"จ๊ะ จิตตาภา" เผยชีวิตหลังแต่งแฮปปี้ โต้สละโสดแล้วเซ็กซี่ขึ้น
"จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม" เผยชีวิตหลังแต่งงาน "เอิน ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล" มีความสุขดี ปัดแต่งงานแล้วปรับลุคเซ็กซี่ขึ้นพร้อมกับอัพเดทเรื่องทายาท
เรียกว่าชีวิตหลังแต่งดูจะแฮปปี้สำหรับสาว "จ๊ะ จิตตาภา" กับแฟน หนุ่มผู้จัด "เอิน ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล" ที่ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องทายาทสักหน่อย รวมไปถึงชีวิตหลังแต่งด้วย
หลังแต่งก็เรื่อยๆ ดี มันไม่ได้เปลี่ยนไปจากก่อนแต่งงานมาก แค่ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตบางอย่างเท่านั้นเอง แต่เอาจริงๆ ก็เพิ่งจะผ่านมาแค่ 2 เดือนเองนะ ดังนั้นการตื่นเช้าขึ้นมาและเจอหน้ากันมันก็เลยยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ส่วนสรรพนามที่ใช้เรียกกันก็ไม่ได้เปลี่ยนเรายังเรียกกันปกติเหมือนเดิม
ส่วนที่หลายคนสังเกตว่าตั้งแต่แต่งงานดูเซ็กซี่ขึ้นนั้น ก็ไม่หรอกจริงๆ จ๊ะแต่งแบบนี้ของจ๊ะอยู่แล้วแค่ไม่ค่อยได้เอาลงสื่อ เพราะมันขึ้นอยู่กับอารมณ์เราตอนนั้นด้วยบางครั้งก็อยากลงบางครั้งก็ไม่อยาก แต่ไม่ได้แซ่บขึ้นนะคะทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้เหมือน "เอิน" เขาก็เคยบอกว่าชอบให้เราแต่งตัวเซ็กซี่ กับเอินเขาเป็นคนชอบผู้หญิงเซ็กซี่อยู่แล้วเขาก็เลยชอบที่จะได้เห็นจ๊ะในลุคแบบนี้บ้าง ดังนั้นเขาก็จะคอยเชียร์ คอยซื้อเสื้อผ้าแนวเซ็กซี่ให้ ถามว่าแปลกใจไหมที่เขาไม่หวงเหมือนสามีคนอื่น เอาจริงๆ แปลกใจ เคยถามเขาเรื่องนี้เหมือนกันเพราะความเซ็กซี่มันก็มีอายุของมันเนอะ เราก็เลยไม่รู้ว่าเราจะแต่งได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าตอนนี้ทำได้ก็จะทำไปก่อน
ยอมรับ "เอิน" ถึงขั้นซื้อชุดนอนเซ็กซี่มาเซอร์ไพรส์ เรื่องของเรื่องก็คือปกติจ๊ะจะชอบใส่ชุดนอนเก่าๆ แบบผ้าเปื่อยๆ แต่เอินเขารับไม่ได้เขาก็เลยซื้อชุดใหม่มาให้เป็นการเซอร์ไพรส์ แต่ปรากฏว่าพอจ๊ะได้เห็นชุดจ๊ะก็บ่นเลย คือจะไม่มีวันใส่ชุดแบบนี้แน่นอนเพราะมันแย่มาก ผิดจากที่เราใส่มากๆ มันเป็นชุดซีทรูหมดเลย เหมือนเราไม่ได้ใส่อะไรเลยจริงๆ แต่เอินเขาก็ไม่ได้บังคับให้ใส่ แค่พูดแซวๆ ประมาณว่าไม่ลองหน่อยเหรอมากกว่า ซึ่งเราไม่กล้าจริงๆ
พอแต่งงานแล้วเขาเอาใจใส่เรามากขึ้น ต้องคอยดูแลเขาในเรื่องเสื้อผ้าหรือเรื่องส่วนตัวของเขา ซึ่งเขาเองก็จะคอยอ้อนเราด้วยเหมือนกัน ด้านทายาทคงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอนเพราะตอนนี้ละครเรื่องใหม่เพิ่งเปิดกล้อง แต่ถามว่าอยากจะมีหรือเปล่า ก็ยังคุยกันอยู่ว่าจะเอายังไง เพราะส่วนตัวเองไม่ค่อยอยากมีเท่าไหร่ แต่ว่าเอินเขาอยากมีมากๆ ดังนั้นมันก็เลยต้องคุยกันก่อน เพราะทางผู้ใหญ่เองก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรเขาให้เราเป็นคนตัดสินเองทั้งหมด