“ปู ไปรยา” แจงไม่ต่อสัญญาช่อง 7 ขอผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ

“ปู ไปรยา” แจงไม่ต่อสัญญาช่อง 7 ขอผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ

        เป็นอีกหนึ่งนักแสดงฝีมือดีของช่อง 7 ที่สร้างผลงานมานับไม่ถ้วน สำหรับสาว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้” แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งจะหมดสัญญากับทางช่องไปสดๆ ร้อนๆ แต่ไม่เซ็นสัญญาต่อ เนื่องจากสาเหตุหลายๆ อย่างที่ต้องบินไปมาระหว่างไทยและอเมริกา จึงขอผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ สามารถรับงานได้ทุกช่อง รวมถึงช่อง 7 และยังย้ำอีกว่าช่อง 7 เป็นบ้านที่ทำให้สาว "ปู" มีทุกวันนี้ และยังกลับไปร่วมงานกันได้เหมือนเดิม ล่าสุดเมื่อเจอสาว "ปู" ที่งานอีเว้นท์ เจ้าตัวก็มาเปิดใจกับสื่อว่า

       ตอนนี้สัญญากับช่อง 7 หมดแล้ว แต่ปูก็เกิดมากับช่อง 7 แล้วปูมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับทางช่อง 7 ปูได้ดีก็เพราะช่อง 7 ช่อง 7เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของปู ส่วนปีนี้จะเซ็นสัญญากับคนอื่นไหม ปูไม่เซ็น แต่ถ้าจะรับละครไม่เกี่ยวกับช่องไหน สำคัญแค่คิวงานว่าง แล้วก็บทประพันธ์มากกว่า เพราะปูแบ่งงานทั้งไทยและเมืองนอก ปูเลือกงานเรื่องหนึ่งไม่เกิน 50 คิว เพราะว่าคิวปูไม่สามารถทำได้ คือตรงนั้นเป็นปัยจัยที่สำคัญ แต่ถามว่าจะมีงานกับช่อง 7 อีกไหม มีแน่นอน แต่ต้องเป็นเรื่องที่คิวไม่ได้เยอะมาก สัญญาหมดตั้งแต่เมื่อวาน เรื่องละครที่ว่าเล่นกับช่องไหนก็ได้ที่สามารถอะลุ่มอล่วยคิวได้ กับเรื่องไหนที่บทตัวละครซีนไม่เยอะมาก และถ่ายทำได้เร็ว มันขึ้นอยู่กับการวางคิวจริงๆ

        สำหรับ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ติดต่อตลอด แล้วปูก็ยังเลือกอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ก็เสียใจที่น่าจะเลือกสักเรื่องหนึ่ง และน่าจะประกาศได้เดือนสองเดือนในรอบการตัดสินใจอยู่ แต่ก็อยากจะบอกว่าปูกับช่องไม่ได้มีปัญหากันนะ และปูรู้สึกว่ารักช่อง 7 เพราะช่อง 7 ทำให้ปูมีทุกวันนี้ ตั้งแต่อายุ 13 ทุกวันนี้มีรายได้ก็เพราะช่อง 7 แต่ว่าตอนนี้ต้องเป็นฟรีแลนซ์ก็เพราะว่าปูไปๆ มาๆ กับไทยและเมืองนอก ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเข้าไปหาผู้ใหญ่ แต่ปูว่าอาทิตย์หน้าก่อนกลับปูจะเข้าไปกราบผู้ใหญ่ในช่อง 7 ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับทางช่อง แต่ก็จะมีโทรตลอด และปูคิดว่าช่องเป็นที่ปรึกษาตลอด เป็นเหมือนครอบครัวปูตลอด

