อัพเดทหัวใจ “ทับทิม มัลลิกา” ไขเคล็ดลับหน้าใส-หุ่นเป๊ะปัง
ไปร่วมทริปอิตาลีของคู่รักคู่หวานมาหมาดๆ สำหรับสาวหน้าใสไซส์มินิ “ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา” ที่แท็กทีมไปกับพี่สาว “ออม สุชาร์ มานะยิ่ง” และหวานใจของเธอ “แอมป์ พิธาน องค์โฆษิต” ก็ไม่รู้ว่าความหวานในทริปจะล้นทะลักขนาดไหน จึงขอคว้ามาอัพเดทความสวีทของคู่ “ออม-แอมป์” รวมถึงอัพเดทสถานะหัวใจของสาว “ทับทิม” ให้ได้ติดตามกัน และที่พลาดไม่ได้เลยคือเคล็ดลับดูแลผิวและหุ่นให้เป๊ะปังจนไม่อยากเชื่อว่าขึ้นเล่น 3 แล้วของสาวคนนี้
สำหรับเรื่องเซ็กซี่ในทริปอิตาลี เราก็รู้อยู่แล้วว่าเราหน้าอกเล็ก เราไม่ได้ขายเซ็กซี่ เรามองว่าเราเองเป็นคนโก๊ะๆ น่ารัก แต่อาจจะเป็นเพราะหุ่น จริต ที่ทำให้คนมองว่าเราเซ็กซี่ หุ่นที่เป๊ะขึ้นแล้วพอใส่เสื้อผ้าที่เห็นสรีระมันเลยดูเป๊ะ
ส่วนความหวานในทริปอีตาลี จริงๆ เป็นทริปที่ไปกันเยอะมาก เป็น 10 คนเลย มีพี่แอมป์, พี่ออม และครอบครัว-เพื่อนสนิทพี่ออมไปอีก ส่วน “พี่แอมป์-พี่ออม” เขาก็สวีทกันอยู่แล้วทุกวันไม่ว่าจะอยูไทยหรือต่างประเทศ แต่ว่าพออยู่ต่างประเทศเหมือนได้พักผ่อนเต็มที่ เพราะว่าพวกเขาตอนอยู่ไทย ทำงานหนักกันมาก อยู่ไทยแทบจะไม่ได้มีเวลาคุยกันเลยก็ว่าได้ “พี่ออม” ถ่ายละครทุกวันเช้ายันดึก ส่วน “พี่แอมป์” เขาก็มีงานของเขา เราก็ชอบนัดหาเวลา กลางปีอะไรแบบนี้เพื่อจะได้พักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องคุยเรื่องงานเลย เป็นตัวเอง อยากเล่นอะไรก็เล่นเต็มที่ และเขาก็ได้สวีทกันนิดหนึ่ง เราก็ไม่ตาร้อนอะไร เชียร์เขา อยากให้แต่งงานกันไวๆ เราเชียร์มากเลย หยอดๆ ให้เขาแต่งกันเร็วๆ เพราะว่าเขาก็อายุไม่น้อยกันแล้ว
ส่วน “ทับทิม” เองก็ยังก่อน จริงๆ เราใจเปิดอยู่แล้ว เราไม่ได้กลัวเรื่องความรักเลย เรามองว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม เหมือนได้รักใครก็มีแต่เรื่องดีๆ ไม่ได้กลัว แต่เรื่องแต่งงานในระยะ 2-4 ปีนี้ก็ไม่แน่นอน มันก็มีบทเรียนเพราะว่าครั้งที่แล้วเราแต่งเด็กมาก 24 ปี ก็ค่อนข้างเร็ว ก็เลยคิดว่าบางทีถ้าเรารวบรัดหรือเร่งรัดมากไปมันก็อาจจะไม่ชัวร์ ก็เลยอยากดูให้แน่นอนก่อน
ส่วนตอนนี้คนเข้ามาก็มีเรื่อยๆ แต่เราคุยเป็นคนๆ ไป ตอนนี้ดูอยู่คนหนึ่ง ถามว่าใช่หรือไม่ใช่ต้องรอดูดีกว่า ไม่แน่ใจที่จะตอบอะไรเรื่องอนาคต โดยกับคนนี้ก็เปิดใจคุยเกือบ 2 ปีแล้ว แต่เราอายุห่างกัน เราอายุมากกว่าค่อนข้างเยอะก็เลยอาจจะเป็นสิ่งที่บอกว่าไม่แน่ใจ แต่ที่ประทับใจก็คือเขาไม่ได้ทำตัวเด็ก ดูแลเราได้ทุกเรื่อง แทบไม่ต้องกังวลเขาเรื่องอะไรเลย เขาคอยดูแลเรา คนรอบข้างเรา เพื่อน ครอบครัวเรา เขามีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และที่สำคัญคือไม่เจ้าชู้ ส่วนโอกาสเปิดตัวเราก็เคยถามเขาเพราะว่าบางทีไปเที่ยวไปอะไรก็มีฟีลอยากลง เขาก็จะแบบอย่าลง ไม่ต้องลง เขารู้ว่าถ้าลงไม่ได้มีผลดีอะไรต่อทั้งคู่ เขาไม่ได้เป็นคนในวงการ เขาไม่ต้องการกระแสข่าวอะไรแบบนี้ ก็เลยอยากอยู่เงียบๆ เขาก็กลัวผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะด้วย (ขำ) เราก็ฟังเหตุผลแล้วโอเคเลย ที่บ้านเราเองก็ไม่ได้ยึดติดกับการแต่งงานหรือการมีหลานอะไรใดๆ ทั้งนั้น คุณแม่ชอบให้ใช้ชีวิตเรียบง่าย
