​​​​​​​“เอมมี่” เปิดใจถูกศาลยกฟ้องคดีโกงแชร์ ลั่น! คุ้มค่าหลังเคยคิดฆ่าตัวตาย

“เอมมี่” เปิดใจถูกศาลยกฟ้องคดีโกงแชร์ ลั่น! คุ้มค่าหลังเคยคิดฆ่าตัวตาย

                หลังจากสาวเซ็กซี่ “เอมมี่ แม็กซิม” ถูกศาลยกฟ้องคดีฉ้อโกง หลังจากโจทก์และจำเลยอย่างเธอได้ประโยชน์ร่วมกัน งานนี้เจ้าตัวอยากจะมาทวงชื่อเสียงที่ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดนตราหน้าเป็นคนขี้โกง ล่าสุดวันนี้ (20 ธันวาคม 2562) ณ ศาลนนทบุรี เธอได้มาให้การปฏิเสธคดีฉ้อโกงแชร์ในชั้นศาล พร้อมเปิดใจต่อสื่อมวลชนว่า

อ่านข่าวต่อ

“เอมมี่ แม็กซิม” แย้มเคลียร์คดีแชร์จบปีหน้า ลั่นไม่ขอพูดถึง “ธีร์” อีก

                สำหรับคดีโกงแชร์ 28 ล้านบาทของเธอนั้น เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โดย “เอมมี่” บอกว่า เธอโดนลูกแชร์เชิดเงินหนีไป เธอจึงต้องแบกภาระชดใช้เงินจำนวนมากให้แก่ลูกแชร์รายอื่นแทน แต่ด้วยความไม่เข้าใจทำให้ลูกแชร์คิดว่าเธอโกง จึงเป็นที่มาของการฟ้องร้อง แยกเป็นการฟ้องที่ศาลอาญามีนบุรี จำนวน 1 คดี โดยมีโจทก์ร่วมฟ้องจำนวน 10 คน มูลค่า 5 ล้านบาท และ การฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี อีกประมาณ 8 คดี ซึ่งมีถอนฟ้องไปแล้ว 1 คดี ในขณะนี้ "เอมมี่ แม็กซิม" ก็มีการทยอยใช้หนี้คืนลูกแชร์ไปบ้างแล้ว โดยจำนวนเงินที่แน่ชัดนั้น เจ้าตัวยังไม่เปิดเผยให้ทราบ

                โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา ทนายความของเอมมี่ แม็กซิม กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค. 62) ศาลอาญามีนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีฉ้อโกงประชาชนให้แก่ "เอมมี่ แม็กซิม" แล้ว มูลค่าคดีประมาณ 5 ล้านบาท ด้วยเหตุผลว่า “เอมมี่” ไม่มีความผิดฐานหลอกลวง เพราะเป็นการเล่นแชร์จริง แต่มีการบริหารเงินผิดพลาด และมีการได้รับเงินผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย (โดยในคดีนี้เป็นคดีที่ลูกแชร์ 10 คนรวมตัวกันเป็นโจกท์ยื่นฟ้อง) จากนี้ยังคงต้องสู้คดีกันต่อที่ศาลจังหวัดนนทบุรีอีก 7 คดี ในปี 63 (มี 8 แต่โจทก์รายหนึ่งถอนฟ้องไป 1 คดี เพราะเข้าใจและเห็นใจ)

                ด้าน "เอมมี่ แม็กซิม" บอกว่า การยกฟ้องในครั้งนี้ตนไม่ได้คิดว่าตนไม่ผิด เพราะตนบริหารเงินผิดพลาด เนื่องจากมีคนโกงเงินของตนไป ตนยังคงยืนยันว่าจะทยอยชดใช้เงินให้แก่ลูกแชร์จนครบ ซึ่งตอนที่ศาลอาญามีนบุรีนั้นอ่านคำพิพากษาว่าตนไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง ตนน้ำตาไหล และคิดว่านี่คือของขวัญปีใหม่ของตน

                ณ วันนี้ตนเหมือนยกภูเขาออกจากอก ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตนถูกตราหน้าและเสื่อมเสียชื่อเสียงไปเยอะมาก โดนเรียกว่า "ไอ้ขี้โกง" เดินออกจากศาลก็ถูกตะโกนเรียกว่า "อีหน้าด้าน" จากที่ตนเคยท้อกินยาฆ่าตัวตาย ตอนนี้ตนรู้สึกว่าทำดีต้องได้ดี จากนี้ตนก็ยังจะพยายามต่อไป ยินดีที่จะรับผิดชอบลูกแชร์ที่ยังไม่ได้รับเงิน โดยตอนนี้ตนไม่ต้องประกันตัวอะไรแล้ว ตนก็สามารถทำงานหาเงินได้อย่างเต็มที่ โดยเมื่อได้เงินมา ตนจะหารเงินตามจำนวนลูกแชร์เพื่อให้ทุกๆ คนได้รับเงินในจำนวนเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นความประสงค์ของลูกแชร์ด้วย หลายคนบอกให้ตนบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้ตนยังใส่กำไลข้อเท้าอีเอ็มของศาลนนทบุรีอยู่ หากจะถอดออกต้องหาเงินมาปลด 1 ล้าน 5 แสนบาท

                สำหรับวันนี้ที่ตนมาศาลจังหวัดนนทบุรีตามที่ศาลนัดมา เพื่อให้การในคดีฉ้อโกงแชร์เช่นกัน โดยตนได้ให้การปฏิเสธ ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ที่ตนเคยประกาศไว้ว่าจะฟ้องกลับคนที่โกงเงินวงแชร์ไปนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมเอกสาร ตนให้โอกาสคนที่นำเงินไปมาเป็นปีแล้ว เขาได้เห็นการตายทั้งเป็นของตนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นใจที่ตนต้องแบกภาระใช้หนี้ให้กับลูกแชร์คนอื่น บางคนซื้อรถใหม่ บางคนซื้อบ้าน ตนอาจจะโง่และใจดีเกินไป จากนี้เขาจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่ตนเป็น พร้อมทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ตนหมดตัว บ้าน รถยนต์ เงิน เหลือแต่ตัวและหัวใจ ลูกแชร์อดใจรออีกสักพัก ตนสู้มาถึงขนาดนี้แล้ว