ครอบครัว "จุ๋ม นุสรา" เรียกค่าเสียหาย บ. คิง เพาเวอร์ 300 ล้าน กรณีเฮลิคอปเตอร์ตก

ครอบครัว "จุ๋ม นุสรา" เรียกค่าเสียหาย บ. คิง เพาเวอร์ 300 ล้าน กรณีเฮลิคอปเตอร์ตก

      ครอบครัว "นางสาวนุสรา" เลขาฯ "เสี่ยวิชัย" อดีตประธานบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้เสียชีวิตเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ยื่นฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ 300 ล้านบาท หลังพยายามเรียกร้องค่าเสียหาย แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับการเยียวยา จนเกือบหมดอายุความทางแพ่ง

      วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ทางครอบครัว นางสาวนุสรา สุขหน้าไม้ เสียชีวิต จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก พร้อม นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ และอดีตประธานบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2560 เดินทางมาที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 300 ล้านบาท หลังไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาจาก บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด

      “นายวีรโรจน์ สุขหน้าไม้” เปิดเผยว่า ตั้งแต่ “นางสาวนุสรา” เสียชีวิต ทางบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ช่วยเหลือครอบครัวนางสาวนุสราเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ วันละ 15,000 บาท รวม 5 วัน 75,000 บาท และใส่ซองถวายพระ 5 คืนโดยไม่ทราบจำนวน เท่านั้น นอกเหนือจากนั้นไม่มีการชดใช้เยียวยาด้านอื่นๆ เลย ตลอดระยะเวลา 5-6 เดือน ครอบครัวพยายามเจรจา ยื่นข้อเสนอมาโดยตลอด แต่ทางบริษัทฯ ก็เงียบเฉย รวมถึงไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการทำประกันภัยในส่วนของการโดยสารเฮลิคอปเตอร์แบบส่วนตัวแต่อย่างใด

      ด้าน “นายพินิจ ลักษณวิศิษฎ์” ทนายความ ระบุว่า ค่าเสียหายจำนวน 300 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ และค่าเสียหายต่อจิตใจของครอบครัว เนื่องจากบิดา-มารดาของผู้เสียชีวิตมีความเป็นอยู่ยากลำบาก ต้องเช่าที่นาในจ.ปทุมธานีเพื่อหาเลี้ยงชีพ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับทางบ้าน เมื่อเสียชีวิตก็ทำให้ขาดเงินในส่วนนี้ไป ประกอบกับมีหลานสาวที่ต้องเลี้ยงดู และทุกวันนี้บิดา-มารดายังทำใจกับการจากไปของผู้เสียชีวิตไม่ได้

       ก่อนหน้านี้ครอบครัวได้ยื่นขอรับเงินเยียวยาไปยังบริษัท คิง เพาเวอร์  ดิวตี้ฟรี จำกัด แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า มีเพียงการส่งจดหมายฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งมีใจความระบุให้รับเงินเยียวยาจากบริษัทเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 25,000 เหรียญ (750,000 บาท) และอีกฉบับที่เสนอเงินเยียวยา 50,000 เหรียญ (1,500,000 บาท) พร้อมขอให้สละสิทธิ์การเรียกร้องขอชดใช้เงินเยียวยาอื่นๆ และให้ครอบครัวติดต่อกับผู้รับผิดชอบที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรมกับครอบครัว

       รวมถึงเหตุผลที่อ้างว่าในวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตไปเที่ยว ไม่ได้ไปทำงาน ก็เห็นว่าไม่เป็นความจริง เพราะผู้เสียชีวิตไปกับ “นายวิชัย” ในฐานะเลขาส่วนตัว และเฮลิคอปเตอร์ที่โดยสารก็ติดสัญลักษณ์ คิง เพาเวอร์ ทำให้เข้าใจว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ของบริษัทฯ ประกอบกับเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งกำลังจะหมดอายุความใน 1 ปี จึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลแพ่ง โดยฟ้องดำเนินคดีกับ “นางเอมอร ศรีวัฒนประภา” ซึ่งเป็นผู้ดูแลกองมรดก และ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ทั้งนี้ศาลได้รับคำร้องไว้ และนัดให้คู่กรณีมาฟังคำสั่งในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 น.