"สภาพสังคมกำหนดให้เธอต้องเป็นแบบนี้" l Better Days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ l รีวิวติดสปอยล์

"สภาพสังคมกำหนดให้เธอต้องเป็นแบบนี้" l Better Days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ l รีวิวติดสปอยล์

                  “เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เราจะยังได้เจอกันอีกใช่ไหม”

                  เรื่องราวของเด็กนักเรียนมัธยมในประเทศจีน ที่โตมาในสังคมที่โดน Bully ทั้งในเรื่องของครอบครัวและสังคมในโรงเรียน สังคมภายนอก ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำรายได้เปิดตัวอันดับ 1 ในจีน และกวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 6,700 ล้านบาท Better Days ที่สร้างจากนิยายชื่อดัง เรื่อง In His Youth, In Her beauty ของ จูหยูสี่

อ่านข่าวต่อ : เส้นตื้นห้ามดู! “Secret Zoo เฟค Zoo สู้โว้ย!” รีวิวติดสปอยล์

                  เรื่องย่อ เปิดเรื่องมาด้วยการเล่าเรื่องราวของ “เฉินเนี่ยน” ในปี 2015 พร้อมกับกำลังสอนนักเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ในประโยคที่พูดถึงเรื่อง “อดีตและปัจจุบัน” หลังจากนั้นตัดมาที่เรื่องนักเรียนจีนเกรด 12 ที่กำลังจะเตรียมสอบ “เกาเข่า” เพื่อยื่นคะแนนเข้าเรียนต่อมหา’ลัย เเต่ด้วยสังคมแห่งการกดขี่ข่มเหงในโรงเรียน เเละไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหลือได้ในเวลานั้น จึงทำให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมอันโหดร้ายนั้น จำเป็นต้องปิดชีวิตของตัวเองลง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการทนไม่ไหวกับสิ่งที่เธอได้เจอในเวลานั้น คำพูดสุดท้ายของเธอที่พูดกับ “เฉินเนี่ยน” ตัวละครหลักในเรื่อง คือ “ฉันทนไม่ไหวเเล้ว”

                  หลังจากเหตุการณ์ที่เพื่อนของเธอกระโดดตึกลงมานั้น “เฉินเนี่ยน” เป็นคนเดียวในกลุ่มนักเรียนที่เข้าไปหาร่างของนักเรียนที่กระโดดลงมา แล้วเอาเสื้อคลุมคลุมร่างนั้นไว้ จึงทำให้บรรดาเพื่อนๆ ต่างจับจ้องไปที่ “เฉินเนี่ยน” หลังจากนั้นตัวเธอเองก็กลายเป็นคนที่โดนกลั่นแกล้ง ไม่ว่าจะเป็น เอาน้ำแดงสีคล้ายเลือดมาราดตรงเก้าอี้ หลังจากนั้นก็โดนตามไปที่บ้าน และถูกกลุ่มเพื่อนผู้หญิงรุมทำร้าย

                  “เฉินเนี่ยน” ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างทางที่ “เฉินเนี่ยน” กำลังกลับบ้าน เธอได้เห็นคนโดนทำร้าย ด้วยความหวังดี “เฉินเนี่ยน” โทรเเจ้ง 911 เเต่ตอนนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังรุมทำร้ายได้เข้ามาทำร้ายเธอ และบังคับให้เธอจูบกับ “เสียวเป่ย” (ที่รับบทโดย อี้หยางเซียนสี่) เพื่อแลกกับการปล่อยตัวไป “เฉินเนี่ยน” ยอมที่จะจบเพื่อที่ว่าจะให้เรื่องทุกอย่างมันจบ และหลังจากนั้น “เสียวเป่ย” ก็ได้ไปหา “เฉินเนี่ยน” เพื่อที่จะคืนเงินที่โดนกลุ่มวัยรุ่นวันก่อนขโมยไป พร้อมกับซ่อมโทรศัพท์ให้

