"สุกัญญา มิเกล" แต่งสาวหล่อ "จอม" 6 กันยายน นี้
สร้างความเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อยเมื่อนักร้องเสียงดี "สุกัญญา มิเกล" ประกาศแต่งงานกับ "จอม" สาวหล่อนอกวงการ โดยจะจัดวันที่ 6 กันยายนนี้ มีโอกาสเจอ "สุกัญญา มิเกล" เลยให้เจ้าตัวตอบถึงเรื่องงานแต่งงานครั้งนี้
อ่านข่าวต่อ :
สุกัญญา มิเกล” หวนจับไมค์ รับอยากลองงานละคร
ได้ข่าวว่าหมั้นแล้วกับสาวหล่อนอกวงการชื่อ "จอม" ใช่ๆ หมั้นไง คนอาจจะสนใจกันเยอะ เพราะก่อนหน้านี้เราได้ประกาศเรื่องที่เลิกกับสามีคนเก่า คนก็ช็อกกันมาก เนื่องจากตอนนั้นแต่งกันเงียบๆ จนมีลูกมีเต้า และตอนนี้ลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว หลังหย่ามาได้ 4 ปีเราก็ประกาศตัวเป็นเพศที่สาม ได้ 3 ปีมาแล้ว เผอิญคนนี้เจอกันและมีเรื่องมีราวที่ทำให้ได้มาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันในสถานะเพื่อน เราก็เห็นถึงสิ่งที่เขามีคือ ความเป็นห่วงเป็นใย เขาเริ่มรู้สึกกับเราดีขึ้น ที่สำคัญ เวลาเจอปัญหาอะไรเขาไม่ทิ้งเรา อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการที่โลกจะมองว่าต้องเป็นเพศนั้นเพศนี้ถึงจะเหมาะสม คือคนเรามาอยู่ร่วมกันแล้วมันเกิดความสุขใจและไว้ใจ ส่วนที่หลายคนพูดว่าเดี๋ยวมันก็ไม่รอดหรอก ไม่รอดก็ไม่เป็นไร เพราะครั้งแรกเราก็ไม่รอดไปแล้ว
ครอบครัวอย่างลูกๆ ว่ายังไงบ้าง ลูกน่าจะมีปัญหาตั้งแต่เราหย่าแล้วไหม อันนี้พูดกันตรงๆ แต่กับลูกคนโตมีอะไรเราก็จะบอกก่อน ครั้งแรกก็บอกไปว่าเดี๋ยวจะมีน้าคนหนึ่งมาอยู่ด้วย แล้วก็บอกอีกว่าเดี๋ยวจะต้องอยู่กันไปอย่างนี้ แล้วพอเริ่มเปลี่ยนสถานะก็จะคุยกับลูกอีกครั้งว่าเป็นยังไง เราบอกลูกคนแรกเลยในการที่เราเป็นเพศที่สาม ตอนแรกเขาก็ถามว่าเพศที่สามคืออะไร เราก็ได้โอกาสอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งเป็นในทางวิชาการหมดเลย ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ส่วนตัว วันหนึ่งลูกเราก็ต้องโบยบินไปมีชีวิตของตัวเอง ที่เหลือเราก็ต้องอยู่คนเดียว ฉะนั้นเราก็ต้องหาคนที่จะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต ซึ่งเราก็มีเพื่อนคนที่จะได้ไปสนุกร่วมกัน และเป็นคนที่เราไว้ใจที่สุด เราตามหาคนที่เราไว้ใจที่สุด แต่ไม่ได้ตามหาคนที่เซ็กซ์ดีที่สุด
หมั้นแล้วก็แพลนต่อถึงขั้นแต่งงานด้วยไหม งานแต่งมีขึ้นวันที่ 6 กันยายน แต่งเสร็จก็มาขึ้นคอนเสิร์ตต่อเลย ถามว่าระยะเวลาในการดูใจน้อยไปไหม การเป็นเพื่อนกันราวๆ เกือบปี แต่ว่ามีโอกาสได้เจอกันก่อนตั้งแต่ตอนที่เขามาดูคอนเสิร์ตเราก็ 2 ปีแล้ว หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยให้กำลังใจกันในฐานะเพื่อน จนพอเขามีอุบัติเหตุในชีวิตก็เข้ามาพักกับเรา ตอนนั้นเริ่มเห็นกันชัดขึ้น เจอกันเกือบ 24 ชั่วโมง แค่แยกห้องนอนเฉยๆ ที่เหลือก็ทำกิจการร่วมกันทั้งวัน เขาช่วยดูแลลูกและติดต่อประสานให้เรา