        สำหรับปูคิวละครได้ปูก็เซ็นสัญญาให้ได้ ปูไม่มีทางเซ็นกับที่อื่น ถึงปูจะขึ้นจอที่อื่นได้ แต่การจะเซ็นสัญญาเป็นกิจจะลักษณะปีสองปีปูว่าปูคงไม่ทำ คุยตั้งแต่ปีที่แล้ว เขาพอทราบเหตุผลว่าทำไมปูต้องบินไปมา แต่ปูอยากจะให้เกียรติช่อง 7 ว่า ถึงปูจะเป็นฟรีแลนซ์และเล่นให้ช่องอื่น แค่ไปรับบทและเล่นของเขา ไม่ได้เป็นนักแสดงสังกัดช่องไหน เพราะว่าใจเราก็อยู่ช่อง 7 แต่ก็อยากกราบขอบพระคุณช่อง 7 อย่างที่บอก ใจปูและสถานที่ที่ปูเลือกคือช่อง 7 แต่การร่วมงานช่องอื่นคือการหาประสบการณ์

        และก็อยู่ที่บทประพันธ์ว่าช่องไหนได้บทประพันธ์ที่น่าสนใจ ตัวเราเองก็เป็นนักแสดง การต่อยอดกับอนาคตของเรามันเป็นโอกาสของเรา เลยบอกว่าถ้าจะรับก็อยู่กับบทประพันธ์ แต่ไม่เกี่ยวกับว่าอยู่ช่องไหน ปูไม่อยากใช้คำว่าจบได้ไหม เพราะยังอยากให้ช่อง 7 เรียกปูไปทำงานอยู่ ใช้คำว่าเป็นต้นกำเนิดใหม่ที่ดีที่พร้อมจะร่วมงานด้วยกันเมื่อไหร่ก็ได้ จริงๆ ปีที่ผ่านมาปูอ่านบทประพันธ์หลายเรื่องเหมือนกัน แล้วกำลังตัดสินใจว่าจะรับเรื่องไหน เร็วๆ นี้ก็น่าจะมี เรื่องที่รับปูก็ค่อนข้างตื่นเต้นกับบทประพันธ์เรื่องนี้ เอาจริงๆ ดวงปูมันแปลกที่ว่าใจปูอยากจะมารับเล่นละครเมื่อไม่นานนี้เอง เพราะว่าบทประพันธ์น่าสนใจ และคิวการถ่ายทำไม่มีผลกับงานเมืองนอก ปูเลยตัดสินใจว่าอาจจะเป็นไปได้ที่จะรับเล่น งานในเมืองไทยก็ต้องเป๊ะเรื่องคิว งานเมืองนอกก็ไม่ต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่เมืองไทยก็จะมีช้านิดๆ หน่อยๆ แต่ปูก็ไม่เป็นไร เราอยู่กับปัจจุบัน ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด อยู่จุดนี้ก็ต้องอะลุ่มอล่วย

        จริงๆ ก็อยู่ครึ่งๆ กับไทยนะ เพราะว่าอยากมีผลงานที่ไทยให้มากๆ แล้วก็มีโปรเจ็คท์ 2 โปรเจ็คท์ที่ทำที่เมืองไทย และคิดว่าทุกคนน่าจะได้เห็นในสิ้นปีนี้แน่นอน แล้วก็มีธุรกิจเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่บอกว่าคืออะไร แต่เร็วๆ นี้จะได้รู้แน่นอน

