"เณร" ลาออกบ๊ายบายอาร์เอส

"เณร" ลาออกบ๊ายบายอาร์เอส
 

      ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า ค่ายเพลงเก่าแก่ย่านลาดพร้าวจะถูกเทคโอเวอร์ ส่วนผู้บริหารค่ายลูกทุ่งถูกค่ายน้องใหม่มาแรงจีบไปทำงานด้วย แต่ข่าวลือในครั้งนั้นก็หมดไป หลังจากที่ “เณร ศุภชัย นิลวรรณ” กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวทั้ง 2 ประเด็น

     แต่ล่าสุด ก็กลายเป็นข่าวสะเทือนวงการเพลงอีกครั้ง เมื่อ “เณร ศุภชัย นิลวรรณ” เริ่มงานที่อาร์เอสมาตั้งแต่ปี 2534 เป็นผู้ปลุกปั้น ค่ายเพลงอาร์สยาม จนกลายเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ทำงานกับอาร์เอสมา 26 ปี ได้ยื่นใบลาออกจาก บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และมีผลในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมชี้แจงว่า เป็นการลาออกที่ไม่ได้ถูกบีบให้ออกแต่อย่างใด แต่เป็นการที่ได้พูดคุยกันมานานแล้ว และเป็นการลาออกเพื่อจะหันไปลุยธุรกิจสมุนไพรของครอบครัว และใช้ความรู้ด้านยาสมุนไพรติดตัวมาให้เกิดประโยชน์ อยากจะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่ทิ้งวงการ และอาจจะกลับเข้ามาในฐานะเจ้าของกิจการ ผู้บริหาคนดังยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีผลกับทางอาร์สยาม เพราะสัดส่วนรายได้ เพลงไม่ใช่รายได้หลักของอาร์เอสแล้ว เพราะรายได้จากเพลงลดน้อยลงไปมาก พร้อมกับปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า “เณร ศุภชัย” ลาออกเพื่อไปเปิดค่ายเพลงใหม่และมีศิลปินอาร์สยามตามไปอยู่ด้วย

     หลังจากการอุบัติขึ้นของยุคดิจิตอล ส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจล้มไม่เป็นท่ากับการตั้งรับไม่ทัน รวมทั้งธุรกิจเพลง ในรูปแบบที่คนยังฟังเพลง แต่ไม่ต้องซื้อเพลงฟังเหมือนอย่างแต่ก่อน ทำให้ธุรกิจเพลงค่อยๆ ล้มหายตายจากไป ที่ผ่านมา อาร์เอส ก็ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงครั้งใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้ฟังที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตามกระแสของเทคโนโลยีและพบว่าสัดส่วนรายได้จากเพลงไม่ใช่รายได้หลักของอาร์เอสอีกต่อไป เนื่องจากรายได้ที่ลดน้อยลง ในขณะที่ ธุรกิจหลักที่เป็นสื่อทีวีดิจิตอล ก็ไม่ได้ส่งผลกำไรอย่างที่คิด
ในขณะปีที่ผ่านมา อาร์เอส พบว่าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คือ ธุรกิจความงาม จากการเปิดตัวบริษัท “ไลฟ์สตาร์”

     โดยมีผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “ดร.ชาคริต พิชญางกูร” ที่มีความรู้ความเข้าใจตลาดและความงามเป็นอย่างดี มารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด และจากการปรับแผนการดำเนินงานในเชิงรุกของอาร์เอส เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์รักสุขภาพและความงาม และอาร์เอสได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ดีเกินคาด ส่งผลให้ปัจจุบันมีรายได้จากธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เห็นได้ชัดว่า อนาคตธุรกิจเพลงของอาร์เอส อาจจะเหลือเพียงแผนกเล็กๆ ไม่ใช่สายงานใหญ่โตเหมือนกับที่ผ่านๆ มา จึงเป็นไปได้ว่า ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่ “เณร-ศุภชัย” ลาออกไป คงไม่ต้องหาใครมานั่งแทนที่
 

     ด้านนักร้องลูกทุ่งคนดังอย่าง “บ่าววี อาร์สยาม” ได้เปิดใจถึงการที่ค่ายเพลง อาร์สยาม ไม่มี “เณร-ศุภชัย” ให้ฟังว่า “ผมทำอัลบั้มกับอาร์สยามมา 7 อัลบั้ม ทำงานกับ ‘พี่เณร-ศุภชัย’ มา 10 ปีเต็มๆ พอทราบว่า ‘พี่เณร ศุภชัย’ จะไม่อยู่อาร์สยามอีกแล้วก็ใจหายมาก ทุกความสำเร็จของผม และศิลปินคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ‘จ๊ะ อาร์สยาม’ หรือ ‘ใบเตย’ ล้วนเกิดจากมันสมองของเขา พี่เณรเป็นคนตัดสินใจ เรื่องเพลง จังหวะที่จะออกเพลง การหาสปอนเซอร์ เรียกว่าทำให้ลูกทุ่งของอาร์สยามคึกคักมากขึ้น และทำให้วงการลูกทุ่งเหมือนกลับมามีชีวิตด้วย สำหรับพี่เณร ที่เราประทับใจ คือ เขาไม่ทิ้งลูกน้อง การทำงานเพลงทุกอย่างเขาดูแลใกล้ชิดมาก คืออยู่ด้วยแล้วอบอุ่น พอมาทราบว่าจะไปก็ใจหาย พวกเราหลายคนก็ทราบข่าวก็ได้แต่เสียดาย แต่เราก็ต้องทำงานกันต่อไป ตามแนวทางของบริษัท

     ถ้าถามว่า ความเปลี่ยนแปลงของบริษัทจะเป็นยังไงต่อไป ก็ตอบไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ สมัยที่มาทำเพลงใหม่ ยุคแรกๆ พวกเราทำตามนโยบายบริษัท คือ เขาวางให้เลยว่าเราต้องทำอย่างไร เวลาออกอัลบั้ม ตามสัญญาเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วเพราะโลกมันเปลี่ยนเป็นยุคดิจิตอล ทุกวันนี้ มาร่วมลงทุนกัน เรามีสิทธิ์ตัดสินใจในงานเพลงมากขึ้น นักร้องแต่ละคนอยากทำเพลงต้องมาคุย บริษัทไม่ได้ ลงทุนให้หมดแล้ว ซึ่งก็ส่งผลกระทบกับนักร้องเหมือนกัน บางคนก็ต้องไปทำอย่างอื่น ก็มีถามว่าจะกระทบอะไรกับผมหรือศิลปินต่อไปหรือไม่อย่างไร ผมไม่ทราบจริงๆ คือกับพี่เณรอยู่กันมา 10 ปี เขาก็สร้างความสำเร็จให้อาร์สยามมากเหมือนกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน อยากขอบคุณพี่เณรมากๆ ที่สร้างงานดีๆ ให้พวกเรากันมาหลายปี"