ทําให้เท้า ขา ทํางานหนัก และยังต้องเจอกับแรงกระแทกในทุกก้าวที่เท้าต้องกระทบกับพื้นแข็งๆ และแบนทั้งหลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิดอาการเจ็บส้นเท้า หัวเข่า หรือหลังส่วนล่าง ได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
"สกอลล์" ผู้นําและผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเท้าระดับโลก จากประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรม Scholl Health & Style 2010 โดยเชิญนายแพทย์เชิดพงศ์ หังสสูต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเท้าจากโรงพยาบาลบีเอ็นเอช มาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลเท้า ทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ส้นเท้า หัวเข่า หลังส่วนล่าง หรือการบรรเทาอาการปวดดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากภาวะเท้าแบน ที่เกิดจากการที่เท้าบิดเอียงเข้าด้านใน พร้อมการดูแลรักษาสุขภาพเท้าได้ด้วยตนเองด้วยวิธีง่ายๆ โดยการเลือกรองเท้าที่ดีเพื่อสุขภาพเท้า
"กิจกรรมในชีวิตประจําวัน ทั้งการออกกําลังกาย เล่นกีฬา ที่ต้องวิ่งกระโดด อาจเกิดการกระแทกอย่างต่อเนื่องและบ่อยๆ ทําให้อุ้งเท้าแบนลง ข้อเท้า บิดเอียงเข้าด้านใน เส้นเอ็นต่างๆ ที่เท้าเกิดการตึงมากกว่าปกติ ซึ่งก็คือภาวะเท้าแบน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ดูแล จะทําให้เกิดอาการเจ็บปวดส้นเท้า เข่า ไปจนถึงหลังส่วนล่างได้
...ดังนั้น ควรเลือกใส่รองเท้าที่ให้ความนุ่มสบายเท้า หรือมีแผ่นเสริมปรับสภาพเท้าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เท้าเกิดบิดเอียงเข้าด้านใน จากการเดินบนพื้นราบแข็ง แต่หากคนที่มีภาวะเท้าแบน ควรเลือกใส่รองเท้าที่มีแผ่นเสริมปรับสภาพในตัว แต่ถ้าหากหารองเท้าแบบนี้ไม่ได้ ก็ใช้แผ่นเสริมปรับสภาพเท้า เสริมเข้าไปในรองเท้า เช่น เสริมในรองเท้ากีฬา รองเท้าทํางาน ก็ได้
..."เท้า" มีผลต่อการใช้ชีวิตประจําวันมาก เมื่อก่อนการเลือกรองเท้าต้องให้แมทช์กับการแต่งตัว แต่วันนี้ต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้าของเราด้วย ฉะนั้นควรเอาใจใส่เท้าของคุณตั้งแต่เนิ่นๆ กันนะครับ" นายแพทย์เชิดพงศ์ หังสสูต กล่าว
หันมาใส่ใจกันสักนิด เพื่อสุขภาพเท้าที่ดีอย่างมีสไตล์ด้วยสกอลล์ ในทุกช่วงเวลาแห่งความสุข ♦