​​​​​​​มื้อแรกเหมือนกระเพาะฉีก! เปิดใจ “ไอซ์ซึ” หลังอดอาหารเป็นเดือนเพื่องาน

มื้อแรกเหมือนกระเพาะฉีก! เปิดใจ “ไอซ์ซึ” หลังอดอาหารเป็นเดือนเพื่องาน

             เรียกว่าแฟนๆ เห็นแล้วเป็นต้องตกใจกับความซูบผอมของหนุ่ม “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์” นักแสดงหนุ่ม หลังจากที่เจ้าตัวออกมาเผยวิธีลดน้ำหนักโดยการทานฝรั่งวันละ 1 ลูก เป็นเวลา 1 เดือนครึ่งในช่วงปีก่อน เพราะรับบทบาทในซีรีส์ The Collcter โดยเจ้าตัวเพิ่งโพสต์ภาพชี้แจงหลังจากมีคนเข้ามาถามวิธีการลดน้ำหนักอันรวดเร็วกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่สามารถที่จะตอบกลับได้ครบทุกคน จึงออกมาโพสต์เตือนใจสำหรับคนที่อยากจะใช้วิธีลดน้ำหนักเหมือนเจ้าตัว ทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสพูดคุยกับ “ไอซ์ซึ” ถึงวิธีการลดน้ำหนักดังกล่าว พร้อมอัพเดทสภาพร่างกายที่เกือบทรุด โดย “ไอซ์ซึ” เผยว่า

อ่านข่าวต่อ :

ทำความรู้จัก “ไอซ์ซึ” หรือ “ปาย” ใน “คนประกอบผี”

ได้รับวิธีการลดน้ำหนักแบบนี้จากไหน
             เมื่อรู้ว่าต้องลดน้ำหนัก เราก็ไปหาวิธีว่าเขาทำกันยังไงบ้าง ในฝั่งของฮอลลีวู้ด ก็มานั่งดูดาราดังๆ ว่าเขากินกันยังไง ก็มีดาราท่านหนึ่งเขาทานแต่แซลมอน ทูน่ากระป๋อง แต่ตัวเราเองไม่ได้ทานปลา เราไม่ชอบทานปลา เราก็เลยคิดว่าหาอะไรดี ก็เลยไปค้นพบว่าเป็นฝรั่ง จริงๆ เราลองมาหลายอย่าง แอปเปิ้ลบ้าง แต่ฝรั่งมันอิ่มท้องกว่า เพราะลูกมันใหม่ ได้เคี้ยวเยอะ อิ่มท้องมากกว่าก็เลยโอเค เราเลยเลือกวิธีนี้

มีปรึกษาคุณหมอบ้างไหมถึงวิธีการลดน้ำหนัก
             ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้ปรึกษาเลย คือเราไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องหมอเลย เรียกว่าอยากทำงาน อยากทำให้มันออกมาดี เลยอยากทุ่มเทกับมัน เวลามันเร่งด้วย เราก็เลยลองทำเองดูก่อน แล้วคิดว่ามันจะตอบโจทย์ แต่พอทำไปครึ่งทางปัญหามันเริ่มเกิด ก็คือมีผื่นขึ้น เราเลยต้องไปโรงพยาบาล เพราะว่าใช้ชีวิตไม่ได้ ก็ต้องไปโรงพยาบาล คุณหมอก็แนะนำให้ลองหาวิตามินกิน พวกวิตามินซี วิตามินอี ที่เราขาดไป ก็เพิ่มอันนี้เข้าไปแทน

ระยะเวลาที่งดอาหารนานแค่ไหน
             คืองานก่อนหน้านี้เราเล่น “ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์” เราต้องเพิ่มกล้ามเยอะมาก น้ำหนักขึ้น 5-6 กิโล เพราะเราต้องกล้ามใหญ่ พอมาเล่นเรื่องนี้ลดเยอะมาก เพราะว่าตัวละครเขาไม่ได้ไปออกกำลังกาย ก็เลยหาวิธีลด ก็เลยลดมาเป็นแบบนี้ ประมาณเดือนครึ่งก่อนที่จะถ่ายทำ มีเวลาแค่เดือนครึ่งในการเตรียมตัว ก็เริ่มทาน เราก็คำนวณว่าวันหนึ่งเรากินฝรั่ง 1 ลูก มันจะประมาณ 100 แคลอรี ซึ่งปกติเราใช้พลังงานในชีวิตประจำวันประมาณ 1,800 – 2,000 แคลอรี เราก็เลยลองคำนวณดูว่า ถ้าเราลดพลังงานเท่านี้ 3 วัน เราจะลดน้ำหนักได้ 1 กิโล เราก็คิดอีกว่าถ้าเราลดได้ 1 เดือน น้ำหนักก็จะลดไปประมาณ 10 กิโล ถ้าเวลาเดือนครึ่งมันจะทันแน่นอน แต่ต้องวิธีนี้เท่านั้น ก็เลยเริ่มทานตั้งแต่นั้นมา ซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายของเรา มีเกินมานิดนึง แต่อาจจะเพิ่ม 1-2 กิโล พอเราเริ่มถ่ายแล้ว เราก็ยึดว่าอันนี้คือน้ำหนักที่เราต้องใช้ ก็มาร์คไว้ที่ 56 กิโลกรัม แต่พอถ่ายซีรีส์มันก็ได้กินเพิ่ม เพราะเราต้องใช้พลังในการถ่ายทำ ต้องออกกอง นอนน้อย เราก็กินเพิ่ม แต่น้ำหนักมันก็ยังคงตัวอยู่

หลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว ร่างกายเราเปลี่ยนแปลงอย่างไร
             พอถ่ายเสร็จแล้วผมดีใจมากที่จะได้กินแล้ว ก็อาจจะกินให้เยอะขึ้นเพื่อกลับไปน้ำหนักเท่าเดิม แต่พอเอาเข้าจริงๆ เราลดลงมาเหลือ 56 แล้วเราอยู่แบบนั้นมาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งกระเพาะเรามันเล็กลง คือเรายัดอะไรลงไปมันก็เต็ม เหมือนกระเพาะจะฉีก มันทรมานมาก ผมว่าการเพิ่มหนักกว่าการลดอีก พอกระเพาะเล็กแล้วเราจะกิน 2 มื้อมันก็ไม่ได้ ก็เลยกินได้แค่มื้อเดียว ก็ค่อยๆ เพิ่มเป็นเดือน เริ่มกิน 2 มื้อ พอ 2 เดือนเริ่มกินได้ 3 มื้อ ค่อยๆ ทยอยให้มันกลับมาปกติ ช่วงนั้นรับงานอะไรไม่ได้เลย ต้องพยายามเพิ่มน้ำหนักให้สมบูรณ์เหมือนเดิม

นอกจากทานไม่ค่อยได้แล้ว มีอาการอื่นๆ อีกไหม
             จะเกิดภาวะเครียดมากกว่า เพราะเรากดดันตัวเองตอนลด แล้วพอเราอยากจะกินแต่มันกินไม่ได้ มันก็เลยเครียดสะสมเป็นภาวะความเครียด ตัวละครก็เครียด เราก็เครียดด้วย สภาวะจิตใจก็ต้องปรับกันนิดหน่อย ว่าเราแฮปปี้ กลับมากินได้แล้วนะ แต่ความอยากอาหารมันก็น้อยลง พอกินน้อยๆ เราก็รู้สึกเบื่ออาหาร พอเรากลับมาทานรสชาติอาหารมันน้อยลง เราต้องปรับความคิดของเราเองด้วย

เมนูแรกที่ทานหลังจากงดอาหารมานาน
             ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ สั่งพิเศษเลย วันแรกกินหมด กินไป 2 ชาม แล้วก็นอนไม่ได้มา 2 วัน เพราะมันจุกมาก ก็ต้องล้วง เพราะเหมือนมันติดอยู่ตรงท่อลำเลียงอาหาร มันติดหน้าอกจนแน่นไปหมด

ได้มีการปรึกษาคุณหมอบ้างไหมกับอาการดังกล่าว
             ไม่ได้เข้าไปหาคุณหมอ แต่ก็หาข้อมูลศึกษาในอินเตอร์เน็ต คือเรารู้แล้วแหละว่าขาดวิตามิน เราก็ศึกษาอีกทีแล้วถึงมาเริ่มกินปกติ พอเรากินอาหารปกติมันก็มีสารอาหาร มันก็ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ช่วงผื่นที่เหมือนแผลเป็นที่คอเราก็ทายาเอา มันก็ดีขึ้น ตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว เพราะต้องเล่นละครเรื่องใหม่ ต้องออกกำลังกายด้วย ก็ต้องกลับมาออกกำลังกายเหมือนเดิมหลังจากไม่ได้ออกมาเป็นปี

ฝากถึงคนที่อยากลดน้ำหนัก
             คือตอนนั้นอยู่ในช่วงของปีก่อน เป็นปีเลยก็ว่าได้ มีคนถามกันเข้ามาใน DM ซึ่งผมก็ไม่สามารถที่จะตอบส่วนตัวได้ทีละคน แต่พอมาถึงช่วงนี้ เป็นช่วงสงกรานต์ เราคิดว่าหลายคนอาจจะอยากมีหุ่นที่ผอม ทันเล่นน้ำ ก็มีคนทักเข้ามาถามอีกเป็นข้อๆ เลย ทีนี้ถ้าเราจะไม่ตอบอีกเราก็รู้สึกผิด เดี๋ยวเขามาทำตามเรา เดี๋ยวมันจะเกิดผลกระทบ ที่เราไม่เคยบอกกับใครว่ามันมีผลแบบนี้ คิดแค่ว่ามันลดได้ แต่ไม่เคยบอกว่าผลมันเป็นยังไง ก็เลยอยากจะบอกทุกคนว่าสิ่งที่เราทำมันมีผลเสียจริง มันมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ เพราะเราทำเพื่อที่จะทำงานจริงๆ มันเป็นอะไรที่อันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเราก็โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรไป แต่คนอื่นถ้าเขาไม่รู้หลักแล้วมาทำตาม ก็เลยออกมาบอกว่ามันไม่เวิร์ค ซึ่งก็มีคอมเมนต์ที่เข้ามาขอบคุณที่ออกมาบอกว่ามันไม่ดี ก็แนะนำให้หาวิธีอื่นที่มันถูกต้องดีกว่า

ปีนี้แฟนๆ จะได้เห็นผลงานอะไรของเราบ้าง
             ก็จะมี 2 เรื่อง เป็นซีรีส์ ชื่อว่า “Voice” ที่รีเมคจากทางเกาหลีมาทำเป็นเวอร์ชั่นของไทย ทางช่องทรูโฟร์ยู และก็มีซีรีส์ “One Year 356 วัน บ้านฉันบ้านเธอ” ทาง LINE TV จะได้ชมกันในปลายปีนี้ครับ