เขามาจีบเราตั้งแต่แรกไหม ไม่ได้จีบตั้งแต่แรก มาเจอกันในสถานะเพื่อนจริงๆ เรามาเจอกันในสถานะเพื่อน คือเขาเป็นลูกกำพร้าเหมือนกัน ถ้าเราเจอเพื่อนที่เป็นลูกครึ่งกำพร้าเหมือนกัน แล้วต้องการความช่วยเหลือ เราช่วยหมดแหละอันนี้คือนิสัยเรา พอเริ่มมาคิดจริงๆ ว่าเขาแตกต่างไป เขาก็เริ่มจีบเราทางโซเชียลของเขา ซึ่งเราเริ่มมาเห็นจริงๆ คือวันที่เรามีปัญหา ที่มีบุคคลหนึ่งแจ้งความจับเรา แล้วลูกชายเราร้องไห้ ลูกชายบอกว่าเขาไม่รู้เลยเหรอว่าผมต้องมีคนดูแลนะ แล้ว “คุณจอม” เขาก็เดินมากอดลูกเรา แล้วเขาก็บอกว่าถ้ามีวันนั้น “พี่จอม” จะไปเข้าคุกแทนแม่เอง วันนั้นเป็นวันที่เราซึ้งมาก คนที่กล้าพูดกับเด็กแบบนี้เขาคงไม่โกหก ซึ่งถ้ามันจำเป็นจริงๆ เราเชื่อว่าเขาทำจริง แล้วลูกชายเราดีขึ้นจากสิ่งนี้
“จอม” เขาไม่ได้พยายามเอาตัวเองเข้าไปแทรก และจากนั้นเราเริ่มมองการอยู่ร่วมกัน เขาเข้ากับลูกเราได้ง่าย เขาพูดจาให้สติและสอนลูกเราแบบนุ่มนวลได้ดีมากๆ ไม่เป็นคนอารมณ์ร้อน เรามองหลักๆ คือเรามีอะไร เราเป็นอะไร เราบอกลูกก่อน สองใครจะเข้ามาต้องผ่านลูกก่อน ลูกจะเป็นตัวสกรีนทั้งหมดเพราะเขาบริสุทธิ์มากๆ
สถานะของคู่เราคือยังไง เราว่าที่คนอยากรู้เพราะว่าประหลาดมากนั่นแหละ เคยมีเพื่อนๆ แซวๆ กันว่าเป็นทอมเกย์ “คุณจอม” เป็นทอม เราไม่ใช่ทอม เราเป็นเลสคิง อีกนิดเดียวเป็นทอมแล้ว นึกออกไหม ทอมมีลักษณะคือมีหัวใจเป็นผู้ชายมาก คือรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายแหละ เรามีนิสัยเป็นผู้ชาย แต่เรารู้ว่าเราเป็นผู้หญิง มันเลยใกล้กันมาก คนก็เลยงงกันอยู่ ใครจะงงก็เรื่องของคุณ เพราะปกติแล้วก็แค่ผู้หญิงกับผู้หญิง คือ “คุณจอม” ไม่มีอวัยวะเพศผู้ชาย เราเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ก็คือเลสเบี้ยนนั่นแหละ
คาดหวังกับความรักครั้งนี้ยังไง คาดทำไม ไม่ต้องคาด จะแต่งแล้ว เราว่าความเป็นเพื่อนสำคัญสุด ถ้ารักกันแล้วไม่มีความเป็นเพื่อน มีแต่ความเป็นเจ้าของมันก็จบตั้งแต่แรกแล้ว เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร มันมีแต่ความเข้าใจและความอยากอยู่ดูแลกันและกัน ตัวเรามีให้เขา และเราเชื่อว่าเขามี ถึงแม้ว่าต่อไปข้างหน้ามีอุบัติเหตุอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเขาไปเจอคนที่ดีกว่าเรา เราก็ยินดี เพราะเราเห็นเขามีความสุขเราก็ดีใจ ส่วนของเราจะไปมีใหม่มันก็เรื่องของเรา
ธีมงานแต่งเป็นยังไง เราจะเอาดิสโก้มาให้พวกคุณ ไม่ได้เชิญทุกคนนะครับ เดี๋ยวจะเอายุค 80 มาให้เต้นกัน แล้วกลางวันก่อนพระอาทิตย์ตกเราเป็นคริสเตียนทั้งคู่ พิธีของเราสำคัญอยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง เราจะมีคนที่มีความเคร่งศาสนาสามารถเป็นบาทหลวงให้เราได้ เพราะเราเป็นเพศที่สามตามหลักศาสนามันไม่ถูกอยู่แล้ว เราก็ทำพิธีเองโดยการที่ไปหาคนที่เขาสวดบ่อยๆ เอามาเป็นบาทหลวงให้
ตอนนี้ออกสัญญาประชาคมแล้วนะ “พี่เป้ ไฮร็อก” จะมาเป็นบาทหลวงให้ ทำไมถึงเป็น “พี่เป้” ก็ “พี่เป้” บอกว่าเป็นได้ เพราะ “พี่เป้” เป็นอิสลามเพราะศาสนาคริสต์มีรากมาจากศาสนาอิสลาม ดังนั้น “พี่เป้” สามารถเป็นบาทหลวงให้เราได้ ความสำคัญของมันก็คือคนสองคนกำลังจะผูกดวงวิญญาณกัน แล้วให้อีกคนหนึ่งซึ่งลิ้งค์กับพระเจ้าบ่อยๆ ได้ทำการ ทำพิธี เพื่อให้พระเจ้ามองเห็นว่าคนสองคนนี้เขาจะมีวิญญาณเดียวกันแล้วนะ จะเอาดวงวิญญาณมาแชร์กันแล้วส่งถึงพระเจ้า