เปิดใจ “อ้น สราวุธ” หลังตั้งไพรเวท IG ไม่ซีเรียสขาดโอกาสโปรโมทงาน
ทำเอาแฟนคลับถึงกับออกอาการงงหลังนักแสดงหนุ่ม “อ้น สราวุธ มาตรทอง” ได้มีการตั้ง IG เป็นส่วนบุคคล ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่มอ้นเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
ตั้งแต่ที่ตั้งไพรเวทไอจีก็เรียบร้อยสงบเสเงี่ยมดีชีวิต ก็จริงๆ มาไพรเวทสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งแฟนๆ ที่เขาติดตามอยู่แล้วก็เหมือนเดิมทุกอย่าง สำหรับคนไหนที่จะเข้ามา เราก็จะคัดกรองให้มากขึ้น เพราะว่าใครที่เข้ามาใหม่ ผมก็เข้าไปดูเป็นระยะๆ ถ้ามาแบบเพิ่งเห็นว่ามี 1 โฟสต์ 2 โฟสต์ ใครก็ไม่รู้ เราก็อาจจะไม่ได้รับ แต่ถ้าเป็นไพรเวท เราก็โอเคคือปล่อย หรือถ้าเขาดูใช้ชีวิตทั่วๆ ไป มีความสุข หรือว่าเขามาเมนต์ดีๆ คุยๆ กันแฮปปี้ ก็ให้เขาฟอลโล่มาหาผม
สำหรับตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะปิดยาว คิดแค่ว่าตอนนี้ก็สงบดี แล้วก็แบบว่าแฟนๆ ที่เราคุยอยู่เขาก็น่ารักดีอยู่แล้ว ก็เลยแบบไม่ได้คิดเลยว่าปริมาณขอบเขตคนฟอลโล่ต้องเท่าไหร่
สาเหตุที่ตั้งเป็นไพรเวทก็เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนี้อ้นก็ไม่ได้คิดอะไร อ้นปกติ ตั้งแต่เราไปเจอเรื่องนั้นมา ก็เข้าไปคุยกับพี่ๆ หลายคน เลยรู้สึกว่า ต้องมาทบทวนอะไรหลายๆ อย่างในสังคม ว่ามีคนที่ไม่รู้จักกัน แต่ก็พร้อมที่จะพูดไม่ดีใส่กัน ผมก็เลยตัดสินใจคัดกรองดีกว่า เพราะว่าจริงแล้ว IG ก็เปรียบเสมือนหน้าบ้านเรา ถ้าเกิดหน้าบ้านเราเปิดประตูรั้วทิ้งไว้ ใครเข้ามาถึงในบ้านเรา เราก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราปิดประตูรั้ว และคอยเปิดรับคนที่เราอนุญาตดีกว่า ซึ่งก็สงบดี
ส่วนตัวผมไม่ได้เล่น IG ด้วยเหตุผลที่จะโปรโมทงาน แต่ผมเล่น IG เพื่อสื่อสารกับแฟนๆ ของผม สื่อสารในเรื่องของมุมมองชีวิต การเดิน การแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ต่อกัน หรือความสดชื่นต่างๆ ที่ผมมี เช่น งาน แต่ถ้าผมมานั่งคิดว่ามันเสียโอกาสยังไงกับงาน ผมคงเดือดร้อนกว่านี้ ซึ่งชีวิตผมก็ไม่ได้เดือนร้อน เลยไม่เป็นไร
อ้นคิดว่า ถ้าเป็นแฟนคลับเรา เขาคงเข้าใจเราอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนใหม่ๆ ที่เพิ่งจะติดตามเรา หรือเพิ่งอาจจะได้สังเกตเรา หรือว่าเพิ่งจะเห็นเรา ผมก็จะเข้าไปดูก่อนว่าถ้าเขาใช้ชีวิตแฮปปี้ดี เขามีความสุขกับชีวิต และเขาก็ไม่ใช่อวตาร ผมก็จะเปิดรับเป็นระยะๆ
คือ ผมเป็นคนรักบ้าน ถ้าผมออกไปข้างนอกก็จะเข้าใจโลกอยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่ผมอยู่ในบ้าน เช่นเดียวกับ IG ของผม ผมรู้สึกว่า มันเป็นพื้นที่บ้าน ถ้าเกิดคนที่เป็นแฟนๆ ผมจะเข้าใจว่า ผมดูแล IG ของผมสะอาด และไม่มีเรื่องที่วุ่นวาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นพลังบวกมากกว่า ดังนั้นก็อยากให้แฟนๆ ของเราที่ได้รับพลังงานบวกไป มีความสุข และก็อาจจะได้รับรู้งานของเราว่าจะทำอะไรบ้าง ในมุมมองของมุมธรุกิจ ก็อาจจะขาดโอกาสในการโปรโมท แต่ถ้าคนที่ไม่ได้รักเราอยู่แล้ว เขาก็ไม่สนใจงานของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เอาให้คนที่เขารักเราและดูแลเราดีกว่า
ถ้าพูดถึงบลูลี่ ผมไม่ได้เจออะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่เชิง สุดท้ายแล้วเรื่องต่างๆ ที่เราเจอ มันก็มีหลายๆ ด้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมา สุดท้ายคนที่รับรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นส่วนผสมที่เราได้รับพระราชกรุณาจากในหลวงและพระราชินีเป็นดอกไม้ ส่งมอบมาให้ที่บ้านเรา ซึ่งแฟนๆ ได้รับรู้ สำหรับเราคือจบ แต่ใครที่ยังไม่รู้แล้วกล่าวหาว่าเรานั้นคือจบของเขา ตอนนี้ก็อยู่แบบนี้ไปก่อน เปิดรับเป็นระยะ สำหรับใครที่ดูแล้วน่ารักดี ดูแล้วน่าจะเป็นเอ็นเนอร์จี้บวกๆ