“อิงฟ้า” เปิดใจหลังชนะคดีค่ายเพลง ยันไม่ฟ้องกลับ

“อิงฟ้า” เปิดใจหลังชนะคดีค่ายเพลง ยันไม่ฟ้องกลับ

0

“อิงฟ้า” เปิดใจหลังชนะคดีค่ายเพลง ยันไม่ฟ้องกลับ

         ก่อนหน้านี้ “อิงฟ้า วราหะ”  ถูกค่ายเพลงอดีตต้นสังกัดเดิมออกมาขอยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีผิดสัญญาว่าจ้างนักร้องมาประ กวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เป็นเงินกว่า 1,200 ล้านบาท ในปี 2565 ต่อมา “ทนายสาคร ศิริชัย” ทนายความของ “อิงฟ้า” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยว่า “อิงฟ้า” ได้ชนะคดี ไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท  ล่าสุด “อิงฟ้า” ก็ได้ออกมาเปิดใจ ถึงเรื่องนี้ว่า...

อ่านข่าวต่อ : “อิงฟ้า” ชนะคดีสัญญาไม่เป็นธรรม

          “ก็รู้มาสักพักแล้ว แต่ก็รอทางองค์กรและรอทีมทางทนายว่าเราจะสามารถพูดเรื่องนี้ได้ตอนไหน เพราะยังเป็นการชนะแค่ศาลชั้นต้น เขาก็ยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ สำหรับขั้นที่ 2 แต่ภาพโดยรวมที่เราคุยกับทางทีมทนายต่อสู้เพื่อความถูกต้องและก็ข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่มีอะไรต้องกลัว อีกอย่างนึงกำลังใจดีมากๆ จากทุกๆ คน พอทนายมีการประกาศออกไป ทุกคนก็แห่มาให้กำลังใจทั้งพี่ๆ ในวงการบันเทิงเหมือนทุกคนรอฟังข่าวนี้มานาน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับปีนี้ เราก็มารอดูในขั้นตอนต่อไปว่าจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้วเราสู้ด้วยความจริงซึ่งไม่มีอะไรต้องกลัว แล้วก็ดูในทิศทางขั้นที่ 2 ก็คิดว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี

           เบาใจขึ้น ถ้าพูดตรงๆ เราไม่ได้กลัวอยู่แล้วกับการที่เขายื่นฟ้องมาตั้งแต่แรก สำหรับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่ามันไม่สมเหตุสมผล ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายหรือต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งมันก็มีส่วนในการที่เราต้องเสียเวลาเสียโอกาสหลายๆ อย่างด้วย ณ ตอนนั้น ถ้ามีการยื่นอุทธรณ์ ก็ไม่กังวล เพราะเราเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว เราเชื่อว่าความยุติธรรมและความถูก ต้องมันมีอยู่บนโลกจริงๆ และศาลเขาก็น่าจะมองเห็นด้วย เรื่องนี้ก็กวนใจอยู่ เพราะเวลาเราจะทำธุรกรรมหรือการทำงานมันจะเป็นแผลในใจเราอยู่ ทำนองว่าเดี๋ยวก่อนนะเดี๋ยวค่อยทำรั้งเอาไว้เหมือนเป็นโซ่ที่ติดขาเราไว้ ตอนนี้ก็ได้ปลดออกไปหนึ่งข้อแล้ว ก็รอดูต่อไปว่าเราจะเป็นอิสระจากความกังวลใจตรงนี่เมื่อไหร่

          สำหรับเราก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงและข้อเท็จจริง ความถูกต้องและตัวเราเองก็อยากได้ความยุติธรรม อยากชุบตัวเราเองด้วยว่า สิ่งที่เขาเคยหมิ่นประมาทเราต่างๆ ในเพจในอะไรบางอย่างก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเสมอไป ก็จะพิสูจน์ตัวเองแล้วก็พร้อมที่จะพูดความจริงต่อหน้าศาล ณ ตอนนั้นก็มีทั้งความกดดันและความกล้าหาญอยู่ในตน เองด้วย แล้วก็ขอบคุณที่วันนั้นที่เรากล้าพูดกับเขา กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเองด้วย เพราะที่ผ่านมาก็กลัวมาตลอด เหมือนเกรงใจด้วย ไม่กล้าด้วย ณ วันนี้ก็ต้องขอบคุณทางบอส และทีมทนายที่สู้ไปด้วยกันและคอยให้กำลังใจกันตลอด และคอยคุยถามเรื่องนี้กันตลอดว่าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งบอสก็หาทางทีมทนายที่ดีที่สุด รอบคอบที่สุดเพื่อที่จะให้เราไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือตกหล่นอะไรไป

           ก็มีคุยกับคุณอาสาคร (ทนาย) ว่าเรามีวี่แววว่าจะจบยังไง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ถ้าขั้นเลวร้ายที่สุดเป็นยังไง แล้วก็ข่าวดีที่สุดมันจะเป็นยังไง ซึ่งเขาก็มีการบอกกับเราตรงๆ ว่า ถ้าเลวร้ายที่สุดจะเป็นแบบนี้ ให้เราเตรียมอะไรยังไงบ้าง แต่อาก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคือ ใบเบิกความทั้งหมดที่เป็นลายลักษณ์อักษรมันเป็นความจริงทั้งหมดที่เราพร้อมจะสู้ เขาก็ไม่กลัวเราก็ไม่กลัว ทีมเราก็พร้อมที่จะพิสูจน์ คงไม่ฟ้องกลับ จริงๆ ตัวเราอยากให้จบลงด้วยดีด้วยซ้ำ ตัวเองก็รู้สึกว่าช่วงที่มันมีความรักความหวังดีต่อกันมันก็มีช่วงนั้นที่แม้มันจะไม่ได้มาก แต่ว่ามันก็ยังมีเราก็อยากให้จบลงได้ สามารถเจอกันได้ คุยกันได้ ร่วมงานกันได้ในอนาคตมีอะไรให้เราช่วยเหลือเราก็อยากช่วยอยากให้มันจบแบบนี้มากกว่า

          องค์กรไม่สามารถจะช่วยเราได้ทุกครั้งได้ตลอด ถ้าหากว่าข้อเท็จจริงบางทีความผิดพลาดเกิดจากเด็กก็มี เพราะฉะนั้นก็อยากให้น้องๆ ดูเรื่องของสัญญาให้ดีสุดท้ายก็มีผลในการตัดสินใจประกวดเช่นเดียวกันแล้วมันก็จะมีปัญหาบานปลายตามมาได้อีก อย่างที่บอกไปว่าบางครั้งองค์กรก็ไม่สามารถจะปกป้องเราได้ อย่างตัวเราเองก็พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเราเจออะไรมาบ้างและความโชคดีก็คือเรามีศิลปินที่เคยอยู่ในค่ายเขาเคยเจอเหตุการณ์เดียวแบบเรา เรามีพยานที่พร้อมจะสู้ไปด้วยกันก็เยอะ แต่ก็เป็นเคสที่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากเจอ เป็นไปได้จะเซ็นสัญญาจะทำอะไรก็คิดดีๆ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments