"เจ จินตัย" คาดไม่เกินสองปีเตรียมมีลูกคนที่สอง
ทางนักแสดงหนุ่ม "เจจินตัย อันติมานนท์" หลังจากมีครอบครัวก็ผันตัวเป็นคุณพ่อได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลต่างๆ รวมทั้งพัฒนาการ ซึ่งตอนนี้ลูกของเจ้าตัวก็อายุได้ขวบกว่าๆ แล้ว จะมีพัฒนาการอย่างไรบ้างนั้นก็ให้เจ้าตัวมาอัพเดทกันสักหน่อย
ลูกตอนนี้ก็ 1 ขวบ 4 เดือนแล้ว พัฒนาการก็ดี กำลังคึกคัก ชอบเดินชอบวิ่งมาก แล้วก็ชอบสำรวจทุกที่ ชอบหยิบของ แฟนคลับก็เยอะ ต้องขอบคุณแฟนคลับทุกท่านด้วยที่มาชอบลูกเรา แล้วก็คอมเมนต์ดีๆ อ่านทุกคอมเมนต์เลย เป็นกำลังใจให้มากๆ เลย แล้วก็พยายามตอบทุกคอมเมนต์นะ เพราะว่าอุตส่าห์มาให้กำลังใจเรา
ส่วนจะดันน้องเข้าวงการไหม ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ คือตอนนี้เขายังไม่ได้เข้าโรงเรียน ก็ใช้ชีวิตปกติ มีงานอะไรเข้ามาแล้วไม่ทำให้น้องเหนื่อยเกินไป หรือว่าอะไรที่เหมาะสมกับวัย เราก็เดินหน้าต่อไป เวลาเรียนเราก็เรียน แต่จริงๆ มีงานเราก็รับถ้ามันเหมาะสมกับน้อง งานที่ติดต่อมาเยอะมากๆ เลย บางงานใช้เวลาถ่ายทำนานก็ไม่ไหว ขอคิวทีนึง 12 ชั่วโมง เรารู้สึกว่าชั่วโมงสองชั่วโมงพอไหว หรือว่าเดินทางไกลก็ต้องไปกันทั้งครอบครัว ก็เหนื่อยลูก ก็ต้องขอโทษด้วย บางงานก็ไกลไป แล้วลูกเรายังไม่แข็งแรงมากเท่าไหร่ เราก็เสียดายงานที่ปฏิเสธไป แต่ทำไงได้ ลูกเราไม่ไหว เราก็เอาแค่ที่เขาไหว เอาที่ใกล้ๆ โตขึ้นก็คงจะไหว แต่ตอนนี้ก็ได้แค่นี้ก่อน น้องน่าจะมีแววเข้าวงการนะ เพราะอย่างเราถ่าย เดอะ รีเทิร์น ออฟ ซูเปอร์แมน ไทยแลนด์ น้องก็ช่วยเต็มที่เลยนะ เป็นรายการเรียลลิตี้ 48 ชั่วโมง พ่อเลี้ยงลูก น้องก็จะมีลูกเล่นต่างๆ นานา บางทีก็มีงอแง แต่เวลาที่เราถ่ายน้องก็จะยิ้ม เหมือนช่วยพ่อมากๆ เลย ทำให้รายการมีสีสัน ทำให้รายการเขามีจุดขาย มีทั้งความสนุก ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่เขาต้องการ
สำหรับโรงเรียนน้องก็มองไว้หลายที่ ตอนแรกนึกว่าจะให้เข้าตั้งแต่ขวบครึ่ง แต่เราไปดูข้อมูลแล้วว่า หลังจากลูกเข้าโรงเรียนตอนนี้เราต้องโฟกัสและทุ่มเทกับเขาให้มากที่สุด เพราะลูกต้องการความอบอุ่น ความใกล้ชิดอยู่กับพ่อแม่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ดูแลกันเอง แต่ว่าก็ให้เรียนเพิ่มเติมนะ หรือบางทีที่เราไปถ่ายละครแล้วไม่เยอะมากก็จะเอาลูกไป ลูกคนต่อไปผมคิดว่าไม่เกินปี 2 ปีนี้ เมื่อก่อนรู้สึกว่ามีคนเดียวก็โอเคแล้ว แม่เขาเองก็คิดว่าถ้ามีสองคนเขาจะแยกความรักไม่ได้ แต่พอเอาจริงๆ แล้วเราก็มาคิดได้ว่า พอลูกโตแล้วลูกจะเหงา ลูกจะไม่มีเพื่อน มีพี่น้องก็น่ารักดี ได้ช่วยเหลือกัน ครอบครัวเองก็จะได้อบอุ่นมากขึ้น แล้วเพื่อนเราก็มีลูกสองคนขึ้นไปทั้งนั้น พอเห็นก็น่ารักดี ก็เลยอยากมีบ้าง ชีวิตตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะเลย เมื่อก่อนเป็นคนปาร์ตี้สังสรรค์ แต่เดี๋ยวนี้คือโฟกัสที่งานกับลูกและครอบครัวอย่างเดียวเลย
