ้านมากกว่า 6 เดือน มันนานจังเลยสงสารลูก
เจจินตัย : พออยู่ในออนไลน์เขาไม่มีสมาธิที่จะเรียนออนไลน์ เพื่อนที่อยู่อเมริกาก็เลยแนะนำว่าไม่ลองให้มาเรียนที่อเมริกา เพราะที่อมเริกามันผ่านช่วงพีคของโควิดมาแล้ว เด็กๆที่เรียนที่นั่นสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว แต่ที่ไทยกำลังพีคเลย เราก็คุยกันว่าเราจะไปลงทุนทำอะไรได้บ้าง เราเคยทำร้านอาหารอยู่แล้ยวงั้นเราไปลงทุนที่นั่นเราสามารถใช้วีซ่า E-2 ลูกก็จะไปเรียนที่นั่นได้ ก็เลยตัดสินใจไป
เริ่มแรกเลยคือการศึกษาของพลอยเจก่อน ?
เจจินตัย : ใช่ เขาไม่สามารถที่จะอยู่กับจอได้ เขาไม่มีสามาธิที่จะเรียนออนไลน์ได้ จากเรียนออนไลน์เป็นออกนอกบ้านไม่ได้แล้ว ห้างปิด สวนสาธารณะปิด เราไม่มีกิจกรรมอะไร แล้วงานก็ถูกระงับไปเรื่อยๆ
วางแผน ณ ตอนนั้นเห็นว่ามีละครค้างอยู่ ?
เจจินตัย : ตอนนั้นถ่ายอยู่ 8 เรื่อง เราแจ้งทางผู้จัดหมดเลยว่าผมมีเวลาอีก 10 เดือน ผมจะบินวันที่ 15 พฤศจิกายน นะ ให้เวลา 10 เดือนเลย เพราะช่วงนั้นพอเริ่มถ่ายกองก็ทำงานกันไม่ได้ เพราะว่าเดี๋ยวก็มีนักแสดงคนนี้ติดคนนั้นติด พอติดก็ต้องกักตัว 14 วัน เราก็ต้องมีไทม์ไลน์ที่ต้องเดินทางก็เลยแจ้ง สุดท้ายเขาก็ปรับบทให้ผมตายหมดเลย 6 เรื่อง เรื่องนึงตกตึก อีกเรื่องเป็นบู๊โดนไม้แทงอก อีกเรื่องโดนยิง อีกเรื่องรถชน
ตอนนั้นอยากไปมั้ย ?
พลอยเจ : อยากไปค่ะ หนูอยากไปเจอเพื่อนหนูแล้วก็อยากขึ้นเครื่องบิน
พอขึ้นเครื่องบิน 24 ชั่วโมง เป็นยังไง ?
พลอยเจ : ไม่สนุกแล้วค่ะ
ก่อนจะไปก็ต้องเริ่มวางแผน เริ่มขายของ ขายอะไรบ้าง ?
เจจินตัย : ตอนนั้นขายรถ ขายที่ ขายคอนโด
บี : ขายทุกอย่างเลยเพราะว่าเรารู้สึกว่าเราต้องย้ายจะไม่มีใครดูทรัพย์สินให้เรา เพราะว่าทางคุณแม่ก็อายุเยอะแล้ว เราต้องเคลียร์ตัวเองก่อนที่จะไป เพราะเราคิดว่าเราคงไม่ได้กลับมาแล้ว
ณ วันที่จะไปกะว่ารันยาวแล้ว ?
บี : ใช่ค่ะ ต้องยาวเลย เพราะเหมือนเราทิ้งทุกอย่าที่นี่แล้ว เราตัดสินใจแล้วว่าเราทิ้งทุกอย่างที่นี่เพื่อลูกได้ไปเรียนที่นู่น เป็นการติดสินใจครั้งใหญ่มาก
มีเวลาเตรียมตัวกันนานขนาดไหน ?
เจเจินตัย : คิดกันเป็นปีเหมือนกัน
บี : ถ้ามีแพลนเป็นปี แต่ตัดสินใจเลยต้องแล้ว ประมาณไม่ถึงสองเดือนดีประมาณเดือนกว่าๆเท่านั้นเอง
เจเจินตัย : คาราคาซังมาเรื่อยๆ เตรียมตัว คาราคาซังแล้วก็วางแผน เตรียมตัว พอถึงเวลามันโช๊ะเลย
บี : มันเป็นช่วงโควิดหนักๆพอดี โอเคต้องไปแล้ว
ณ ตอนที่เราจะไปเราฝันว่าจะเป็นยังไง แล้วพอไปถึงมันเป็นอย่างที่เราฝันมั้ย ?
บี : คือก่อนที่เราจะไปอยู่จริงๆเราก็ลองไปอยู่ซักเดือนนึง อารมณ์เหมือนไปเที่ยวไปลองอยู่
เจเจินตัย : ไปเซอร์เวย์ก่อนแล้วก็ไปดูว่าเราจะอยู่อย่างนี้นะ โรงเรียนจะเป็นอย่างนี้ แต่เราไปสั้นประมาณเดือนนึง
บี : ตอนไปเซอร์เวย์เราอยู่ได้นะคือยังไงมันก็ไม่เหมือนอยู่จริงเนอะแต่เราไม่รู้ว่ายังไง แต่พอเราไปอยู่จริงมันไม่เหมือนเลย มันแย่มากๆนะ ความที่เราต้องปรับตัวหลายๆอย่าง ทั้งตัวเราเองด้วย ทั้งลูกด้วย สิ่งแวดล้อม สังคม