"แหม่ม คัทลียา" อัพเดทเรื่องเรียนลูก แย้มอยากร่วมงาน "หนูแหม่ม"
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น สำหรับครอบครัวของสาว "แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช" ที่ล่าสุดเจอตัวก็ไม่พลาดที่จะอัพเดทเรื่องลูกๆ สักหน่อย เพราะเจ้าตัวเพิ่งไปส่งน้องแม็ค ลูกชายคนโต เรียนต่อโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ
ล่าสุดเพิ่งไปส่งน้องแม็คกลับอังกฤษ แต่จริงๆ ต้องไปเอง ต้องพาเขาไปสอบสัมภาษณ์ด้วย เขาสอบข้อเขียนผ่านแล้ว เหลือสอบสัมภาษณ์ สำหรับโรงเรียนอีกปีข้างหน้าที่จะต้องเข้า คือตอนนี้ไล่สอบไปเรื่อยๆ เหมือนเราสอบสมัครเซนต์คาเบรียล สมัครกรุงเทพคริสเตียน แล้วก็ไปไล่สอบให้ครบ แล้วสุดท้ายพอใกล้จะจบก็เลือกอีกทีว่าเราจะเข้าโรงเรียนอะไร
ส่วนตั้งความหวังจะให้น้องเรียนอะไรไหม ก็มีช้อยส์ในใจ แต่ขออุบไว้ก่อน ส่วนโรงเรียนในฝันว่าอยากให้น้องเรียนโรงเรียนอะไร ส่วนตัวแล้วชอบโรงเรียนนี้มากอยู่แล้ว ถึงเวลาบอก เดี๋ยวจะบอก แต่ว่าแล้วแต่คนชอบไง บางคนก็ชอบโรงเรียนนี้ บางคนก็ชอบโรงเรียนนั้น แต่สำคัญสุดคือ ลูกชอบโรงเรียนไหน ลูกรู้สึกว่าตัวเองเข้ากับโรงเรียนไหนได้มากกว่า ซึ่งช่วงหลังโชคดีเขาดีขึ้น ไม่เครียด แต่ว่าตอนไปใหม่ๆ จริงๆ หลายๆ คนบอกว่าควรจะไปก่อนหน้านี้หรือเร็วกว่านี้ ควรไปตั้งแต่ 9 ขวบ แต่แม็คเขาไป 10 ขวบ เพราะว่าไปถึงระบบอังกฤษเหมือนเราไปประถม แต่เหมือนโรงเรียนมัธยมคือเขาจะจับสอบเลย ซึ่งลูกเราไปจากต่างประเทศคือ มาจากเมืองไทย ยังไม่ทันปรับตัวโรงเรียน สภาพแวดล้อมอะไรเลยก็โดนจับสอบข้อเขียน ก็ยากสำหรับเด็กเหมือนกัน แต่ว่าทั่วโลกเป็นแบบนี้ เด็กก็ต้องทำแบบนี้ ตอนนี้ก็ดีขึ้น แม็คก็สบายขึ้นแล้ว ยอมรับลูกชายมีบ่นบ้าง แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะสำหรับตัวเขา เขาโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีระบบระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบ
ด้านความห่างไกลก็มีคิดถึงเขา ตอนแรกก็ทำใจไม่ค่อยได้ บินไปหาบ่อย มาหลังๆ ก็ทำใจชิน กับน้องคินก็จะไปเร็วกว่าแม็คปีนึง คินก็จะไปอีกปีนึง ไป 9 ขวบ ตอนนี้ปีนี้เขาจะ 8 ขวบ ก็อยู่อีกปีนึง ปีหน้าเขาก็ไป แม่ก็ต้องเริ่มทำใจใหม่ นับหนึ่งใหม่ คือคนแรกผ่านไปปุ๊บ พอมาคนที่สองเราก็ต้องมานั่งคิดว่าคินเขาจะยังไง เพราะเขาไปเด็กกว่าแม็คด้วย จริงๆ เรารู้เพราะว่ามีช่วงเวลาของมันอยู่แล้ว เราก็ทราบแล้วแหละ อย่างแม็คไปเขาก็ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ เพราะไป 10 ขวบ ก็เลยจะให้คินไปเร็วขึ้นปีนึง ก็แปลว่าเด็กลงปีนึง เราก็ต้องตกลงกับบี๋แล้วว่าเราต้องไปรับ-ส่งตลอดนะ แต่เราจะพูดว่าไม่พร้อมก็ไม่ได้ เพราะเวลาก็กระชั้นชิดมาเรื่อยๆ น้องคินก็รู้ตัวเองว่าต้องไป เขาก็ทราบเหมือนกัน เขาก็คุยกับพี่เลี้ยงว่าอีกปีนึงเขาก็จะต้องไปแล้วนะ ไปอยู่โรงเรียนเดียวกับพี่แม็ค ประมาณนี้ เขากึ่งๆ เหมือนรู้ว่าจะต้องไป แต่ว่ามีบางทีก็พูดเหมือนกันว่า ป๊าๆ เราอยู่โรงเรียนนี้จนถึงมัธยมไม่ได้เหรอ เขาก็กำลังมีความสุข สนุกกับเพื่อน
ด้าน "เนสซี่" ก็จะไปเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ชะตาตัวเองเลยว่าการไปคืออะไร ด้วยความที่ 5 ขวบเลยถามว่าเนสซี่จะอยู่ได้ไหม เนสซี่ก็บอกว่าเนสซี่อยู่ได้ แต่ถ้าถึงจุดๆ นึงก็คุยเหมือนกันว่าทำไมผู้ชายได้ไป แล้วทำไมผู้หญิงจะไม่ได้ไป ก็ไม่ยุติธรรม แล้วถ้าเนสซี่เขาอยากไป เราก็ต้องให้เขาไปในอายุที่เหมาะสม แล้วเราก็คงต้องบินไปอยู่กับเขาที่นั่น ก็วางแพลนประมาณนึงว่าจะซื้อบ้านอยู่ที่นั่น แต่ว่าเดี๋ยวนี้บินไปบินมาได้ ไปมาสะดวก และง่าย อย่างวันก่อนลงเครื่องมาก็ไปถ่ายละครต่อเลย
"พี่หนูแหม่ม" ย้ำชัดสามารถร่วมงานกันได้เหมือนเดิม ยังมีการพูดคุยกันตลอด แต่ต้องแล้วแต่ผู้จัดฯ ต่างๆ หรือว่าเจ้าของช่องต่างๆ ที่จะผลิตรายการหรือคิดทำรายการ แล้วก็เอาเรา 2 คนไปเป็นพิธีกรหรือทำงานด้วยกันหรือไม่