​​​​​​​“ปนัดดา เรืองวุฒิ” แจงหลังมีชื่อโดนฟ้องกรณีโกงค่าตัวนักแสดงซีรีส์วาย 

“ปนัดดา เรืองวุฒิ” แจงหลังมีชื่อโดนฟ้องกรณีโกงค่าตัวนักแสดงซีรีส์วาย 

             เหมือนจะไม่จบง่ายๆ กรณีของนักร้องสาว “ปนัดดา เรืองวุฒิ” ที่ก่อนหน้านี้ได้มีนายทุนพร้อมผู้กำกับซีรีส์วายเข้าแจ้งความ ซึ่งมีสาว “ปนัดดา” เป็นหุ้นส่วนด้วย แถมงานนี้ทางคู่กรณีโผล่มาในงานเดียวกันอีกด้วย ซึ่งงานนี้เจ้าตัวออกโรงเคลียร์ถึงกรณีดังกล่าวผ่านสื่อว่า

             ต้องเท้าความไกลมาก ด้วยความที่นัทเป็นเพื่อนกับหนึ่งในคณะกรรมการตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเราก็จดทะเบียนบริษัทกันขึ้นมา หลังจากนั้นมีหุ้นส่วนทั้งหมด 3 คน นัทก็มีชื่อเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนด้วย ส่วนใหญ่เวลาที่ดำเนินการอะไรทั้งสองคนจะเป็นคนดำเนินการ พอถึงเวลามีงานอีเว้นท์หรืองานอะไรที่จะต้องใช้ชื่อแบบนี้ เราก็จะกลายเป็นหนังหน้าไฟ ซึ่งเรามีชื่ออยู่ในบริษัท ฉะนั้นพอถึงเวลาหลังจากที่เขาไปดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ ความที่เราเป็นเพื่อนกันมานานก็เกิดความไว้ใจที่ยังอยู่ในบริษัทมาจนถึงตอนนี้ เวลาที่เขาดำเนินการ คือ ทั้งสองคนที่เขาคอยดำเนินการจัดการ ตั้งบริษัทมา 8-9 ปีแล้ว ถามว่าเราเกี่ยวข้องกับบริษัทไหม ถ้าเกี่ยวก็คือเกี่ยวที่มีชื่อในบริษัท จะมารู้ช่วงที่เขาดำเนินการไปแล้ว ช่วงที่มีปัญหาแล้ว เราได้มีบทเรียนก่อนหน้านี้มาอยู่แล้ว แต่ทีนี้มันมีเรื่องของความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกับงานที่เขาน่าจะรับไว้ก่อนแล้ว นัทก็เลยยังมีชื่อต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ ถ้าเป็นเรื่องของวันนี้รู้สึกว่าถ้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีความ นัทคงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก ก่อนหน้านี้เราไม่เคยได้รับผลประโชน์อะไรกับบริษัทนี้ 

             ถามว่าทำไมไม่ขอถอนชื่อออกไปเลย อย่างที่บอกว่าเขาน่าจะรับงานเอาไว้ต่อเนื่องกันมา ชื่อนัทก็เลยต่อเนื่องมา หลังจากนั้นตามที่ศึกษามาเราเอาชื่อออกจากการเป็นกรรมการ แต่ยังไงก็ยังมีหุ้นส่วน เพราะว่าการจดทะเบียนบริษัทก็ยังไปไหนไม่ได้ ด้วยความที่เราก็ไว้ใจเป็นเพื่อนกันมานาน ก็พยายามเป็นกำลังใจให้เขาแก้ปัญหาให้ผ่านไปทีละจุด ถ้าเป็นการฟ้องร้องเรื่องของคดีความนัทไม่น่าจะพูดอะไรได้มาก ไม่ว่าจะเป็นทางคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เขาน่าจะมีการดำเนินการ เตรียมการ ซึ่งนัทก็พูดไม่ได้ทั้งสองฝั่งเลย และเราก็ไม่ได้รับรู้ทั้งฝั่งไหนเลย สิ่งที่บอกคือจะทำยังไงที่จะสามารถปกป้องชื่อเสียงของเราได้บ้าง เราอาจจะไม่ได้เป็นคนที่โด่งดังดีเด่นมากในวงการบันเทิงแต่เราก็อยู่มานานแล้ว ก็ไม่อยากให้สิ่งที่ทำมาหรือแฟนคลับมองไปในทางที่ไม่ดี สิ่งที่เขาทำได้คือต้องการที่จะแก้ปัญหาในวิธีของเขา นัทถอนจากการเป็นกรรมการ ถึงมีนัทอยู่เป็นกรรมการก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไร ไม่ได้มีส่วนรับรู้อะไร เพราะไม่เคยมีการประชุมกันว่าจะดำเนินการอะไรยังไง แต่สุดท้ายก็ต้องประชุมกันอย่างจริงจังทั้ง 3 คน ว่าจะจัดการยังไง ผู้เสียหายไม่ใช่แค่คนนอกบริษัท ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะทุกคนอยากทำงาน พอปัญหาเกิดควรจะมีวิธีบริหารจัดการว่าจะทำยังไงบ้าง

             จะเสียเพื่อนไหมก็ยังพยายามให้กำลังใจเขาอยู่ การที่เขากำลังแก้ปัญหา เราคบกันมานานถึงแม้ว่าเรื่องการงานเราไม่ได้รับรู้ พอมีปัญหาเราก็ต้องดูเจตนาของเขาด้วย เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เท่าที่คุยกันแล้วเขาพยายามแก้ปัญหาอยู่ แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าจะทำยังไงกับจุดยืนของนัทที่คาราคาซังอยู่ในบริษัท เอาเป็นว่าขอให้แก้ปัญหาที่มันผ่านๆ มาให้เสร็จก่อน พอเสร็จแล้วนัทหวังว่าเขาก็จะเคลียร์ชื่อของเขา เราก็จะได้เคลียร์ชื่อของเรา เคลียร์ทั้งชื่อและความรู้สึก ที่ผ่านมาอยู่กันแบบเป็นเพื่อน ไว้ใจ ก็มีปรึกษาทนายพอมีเรื่องของการฟ้องร้อง ต้องคิดว่าสิ่งที่เราควรจะทำที่ดีกับเราที่สุดคืออะไร คิดในองค์รวมถ้าไม่แข็งแรงพอ ก็ต้องคิดแก้ปัญหาของตัวเองเอาไว้ด้วย ตอนนี้เท่าที่ทราบคือเขากำลังแก้ปัญหาอยู่ พยายามจะหาเงิน ทราบเท่านั้นจริงๆ ตอนแรกเขาบอกว่าจะแถลงข่าว แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะตอนนั้นบอกเขาแล้วว่าอย่างน้อยซัพพอร์ตเรานิดหนึ่ง แต่การที่เขายังไม่ออกมาอาจจะกำลังจัดการอะไรของเขาอยู่