“เจมส์” แฮปปี้ใส่ชุดผู้หญิง เมินคนเข้าใจผิด รับเสียดาย “9x9” ใกล้ปิดตัวลง
ถ้าหากพูดถึงนักแสดงวัยรุ่นที่แต่งตัวจัดจ้านโดดเด่นเป็นตัวของตัวเองและไม่เหมือนใครก็คงต้องยกให้ “เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” เรียกได้ว่ากลายเป็นเอกลักษณ์ของเขากันไปแล้ว ทำหลายคนเข้าใจผิดว่าทำไมถึงชอบแต่งตัวด้วยชุดผู้หญิงอยู่บ่อยๆ งานนี้เจอหนุ่ม “เจมส์” เลยขอเข้าไปถามสักหน่อย รวมถึงอัพเดทผลงานกันในตอนนี้ เพราะโปรเจ็คท์ “9x9” ก็ใกล้จะปิดตัวลง
สำหรับที่หลายคนมองแฟชั่นการแต่งตัวของผมที่ชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้หญิง ผมว่าการแต่งตัวแบบนี้มันคือแฟชั่น ประเทศเรามันควรเปิดกว้างเรื่องเพศได้แล้ว ผมรู้สึกว่าผมไม่แคร์กับเรื่องนั้น อย่าตัดสินคนที่เพศ และทำไมถึงแฮปปี้กับการแต่งตัวแบบนี้ คือผมรู้สึกว่าผมแฮปปี้กับสิ่งๆ นี้ผมอยากทำอะไรมันก็สิทธิ์ของผม ผมไม่ได้ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมใช้เงินของผมเองผมไม่ได้ไปใช้เงินเขาซื้อ ผมเลยรู้สึกว่าผมสนุกกับแบบนี้ ถ้าใครมองว่าผมเป็นผมก็ไม่ได้ซีเรียส อย่างที่ผมบอกไปการเป็นมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแล้วผมก็แฮปปี้ ผมก็คิดผมก็อยากทำมันไป แฟชั่นของผมคือสนุก ผมสนุกกับการที่ผมได้แต่งตัว ผมสนุกกับการที่หยิบเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่ ผมเอว 25 ผมหาเสื้อผ้าของผู้ชายใส่ยาก และตัวผมก็รู้สึกสนุกกับการแต่งตัวแบบนี้ ส่วนตัวเราชอบแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลยหรือเปล่า ก็ไม่เลย เรียกได้ว่าเราได้ปรับไปเรื่อยๆ คือแต่งหลายอย่างแต่งแบบสตรีทก็เคยแต่งแล้ว เอวต่ำก็เคยแต่ง ที่ผ่านมาผมก็ชอบทุกแบบทุกแนว และแต่ละแบบก็มีความสนุกแตกต่างกันไปด้วย
ส่วนโปรเจ็คท์ “9x9” เราก็อยู่กับเพื่อนมาสองปีแล้ว ตั้งแต่แถลงข่าวโปรเจ็คท์ก็ปีหนึ่งที่อยู่ด้วยกันมามันเหนื่อยมาเยอะ วันแรกที่เราทำเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง พอทุกอย่างเริ่มเซ็ตตัวเรามีแฟนคลับมากขึ้นมีหลายๆอย่างพอมันใกล้จบก็มีหลายๆ ความรู้สึกรวมกัน มันดีใจที่เรามาไกลถึงขนาดนี้ มันดีใจที่เรามีชื่อเสียงมากขึ้นได้สร้างความสุขให้แต่ละคนมากขึ้น มันก็รู้สึกเศร้ารู้สึกเสียดายเหมือนกันที่มันจะจบแล้ว ผมว่าอยู่กับเพื่อน 9 คน มากกว่าอยู่กับครอบครัวอีก ทั้ง 9 คนบางคนมันยังไม่รู้จักกันบ้าง แต่พอเราเข้ามาทำความรู้จักใหม่กับหลายคนมันต้องใช้เวลาที่เราเข้าหากัน มันเห็นทุกมุมมองของกันและกัน ถือว่ามันผูกพันกันไปแล้ว และถ้ามีโอกาสผมก็อยากที่จะได้กลับมาเจอ มาร่วมงานกันอีกครั้ง
ส่วนฟีดแบ็คซีรีส์เรื่องล่าสุด “Great Men Academy” บอกเลยว่าดีมากตั้งแต่ตอนแรก ส่วนตัวเราเองก็ได้ติดตามฟีดแบ็คในทวิตเตอร์ ไลน์ทีวี เฟซบุ๊ก และทุกๆ ทาง คนเซอร์ไพรส์กับบทที่ได้รับด้วยแล้วก็ชอบภาพของเรื่องมีคนชมว่าภาพสวย ได้เห็นอีกมุมมองหลายๆ คนก็เซอร์ไพรส์ เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทเลย คิดว่าต้องฝึกอะไรเพิ่มอีกเยอะ ที่จริงเรารับทุกเรื่องมันเป็นการพลิกบทบาททุกเรื่อง การที่ทำให้ตัวละครทุกตัวมันแตกต่าง แน่นอนเราต้องมีเวิร์คชอปหาเรฟเฟอร์เร้นซ์เพิ่มการแอ็คติ้งการแสดงแบบใหม่ หรือการเข้าถึงบทตัวนั้น มันก็หลายอย่าง แล้วเรื่อง “Great Men Academy” ผมเล่นเป็นเลิฟแล้วเราต้องมีน้องนิวเป็นต้นฉบับ เราก็ต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น คิดอยู่เสมอว่าเราต้องเล่นยังไงให้เหมือนน้องนิว หาแอ็คติ้งแบบที่ผู้กำกับต้องการ มันต้องทำการบ้านต้องใช้เวลา
