"เมฆ" แจงแขนขาลีบเพราะสเตอรอยด์ ฮึดจัดวิ่งเพื่อ รพ.จุฬา
"เมฆ วินัย ไกรบุตร" นักแสดงเผยที่งาน20ปี ภ.นางนาก ซึ่งเป็นงานที่จัดโดยค่ายทีวีดิจิตอลได้จัดฉายเพื่อหารายได้ส่วนหนึ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลอาการป่วยโรคตุ่มน้ำพองของตนว่า
"สำหรับผมภาพยนตร์เรื่องนี้คือภาพยนตร์ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิต จากที่เคยเป็นแค่นักแสดงตัวสามตัวสี่ อยู่ดีๆ ผมได้กลายมาเป็นพระเอกร้อยล้าน ผมจึงไม่สามารถลืมตัวละคร หรือลืมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เลยครับ นี่คือผลงานมาสเตอร์พีซที่สุดในชีวิตของผมเลยครับ และระหว่างที่ภาพยนตร์เข้าฉาย ผมก็จะคอยแอบดูว่าฟีดแบคเป็นยังไง ก็อยากให้ทุกคนได้มาชมครับ"
อ่านข่าวต่อ :
เขาเผยอัพเดทอาการป่วยว่า "อาการดีขึ้นครับ แต่ว่ายังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เพราะผมยังต้องทานยาอยู่ตลอด และก็จะต้องค่อยๆ ลดยาตามไปด้วย เพราะถ้าหากกลับบ้านไปช่วงนี้อาการมันอาจจะดีดกลับมาได้ คือต้องตามอาการไปเรื่อยๆ ก่อนจนกว่าจะหายขาด"
วันนี้ขออนุญาตคุณหมอออกมาร่วมงาน ขอคุณหมอออกมา แต่คุณหมอเขาจะไม่รับผิดชอบนะครับ แต่ผมก็มา เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้คือชีวิตผม คือความตั้งใจของผม และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมทำจนเกินร้อย"
เขาเผยถึงกิจกรรมวิ่งของเขาว่า "เดือนมีนาคมนี้ ผมก็จะจัดงานวิ่งให้กับชาวรวมพลคนรักวิ่ง และก็จะมอบเงินส่วนหนึ่งให้กับโรงพยาบาลจุฬาสภาพกาชาดไทยที่ช่วยดูแลผม ในนามของเชื้อตุ่มน้ำพองที่ผมเป็นอยู่"
เขาย้ำเรื่องร่างกายของเขาอีกว่า "สุขภาพร่างกายของเราตอนนี้โดยรวมเป็นยแข็งแรงขึ้นครับ อย่างทุกวันนี้ก็เริ่มทำกายภาพบำบัดอยู่ตลอด และก็วิ่งอยู่ในห้องวันละ 3 กิโลเมตร ซึ่งทั้งหมดที่ทำก็เพื่อฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย เพราะว่าที่ผ่านมาร่างกายมันลีบไปหมด เพราะโดนสเตอรอยด์เยอะ"
ถ้าหากวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าร่างกายเราดีขึ้นมาก"ก็ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ครับ แต่คิดว่าอีกสักประมาณ 2-3 เดือน ทุกอย่างน่าจะเคลียร์" แนวทางการรักษาที่คุณหมอแนะนำคือ"กินยา พักผ่อน และต้องมีระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองมากที่สุด ส่วนสภาพจิตใจของผมตอนนี้ก็ดีมากๆ ผมคิดว่ายังไงระยะเวลา 2-3 เดือนหลังจากนี้ สภาพร่างกายของผมต้องกลับมาดีขึ้นอย่างแน่นอน"
คุณหมอบอกว่าต้องอยู่ รพ ไปอีกครับ ปล่อยผมไปไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่คนไข้ธรรมดา คือ...ทีมแพทย์เขาไม่อยากให้ผมต้องกลับมาป่วยด้วยโรคนี้อีก เขาอยากให้ผมหายขาดไปเลย และออกจากโรงพยาบาลได้ก็ต่อเมื่อหายขาด 100 เปอร์เซ็นต์"
เขากล่าวถึงแฟนคลับและครอบครัวว่า "ขอบคุณมากครับ จริงๆ ที่ผมอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะแฟนคลับ เพราะเพื่อนกลุ่มนักวิ่ง และพี่น้องชาวภาคใต้ ทุกคนช่วยกันบริจาคค่ารักษาพยาบาลมาให้กับผมเยอะมาก ผมมองว่าถึงแม้ว่าผมจะต้องโชคร้ายที่เป็นโรคนี้ แต่ผมก็ยังมีความโชคดีที่ทุกคนมอบความช่วยเหลือให้ ขอบคุณมากๆ ครับ ผมขอบคุณจริงๆ"
เรื่องค่าใช้จ่ายยังไม่กังวลเลยครับ เพราะมีคนที่เขาโทรมาแจ้งกับผมว่า ให้ผมนอนรักษาตัวไปเลย ไม่ต้องรีบออก และเดี๋ยวเขาจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายให้เอง หรือแม้กระทั่งบางคนก็มาจากไหนไม่รู้นำเงินมามอบให้ผมเลย ซึ่งผมเองก็เหวอๆ เหมือนเขาไม่อยากให้ผมต้องทำงานภายในระยะเวลา 3-4 เดือนนี้ เขาอยากให้ผมพักผ่อนจริงๆ เขาอยากให้ผมหายดี และหลังจากนั้นก็ค่อยออกไปทำงาน"