ด้านเคล็ดลับความเป๊ะทั้งหน้าและหุ่นของสาว “ทับทิม” ที่หลายๆ คนสนใจนั้น เธอเผยว่า จริงๆ แล้วที่บ้าน “ทับทิม” ทำสกินแคร์ด้วย เลยเป็นผลพลอยได้ เราบำรุงผิวแบบบ่มจัดเต็มทุกคืน อย่างตอนนอนเราบ่มครีม เหมือนกับเอาครีมบำรุงหลายๆ ตัวมามิกซ์กัน แล้วพอกหน้าหนาๆ เลย พอตื่นขึ้นมาก็เหมือนให้ความชุ่มชื่นและคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวทุกวัน พอที่บ้านผลิตเราก็ใช้กระหน่ำทั้งหน้าทั้งตัวเลย เราทำมา 15 ปีแล้ว ตอนแรกทำใช้เอง เพราะว่าบ้านเรามีลูกสาว 4 คน เขาสนใจเรื่องความสวยความงามให้ลูกสาวใช้จนมีคนมาเริ่มถาม ไหนๆ ก็ทำก็เลยขายด้วยเลย หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก แต่ของเราแม่อยากดูแลแบบเคสบายเคส ไม่อยากขายเยอะๆ กำลังผลิต และการดูแลสูตรคุณแม่ก็อยากทำเองหมดเลย เป็นกลุ่มเฉพาะ และบ้านเราเป็นแล็บเลย ทำเองหมดเลย ไม่ได้จ้างผลิต เราลองผิดลองถูกแล้วเอาตัวที่ดีที่สุดออกขาย
สำหรับการดูแลผิว “ทับทิม” เวียนใช้จากสภาพหน้า ช่วงผิวเรา สภาพแวดล้อมที่เราเจอ หลักการดูแลผิวของ “ทับทิม” เหมือนกับการกินอาหารค่ะ ไม่ใช่ใช้เซ็ตนี้แล้วแบบใช้ไปตลอด ร่างกายมันจะเบื่อ เวลามันซึมซับไปนานๆ มันก็จะทำได้เท่านั้น แต่ถ้าเราเปลี่ยนบ้าง มันจะให้สารสกัดใหม่ๆ เหมือนได้รีเฟรชใหม่ตลอดเวลา
นอกเหนือจากการทาครีมอะไรแล้ว “ทับทิม” ต้องบอกเลยว่า “ทับทิม” กล้าพูด 100% ตรงนี้เลยว่าไม่เคยเข้าคลินิก ไม่ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือทรีทเม้นท์อะไรเลย จริงๆ เราเชื่อในหลักธรรมชาติ เหมือนการบำรุงให้ถูกวิธีและให้เป็นไปตามธรรมชาติมันยั่งยืนกว่า นอกจากนั้นก็มีเรื่องการกินและการออกกำลังกายควบคู่กันไป “ทับทิม” จะดื่มน้ำเยอะมากๆ เมื่อก่อนเราไม่กินน้ำเลย กินน้ำน้อย ขวดหนึ่งยังไม่หมด แต่พอเราปรับการกินใหม่ผิวมันก็ดีขึ้น
สำหรับการดูแลรูปร่าง คนอาจจะมองว่าเราออกกำลังกายเยอะ แต่จริงๆ เราเป็นคนขี้เกียจ ทั้งเรื่องการกินและการออกกำลังกาย แต่ก็จะหาเวลาออกกำลังกายตามที่สะดวก ไม่ได้ล็อกให้ตายตัว อย่างตื่นมาวันไหนว่างก็ไปออกสักหน่อย ให้เหงื่อออก ไม่ได้โหมออกกำลัง เพราะเคยโหมแล้วไม่มีผลดีต่อร่างหาย เราก็ลองมาแล้ว ตอนนี้ถือว่าลงตัวที่สุดในอายุ 30 การออกกำลังของเราเราก็เวียนเหมือนการกินและดูแลผิว เวียนออกไปวันเว้นวัน อย่างวันนี้เราคาดิโอ แต่ถ้าไม่ได้เลยก็อาทิตย์ละครั้ง-2ครั้ง หรือบางครั้งเราเดินทางก็ไม่ได้ออกกำลัง เราก็สควอชไปแปรงฟันไป หาอะไรที่ให้ร่างกายได้ พอเหงื่อออกบ้างมันก็ได้ดีท็อกซ์ ร่างกายเราเป็นจุดรวมของเสียต่างๆ ที่เราซึมซับเข้าไป เราก็หาวิธีให้ของเสียออก ดื่มน้ำให้ปัสสาวะออก, ออกกำลังกายให้เหงื่อออก มันก็ช่วยให้ผิวใสและหุ่นดี ทำอะไรก็ได้ให้เหงื่อออกเท่านั้น มันอยู่ที่ mind set เราก็ต้องทำแบบแฮปปี้กับการดูแลตัวเอง มันจะได้ดูแลไปยาวๆ ทำได้จนแก่ ตอนนี้น้ำหนักขึ้น ก่อนหน้านี้ช่วงแต่งงาน VRZO ผอมมาก หนัก 43 กิโลกรัม ไม่เกิน แต่ตอนนี้พอออกกำลังเราหนัก 46 เรารู้สึกว่าขึ้นเยอะแต่เฟิร์ม เพราะเป็นกล้ามเนื้อ
