“วู้ดดี้” ฟุ้งความรักแฮปปี้ลงตัวดี รับสุขภาพช่วงนี้มีปัญหาบ่อย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพิธีกรมากฝีมือ สำหรับหนุ่ม “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” อีกทั้งยังสมหวังกับเรื่องความรักกับแฟนหนุ่ม “โอ๊ต อัครพล” ที่ทั้งคู่นั้นต่างพากันเปิดธุรกิจการออกกำลังกายสำหรับคนรักสุขภาพ แต่ล่าสุดตนเองกลับต้องมาป่วยเองอาจจะเป็นเพราะต้องโหมงานหนักหรือเปล่า งานนี้มีโอกาสได้เจอเจ้าตัว เลยต้องขออัพเดทถึงเรื่องสุขภาพของตนในช่วงนี้สักหน่อย โดยเจ้าตัวเผยว่า
อ่านข่าวต่อ
คู่รัก "วู้ดดี้-โอ๊ต" รอกฎหมายรองรับ มีลูกทันที
สำหรับคลิปกินในไอจี คือเป็นคนที่กินอะไรแล้วไม่ค่อยมีสติ ที่ว่าเหลือ มันเหลือก็จะเก็บใส่ตู้เย็นแล้วค่อยไปเวฟ แต่เผอิญว่ามันเป็นซีนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก จนทีมงานผู้ช่วยอยากเก็บไว้เป็นภาพที่ทุกคนไม่ค่อยเห็นโอ๊ตจะตักเตือนและสั่งสอนวู้ดดี้ในการกิน เขาจะบอกว่าเป็ดมีโปรตีน กว่ามันจะมาวันนี้ มันผ่านอะไรเยอะมาก เราทำลายโลกในการใช้ปุ๋ย แต่กว่าจะมาถึงจานเรากระบวนการมันเยอะมาก จะต้องใช้พลังงานคาบอน เขาก็เทศๆ จนเรารู้สึกว่าโอเคเรากินให้หมดจานก็ได้ จึงเป็นที่มาของคลิป ซึ่งจริงๆแล้วเขาทำตลอด เวลาวู้ดดี้กินเหลือ เราก็ตั้งใจฟังเขา นึกถึงโลกขึ้นมา แล้วก็กินให้หมดจาน
เวลาเรากินเหลือเราใส่ตู้เย็นไว้ตลอด ผมไม่ทิ้งนะ สมัยก่อนคิดว่า ไม่เห็นต้องกินให้หมด เพราะถ้ากินหมดร่างฉันจะพัง ก็ทิ้งเลย แต่เดี๋ยวนี้ถ้ากินไม่หมดก็อย่าซื้อเยอะ ซื้อพอประมาณ เดี๋ยวนี่เวลาไปร้านอาหารจะไม่เหมือนสมัยก่อน คือสั่งมาเต็มโต๊ะ ทุกวันนี้กระเพราะเรารับได้แค่นี้พอ ปัญหาของโรคอ้วนคือกินเยอะ รู้สึกเสียดาย เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การกินไปเลย เมื่อก่อนจะซื้ออาหารหมดอายุ หมายถึงไปตามซุปเปอร์มาเก็ตถ้ามีฉลากหมดอายุเมื่อไหร่แปลว่าของเหล่านี้มีสารกันบูด
ตอนนี้จำแล้วหลังจากโดน “โอ๊ต” เทศไปเยอะ ฝังใจเลยครับ รู้ว่าไม่มีอะไรทำให้เราจุกๆกับการที่มีแฟนยืนเทศข้างๆ โดนแฟนเทศบ่อยมาก ส่วนมากจะเป็นเรื่องความรีบของผม สมมุติเวลาผมจะออกจากบ้านผมจะออกเร็วมาก แต่เขาจะรู้สึกว่าต้องมีพิธีการ ต้องค่อยเป็นค่อยไป จะไปไหนต้องเรียกกันด้วย ผมจะโดนเทศมากสุดตอนผมเดินเร็ว เราเป็นคนฟิตไงเวลามาห้าง ผมจะเดินเร็ว เขาก็จะยืนให้เราเดินกลับไป เขาบอกรีบเดินทำไม ข้างหน้ามีควายเหรอ ผมก็คิดว่าเขาเป็นส่วนสำคัญ เพราะถ้าไม่มีเขาชีวิตจะเร่งรีบมาก เขาคือเบรก ส่วนตัวเขาไม่ได้ดุ แค่มาเบรกเรา เขาจะพูดจายิ้มๆ แต่สมัยก่อนจะเยอะกว่านี้ แต่เราปรับปรุงตัว สมัยก่อนเถียงตลอด แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกทำอย่างนั้นมันก็เครียด ในเมื่อเรารีบมาตลอดชีวิต เขามาเป็นคู่ชีวิตเรา ก็ต้องหัดช้าลง เขาคือสติของเรา
ส่วนความรักดูลงตัว มันลงตัวกว่าสมัยก่อน พอมีชีวิตคู่ รู้สึกว่ามีชีวิตคู่มันจะดีเหรอ มันจะไม่เป็นตัวของตัวเองมั้ย ช่วงแรกมันจะรู้สึกว่าไม่เหมือนกันเลย แต่พอเรายอมรับในความต่างของกันและกันแล้ว เราก็จะเห็นว่าเขาก็มีดี เราก็มีดี เราไม่ต้องเปลี่ยนเป็นเขา เขาไม่ต้องเปลี่ยนเป็นเรา และเราต้องให้เกียรติความต่างกันและกัน ถ้าเราไม่ให้เกียรติความต่างปุ๊บพังเลย
สุขภาพเราเหมือนมีปัญหา ไม่อยากใช้คำว่าโรคเนอะ แต่มันเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมเป็นคนผิวแห้งมาก เพราะดื่มน้ำน้อยมาก เพราะเรารู้ตัวว่าทำไมคันง่ายและก็แห้ง มาค้นพบว่าเราดื่มน้ำน้อยมาก พอมานั่งจดมือถือว่าเราดื่มน้ำปรากฏว่าดื่มน้อยจริงๆ มาสังเกตุว่าดื่มตอนกินข้าว ออกกำลังกาย ถึงจะดื่ม หมอก็บอกไม่ได้นะ ทุกๆ10-15 นาทีต้องดื่มตลอด เติมทีเป็นร้อยลิตรครับ เราก็เลยต้องพกน้ำติดต่อเติมไว้ตลอด อาการตอนนี้ ผมเนี่ยเป็นคนผิวแห้งมาก ขาแห้งมาก มันแห้งจนขึ้นขุย เราพยายามใช้ครีมทุกรูปแบบ แต่สุดท้ายมันคือสิ่งที่เราพยายามยัดใส่ร่างกาย เช่นน้ำ