ตำรวจบุกจับเพื่อน “เปิ้ล” ที่เวียงจันทน์ หลังโกงเงินงานแต่ง “ฟลุค-แอปเปิ้ล"

ตำรวจบุกจับเพื่อน “เปิ้ล” ที่เวียงจันทน์ หลังโกงเงินงานแต่ง “ฟลุค-แอปเปิ้ล"       

          เกิดกระแสดราม่าขึ้น เมื่อ “ฟลุค จิระ ด่านบวรเกียรติ” และแฟนสาว “แอปเปิ้ล สีสะเหงียน” ออกมาไลฟ์สดถึงเพื่อนของฝ่ายหญิงที่รับจัดงานออร์แกไนซ์งานแต่งงานของทั้งคู่ที่ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา เนื่องจากโกงค่าจัดงานแต่งงานที่ทั้งคู่ได้ชำระล่วงหน้า แต่งานกลับไม่ราบรื่น ทำให้ต้องเกือบยกเลิกกลางคัน จึงได้เข้าแจ้งความเอาผิด โดยหนุ่ม “ฟลุค” ได้เผยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า 

          สำหรับการจัดงานแต่งงานในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางฝั่งลาว ก่อนจัดงานตนก็ได้มีการจ่ายเงินมัดจัดไปค่อนข้างเยอะ อีกอย่างเค้าเป็นเพื่อน “แอปเปิ้ล” มานาน เลยมีความไว้ใจ และเขาเองก็มีความตั้งใจที่อยากจะทำงานนี้มาก บินมากรุงเทพหลายครั้ง เขาก็อยากได้เงินมัดจำเป็นงวดๆ ไป ผมก็จ่ายไปแล้ว 3 งวดจาก 4 งวด เป็นเงินประมาณ 8 แสนกว่าบาท สุดท้ายมารู้ว่าเงินที่จ่ายมัดจำโรงแรมไปมันไม่ถึงโรงแรม ถึงโรงแรมแค่ 32,000 บาท  พอวันงานทางโรงแรมก็มาเก็บเงินกับตนเพิ่มเติม ว่าตนยังไม่มัดจำ ก็แจ้งทางโรงแรมไปว่าตนมัดจำไปแล้ว โรงแรมก็แจ้งว่าถ้าไม่จ่าย 200,000 วันนี้ก็คงให้จัดงานไม่ได้  เลยได้ถามว่าทำไมเป็นแบบนี้

          ส่วนงานที่จัดออกมามันก็ไม่ตรงกับที่คุยกันเอาไว้ มันค่อนข้างแตกต่าง มันเป็นงานที่ทำไม่สำเร็จด้วยซ้ำ อย่างแบ็คดร็อปก็วัดไซส์ขนาดผิด ใช้วัสดุแย่มาก จนเรารับไม่ได้ ซึ่งตอนที่เข้าไปดูคือบ่ายโมงเหลือเวลาอีกแค่ 5 ชั่วโมงก่อนงาน ก็ได้ตัดสินใจว่าต้องทำใหม่ ทั้งเวที ทั้งทางเดิน ก็ได้พี่น้องที่รู้จักกันที่ลาว ช่วยเหลือเราดีมาก จัดแบ็คดร็อปใหม่ภายใน 3 ชม รุมช่วยกัน ภายในงานก็มีติดขัดเล็กน้อย ป้ายหล่นบ้าง ดอกไม้ตกใส่ แต่เป็นอะไรที่ 3 ชั่วโมงเค้าทำได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว พอเสร็จจากวันงานก็อยากคุยกับเขาว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ วันงานที่เราเสียไปต้องชำระให้เรา ก็คือค่าโรงแรม 200,000 บาท และค่าคนช่วยงานเรา 200,000 กว่าบาท ซึ่งเขาก็จ่ายไปแค่ 200,000 กว่าบาทเท่านั้น

          ตนก็มารู้หลังวันงานอีกว่า เขาค้างจ่ายนักดนตรี ค้างจ่ายโรงแรม ค่าดอกไม้ ตากล้อง อีกมากมาย คือเขาเอาเงินเราไปทำอะไรไม่รู้แต่เขาไม่จ่ายให้คนอื่น รวมค่าใช้จ่ายกว่า 800,000 กว่าบาท มาถึงวันงานก็ไม่มีจ่าย เรื่องมันก็เลยแดงขึ้นมา นี่ขนาดตนจ่ายค่าโรงแรม 200,000 และ ค่าวงดนตรี 20,000 เพิ่มเติมไปแล้ว จากนั้นก็มีการไกล่เกลี่ยกัน เพราะหลังจากวันงาน  (8 พฤศจิกายน) เขาก็หายไปเลย ตนเลยตัดสินใจไลฟ์ครั้งแรก ประมาณว่าคนนี้ชื่อนี้ เขามีปัญหาแบบนี้ จะทำยังไงดี พอไลฟ์ไปก็ติดต่อได้ทันทีเลย คุยเสร็จเค้าก็ยอมรับผิด ขอเลื่อนจ่ายไปเรื่อยๆ ตนก็คิดว่ามีปัญหาแน่นอน เขาต้องไม่จ่ายเราแน่ ก็เลยบอกเค้าว่าตนจะไปฟ้องไปแจ้งตำรวจ เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยววันที่ 20 พฤศจิกายนจะจ่าย ถ้าไม่จ่ายเอาเขาเข้าคุกได้เลย เพราะเขามั่นใจมาก 18 พฤศจิกายน เขามีงานคอนเสิร์ตของเขาเลยได้เงินจากตรงนี้ก็จะจ่ายตน ตนก็ไม่แน่ใจ เลยให้เค้าเซ็นต์เช็ค พอวันที่ 20 มันเด้ง เลยให้ครอบครัว “เปิ้ล” พาตำรวจไปเลย เพราะเค้ามีเจตนาที่จะหลอกตั้งแต่ต้น แล้วเอาเงินเราไปไม่คิดจะคืน ก็เลยตัดสินใจต้องดำเนินคดี โดยจับคุมตัวไว้ก่อน อยู่ในความดูแลของตำรวจที่เวียงจันทร์ คดีเป็นทั้งอาญาและแพ่ง

          สำหรับเรื่องนี้ ตนคิดว่ามันคือความไว้ใจที่คิดว่าคนชื่อ “หลิง” ที่เราคุยด้วยหลายครั้ง รู้สึกว่าเค้าน่าเห็นใจอยากจะเติบโต ตนเคยเป็นเด็กมาก่อน ก็เคยอยากได้รับโอกาส ก็อยากให้โอกาสเขา พอผ่านงานแต่งเรา เขาก็อาจจะได้รับงานพวกงานแต่งเพิ่มมากขึ้น น่าจะเป็นผลดีกับเขา

          ด้านสภาพจิตใจของ “เปิ้ล” ตอนนี้ดีแล้ว ตอนนี้ไม่คิดว่าเงินจะได้คืน แต่คนผิดอยู่ในความดูแลของตำรวจแล้ว ตนปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายของทางลาว บทลงโทษเราก็รู้ว่าสูงอยู่ก็น่าจะเข็ดหลาบ โดยหลังจับกุมปุ๊บ ตนก็ได้คุยกับทางญาติเขา แต่ญาติเขาก็ยังเงียบๆ อยู่ ทางพ่อแม่เขาก็เหมือนไม่อยากมาคุย ก็เลยดำเนินคดีไป “เปิ้ล” ก็สงสาร แต่ตนก็บอกไปว่าก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะถ้าเค้ายังลอยนวลอยู่แบบนี้เค้าก็จะหลอกคนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปเรื่อยๆ