"สุกัญญา มิเกล” หวนจับไมค์ รับอยากลองงานละครแต่ยังไม่มีผู้จัดฯ ทาบ
"สุกัญญา มิเกล" หวนร่วมคอนเสิร์ต "เด็กเทป งานดนตรีแฟชั่น 90's อัลเทอร์เนทีฟ" ปลื้มใจแฟนคลับยังเหนียวแน่น แจงหายหน้าเพราะสัญญากับค่ายเพลงหมด รับอยากเล่นละครแต่ยังไม่มีผู้จัดทาบ ยันไม่คิดดันลูกเข้าวงการ บอกอยากให้เลือกเส้นทางเอง
แทบจะลืมหน้ากันไปแล้วสำหรับอดีตนักร้องมาดร็อคชื่อดังในตำนาน "สุกัญญา มิเกล"ที่ล่าสุดเจ้าได้กลับมาร่วมแจมคอนเสิร์ตรวมรุ่นยุค 90 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามีโอกาวได้เจอศิลปินชื่อดังในตำนานเราเลยไม่พลาดที่จะให้เจ้าตัวมาอัพเดทเรื่องผลงานรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวให้แฟนๆได้หายคิดถึง
"ที่เรามีโอกาสได้กลับมาเพราะเคยมีโอกาสไปร่วมคอนเสิร์ตนี้มาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน พอเขาจัดอีกครั้งเราก็มองว่ามันเป็นช่วงเวลาไทม์แมชชีน ศิลปินเวลาได้ร่วมงานกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในยุคเดียวกันมันมีความสนุกในระดับนึงอยู่แล้วแล้วมันจะยิ่งมีความสุขไปอีกเมื่อเราเจอแฟนคลับในยุคเดียวกันแล้วความคาดหวังของศิลปินแต่ละท่านก็คาดหวังว่าเราจะได้แฟนคลับใหม่ในยุคดิจิตอลน้องๆอาจจะเคยได้ยินยุค 90 ยุค 90 มันคืออะไรก็อาจจะยี้คิดว่าอะไรที่มันใหม่กว่าก็ต้องดีกว่าของเก่าแต่พวกเราอยากให้น้องๆยุคใหม่ที่เข้าไปดูได้เห็นนักร้องในยุค 90 ว่ามันมีความพิเศษยังไง
การเตรียมตัวของเราไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะเพราะเราเล่นดนตรีอยู่แล้ว แต่อาจจะเตรียมเรื่องของความพิเศษอาจจะมีเพลงพิเศษบ้างเป็นซิงเกิ้ลใหม่ที่เพิ่งออกไปส่วนแฟนๆก็ยังมีถามถึงเราตลอดเรามีแฟนเพจอยู่ในเฟสบุคแฟนๆก็ค่อนข้างที่จะเหนี่ยวแน่นแฟนคลับใหม่ๆก็มีบ้างมีแฟนคลับของเพื่อนลูกมาเป็นแฟนคลับเราด้วยก็เป็นความโชคดีของศิลปินอย่างเรา
แฟนคลับแต่ละคนที่ตามเราพอรู้ว่าจะมีคอนเสิร์ตเขาก็ดีใจค่ะ บอกว่าจะไปดู เป็นความดีใจเขาไม่ทิ้งเราเราอยากให้รุ่นใหม่มองว่าแฟนคลับยุค 90 เขาน่ารักนะ เวลาเขารักใคร สนับสนุนใครเขาไม่ใช่แค่พูด ยุค 90 มันคือยุคแห่งความจริง ศิลปินจริง การนำเสนอแบบจริงๆไม่ได้นำเสนอแบบการสร้างภาพ มันคือเสน่ห์ของยุคนั้น ก็อยากให้แฟนๆยุคใหม่มองงานศิลปินยุคนี้ ให้มองอย่างเป็นการศึกษา อย่ามองว่าคนเก่าๆไร้ค่าเพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
ส่วนช่วงที่เราหายหน้าไปคือเราหมดสัญญากับทางค่ายเพลงทำสามอัลบั้มจากนั้นก็แต่งงานแล้วก็ทำงานเพลงส่วนตัวออกมาหนึ่งอัลบั้มเป็นอัลบั้มที่ 5 ต่อด้วยอัลบั้มที่ 6 หลังจากนั้นก็ไม่มีงานติดต่อมาเลยเราก็วนเวียนอยู่กับการทำงาน ไปคอนเสิร์ตเล่นดนตรีเพราะมีอาชีพดนตรีอยู่แล้วส่วนโลกทีวีเราไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งเท่าไหร่ยิ่งมีลูกแล้วรูปร่างเราก็ไม่เหมือนเดิมซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าพอมีลูกแล้วรูปร่างมันจะไม่เปลี่ยนคนก็จะให้ความสนใจน้อยลงแต่เราก็ไม่แคร์ว่าใครจะมองเรายังไง
เรื่องงานละครก็อยากเล่นนะถ้ามีติดต่อมาเพราะศาสตร์การแสดงเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ สนุก มันเป็นความท้าทายที่จะทำยังไงให้คนดูเชื่อว่าเราเป็นคาแร็คเตอร์นั้นแต่การร้องเพลงคือการใช้ความรู้สึก เราอยากเล่นบทบู้เล่นได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้ไขข้อไม่ค่อยดี(หัวเราะ)ก็ยังไม่มีผู้จัดคนไหนทาบทามมาอาจจะเป็นเพราะบทที่เราจะเล่นก็หายากด้วย
ด้านลูกๆ ถามว่าจะดันเข้าวงการมั้ยคือเขามีพรสวรรค์ในการวาดรูปนะแต่ก็ชอบร้องเพลงเหมือนกันแต่เราจะไม่ดัน เราจะปล่อยให้เขาเดินไปตามทางของเขาดีกว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ต้องการให้ลูกเด่นดังแต่สิ่งที่หวังคือต้องการให้ลูกเป็นคนดี
ตอนนี้นอกจากเขียนหนังสือแล้วก็กำลังทำซิงเกิ้ลต้องถยอยเข้าห้องอัดบวกกับเราต้องทำงานเลี้ยงชีพทุกวันเลยไม่ค่อยมีเวลาเขียนหนังสือส่วนเรื่องซาวด์เพลงที่เราทำก็จะออกเป็นร็อคแน่นอน ไม่ได้คาดหวังอะไรเราไม่ได้คาดหวังมาแต่ไหนแต่ไรแล้วการแข่งขันมันค่อนข้างเยอะสิ่งทำให้เราทำก็คือเรารักและมีแนวทางที่จะตอบสนองแฟนเพลง"