        ส่วนเรื่องงานที่เมืองนอกก็คือ ตราบใดที่มีสัญญากับเอเจนซี่อยู่ก็ทิ้งงานเมืองนอกไม่ได้ คือปูก็คงต้องบินไปบินมา เวลาบินไปก็แคสต์งานสู้ แล้วก็เรียนการแสดงต่อไป พอกลับมานี่ก็มาอัดคิว คือปูกลับมานี่ปูก็วิ่ง 3 งาน นี่ปูกลับมา 3 อาทิตย์ปูก็ทำงานทุกวัน ตอนนี้ปูมีผู้ช่วยทำแล้ว ตอนนี้มีผู้ช่วยทำธุรกิจ 1 คน ผู้ช่วยทำคิว 1 คน จริงๆ ปูว่าพอ เราไม่ได้อยู่ที่ที่เดียว แล้วพอเราอยู่ 2 ที่ พี่ต้องเข้าใจนะว่าความรับผิดชอบคนเราเวลาเราทำงานด้วยกันต้องรับผิดชอบชีวิตคนๆ นึง แล้วพอปูรู้ว่าอะไรที่มันไม่มั่นคงเราจะรับผิดชอบชีวิตคนๆ นึงมันเป็นอะไรที่สัญญาค่อนข้างใหญ่ ปูเลยวางรากฐานธุรกิจและชีวิตตัวเองให้ดีกว่านี้ ปูต้องใช้ผู้ช่วยไปก่อน คือถ้าปูพลาดปูไม่ได้พลาดคนเดียว แต่ปูดึงครอบครัวคนอื่นไปด้วย เลยบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจใช้วุฒิภาวะสูง และปูก็บอกไปแล้วว่าการเปลี่ยนผู้จัดการไม่ใช่เรื่องง่าย ปูพูดคำเดียวเลยว่า พี่โก้เป็นผู้จัดการคนเดียวในดวงใจปู ถ้าไม่มีพี่โก้ปูก็ไม่มีผู้ช่วย กลับมาครั้งนี้ปูว่าจะไปกินข้าวกับเขานะ เพราะคิดถึงเขา เราทำงานมาด้วยกันก็ 5 ปี เราร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน แต่ที่บอกว่าที่มันไปในทิศทางนี้ไปก่อนก็เพราะ ว่ากำลังเดินไปในทางใหม่ของชีวิต ปูอยากจะสร้างอนาคตกับคนที่ปูรักด้วย ซึ่งตรงเนี้ยมันยังไม่มีอะไรมั่นคงมาก ก็เลยขอเวลาก่อน จริงๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนนะกับการวางแผนการทำงานที่ดูงานที่ยูเอ็นก็ค่อนข้างหนัก กลับมาคราวนี้ปูต้องลงพื้นที่ต่างประเทศ และไหนจะเขียนสารคดี งานเมืองนอก ละครไทย ซีรีส์เมืองไทย คือมันหนักมาก ถ้าปูลิสต์งานไม่รวมโฆษณา อีเว้นท์ อีก มันค่อนข้างหนัก แล้วปู 60 เปอร์เซ็นต์ทำแล้วมันไม่มีผู้จัดการฯ แล้วมันเป็นงานยูเอ็น เลยขออยู่คน เดียวอีกสักพักหนึ่ง

         ถ้าไปเล่นละครช่องอื่นแล้วไม่ดังจริงๆ สำหรับปูปูว่าไม่เสียดายเลย เพราะว่าเขาไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเราจะดัง ปูมาอีเว้นท์วันนี้ยังไม่รู้เลยว่าปูจะเห็นด้วยกับชุดหรือเปล่า ปูไปงานเมืองนอกแล้วแต่งหน้าเอง แล้วคิดว่าจะปังไหมก็ไม่ปัง แต่ใจเราแค่คิดว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เชื่อจากใจปูเลยว่าช่อง 7 เป็นบ้านกำเนิดที่สร้างปูมา ไม่ว่าปูจะทุกข์หรือสุขช่อง 7 ก็ยินดีกับปู และปูกล้าพูดเลยว่าการกลับมารับละครครั้งนี้เพียงแต่ว่าปูไม่อยากหายไปจากจอประเทศไทย คนมองว่าปูอกตัญญูไม่ได้ เพราะว่าปูทำและอยู่ตั้งแต่อายุ 13 แล้วปูโตมากับช่อง 7 แล้วถ้าปูอกตัญญูปูคงเซ็นกับช่องอื่น แต่ปูย้ำชัดเจนว่าปูจะไม่เซ็นกับช่องไหน แต่ปูจะเลือกละคร อยู่ที่บทประพันธ์และคิวถ่ายทำเพื่อที่จะไม่หายจากจอประเทศไทย ถ้าช่อง 7 มีบทประพันธ์ที่เราสามารถทำได้ในระยะเวลาที่ปูไม่สูญเสียที่อเมริกาได้ปูก็จะรับ แต่ปูก็จะไม่เป็นลูกรักของช่องไหน แต่จะเป็นนักแสดงอิสระ ปูเล่นได้ทุกช่อง รวมถึงช่อง 7