แต่มาในมาดของสาวนางโชว์สุดเซ็กซี่จากภาพยนตร์เรื่อง "นางฟ้า" ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของเธอที่ได้มีโอกาสนำความสามารถด้านการเต้นมาใช้ในการแสดง ที่เตรียมมาอวดลีลาการเต้นที่มีทั้งแบบน่ารัก สวยใส จนถึงขั้นเซ็กซี่เร่าร้อนแบบสุดๆ โดย "หญิง" เล่าถึงความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
"นอกจากเรื่องราวของภาพยนตร์ที่เป็นดราม่าสุดเข้มข้นแล้ว อีกอันที่เด่นเลยก็เป็นเรื่องของการเต้นค่ะ ในเรื่องนี้จะมีการโชว์อยู่หลายโชว์ ยกตัวอย่าง โพลแดนซ์ อันนี้จะเป็นการโชว์ที่เซ็กซี่แต่ดูแข็งแรง ดุดันนิดนึง นับว่าเป็นโชว์ที่ยากมาก แถมยังเป็นการเ
ต้นโพลแดนซ์ครั้งแรกของหญิงอีกด้วย ซึ่งก็ต้องมีไปเรียนเต้นเพิ่มด้วยกันทั้ง 3 คน หญิง, ตั๊ก และอมยิ้ม นอกจากนั้นแต่ละโชว์ก็จะเป็นสไตล์แจ๊สแดนซ์ ผสมกับ Hip Pop บ้าง แต่มันจะคล้ายสไตล์ป๊อปที่มันเป็นยุคแบบชิคาโก ดูสดใสน่ารัก มีการเตะขาสูง มีการเทิร์นพอยต์ กับเพลงที่น่ารักสนุกสนาน หรือจะเป็นฉากที่รุ้งเต้นกับแฟนต่างชาติ ก็จะออกแนวเซ็กซี่ สีหน้าดูมีความสุข เพราะรุ้งต้องการจะเลิกอาชีพนางโชว์แล้วไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ ฉากนี้ก็เป็นอีกฉากที่ชอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ"
และก่อนหน้านี้ "หญิง" กับ "ตั๊ก บงกช" เคยร่วมงานกันในฐานะนักแสดงมาแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง "จันดารา" เรียกว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี พอมาร่วมงานในภาพยนตร์ "นางฟ้า" จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น "หญิง" เล่าว่า
"เคยร่วมงานด้วยกันจาก จันดารา เราก็เลยเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาแล้ว พอมาเรื่องนี้ก็เป็นทั้งเพื่อนนักแสดงด้วย และเป็นผู้กำกับฯ คือเป็นเจ้านายเราด้วย (หัวเราะ) ตั๊กเขามีมุมที่เป็นผู้ใหญ่ มีมุมของการเป็นผู้กำกับรวมถึงวิธีการพูดของเขา มีความตั้งใจสูงมาก ตั๊กมีความใส่ใจกับงานทุกๆ รายละเอียด หญิงว่าตั๊กทำได้ดีเลยสำหรับหนังเรื่องแรกของเขา ทุกคนต้องมีก้าวแรกค่ะ"
นอกจากนี้ "หญิง" ยังเล่าถึงความน่าสนใจของภาพยนตร์ "นางฟ้า" ที่แตกต่างจากภาพยนตร์ไทยทั่วไป และเชิญชวนให้คนดูลองเปิดใจสัมผัสเรื่องราวชีวิตของเหล่านางฟ้าดูสักครั้ง เชื่อว่าจะให้แง่คิดดีๆ กับคนดูที่สามารถนำกลับมาใช้ในชีวิตของตัวเองได้
"ความน่าสนใจของเรื่องนี้หญิงว่ามันเป็นดราม่าที่คนดูจะต้องได้อะไรกลับไป ความสัมพันธ์ทุกอย่างมันเป็นเรื่องราวของความรู้สึกค่ะ ไม่ว่าจะเกิดจากเพื่อน คนรัก แม้แต่คนที่ไม่รัก หรือแม้แต่คนที่พร้อมจะดูแลและไม่พร้อมจะดูแลเรา บางมุมคนดูอาจจะดูหนังเรื่องนี้แล้วย้อนกลับไปมองครอบครัวมากขึ้น ว่าความสำคัญจริงๆ แล้วมันอาจไม่ใช่แค่ความรัก มันคือความเข้าใจด้วย ดังนั้นสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้ คือการเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้นค่ะ
ถ้าพูดถึงหนังไทย กับคาแรคเตอร์ที่เป็นดราม่าจริงๆ ว่าด้วยความรักระหว่างหนุ่มสาว พระเอก-นางเอก คนรักกันหญิงว่ามันน้อยค่ะ มันเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ เป็นคาแรคเตอร์ชีวิตจริงๆ ของผู้หญิง 3 คน ที่ไม่ได้ถูกตีแผ่ในแบบภาพยนตร์มากนัก ถ้าย้อนกลับไปในวงการภาพยนตร์ไทย มันมีไม่กี่เรื่องนะที่เป็นลักษณะนี้ เรื่องราวมันสากล ดูง่าย เข้าใจง่าย เวลาดูมีทั้งสนุก มีทั้งยิ้ม มีทั้งสงสาร มีทั้งหมั่นไส้ มันคือการใช้อารมณ์ของคนทุกอย่างค่ะ ความหยิ่ง ความผยอง ความทะเยอทะยาน มันมีหมดเลย พอเข้าไปดูเราจะรับรู้ได้เลยว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่มีความเป็นคนมากๆ ค่ะ มันคือชีวิตของแต่ละคนจริงๆ ในโลกใบนี้ อยากให้ไปดูกัน วันที่ 6 มิถุนายน ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ" ♦