                  หลังจากนั้น “เฉินเนี่ยน” ยังคงโดนรังแกอยู่จากสังคมรอบข้างในเรื่องของครอบครัว ตามไปหาเรื่องถึงที่บ้าน จนเธอต้องวิ่งหนีไปหลบอยู่ในถังขยะ (ประเด็นเรื่องจะพูดใน * ท้ายเรื่อง) จึงทำให้ “เฉินเนี่ยน” ต้องไปขอให้ “เสียวเป่ย” คุ้มครองเธอจากพวกที่เข้ามาทำร้าย หลังจากนั้น “เสียวเป่ย” ก็ทำหน้าที่ดูแล “เฉินเนี่ยน” อยู่ไม่ห่าง

                  จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เกี่ยวกับความรักก็เกิดขึ้น เพราะ “เฉินเนี่ยน” ไม่อยากกลับไปที่บ้านของตัวเอง และย้ายไปอยู่บ้าน “เสียวเป่ย” ชั่วคราวเพื่อที่จะได้มีสมาธิในการอ่านหนังสือเพื่อสอบ “เกาเข่า” เเต่แล้วเรื่องราวที่เลวร้ายกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ “เสียวเป่ย” โดนตำรวจคุมตัวไปโรงพัก และขาดการติดต่อกับ “เฉินเนี่ยน” เเละวันนั้นเป็นครั้งแรกในรอบหลาย สัปดาห์ที่ “เฉินเนี่ยน” ต้องเดินกลับบ้านเอง พร้อมกับเพื่อนอีกคนที่ออกมาจากแก๊งที่เป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ Bully “เฉินเนี่ยน” อาสาเดินไปส่งเพื่อนคนนั้น และระหว่างทางเธอก็โดนทำร้ายด้วยการตบตี โดนตัดผม โดนกระชากเสื้อผ้า แล้วกลุ่มคนเหล่านั้นก็ถ่ายวิดีโอเอาไว้ “เฉินเนี่ยน” กลับบ้าน ไปด้วยความสะบักสะบอม เสื้อขาดเป็นชิ้นๆ เอกสารเตรียมสอบต่างๆ ก็โดนฉีกออก หลังจากนั้น “เสียวเป่ย” กลับมาที่บ้าน แล้วพบกับภาพที่ทำให้ “เสียวเป่ย” ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา เด็กหญิงผมสั้น เหมือนกับผู้ชาย สวมเสื้อผ้าขาดๆ กำลังนั่งต่อเศษกระดาษที่ถูกฉีกขาด ด้วยความโมโห “เสียวเป่ย” พยายามที่ไปแก้เเค้นคืน เเต่ “เฉินเนี่ยน” ห้ามเอาไว้

                  “เฉินเนี่ยน” ตัดสินใจตัดผมทั้งหมดออก และ “เสียวเป่ย” เมื่อเห็นความเจ็ดปวดนั้นจึงตัดสินใจตัดผมทรงเดียวกัน ในระหว่างนั้น เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งช่วงวันสอบ “เกาเข่า” ตำรวจได้เข้าไปหา “เฉินเนี่ยน” เเละบอกว่าคนที่เคยทำร้ายเธอตายเเล้ว ตำรวจพบศพ ถูกฝังอยู่ใต้ดิน (เรื่องราวช่วงนี้จะค่อนข้างตัดสลับไปมา แต่จะเล่าคร่าวๆ ว่า) ก่อนหน้านั้น ผู้หญิงคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการกลั่นแกล้งไปหา “เฉินเนี่ยน” เเล้วขอโทษ พร้อมกับขอให้ “เฉินเนี่ยน” ยกโทษให้ จะให้ทำยังไงก็ยอม ในตอนแรก “เฉินเนี่ยน” บอกไปเพียงว่า ไม่อยากเห็นหน้าเธออีก เหมือนเหตุการณ์ทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี เเต่ด้วยดนตรีที่ส่งให้เหตุการณ์โดยรวมมันกดดันขึ้นเรื่อยๆ

                  ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินขึ้นมา ผู้หญิงคนนั้นก็ได้พยายามพูดคุยกับ “เฉินเนี่ยน” อยู่ตลอดเวลา จนมีประโยคหลุดออกมา 2-3 ประโยคที่ว่า “เธอจะเรียนต่อที่ไหน ฉันอยากไปต่อที่ปักกิ่ง” ซึ่งเป็นที่ที่ “เฉินเนี่ยน” อยากไปเรียนต่อ (ในใจของ “เฉินเนี่ยน” คงคิดว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นไปต่อที่ปักกิ่งจริงๆ คงต้องเจอกันอีก) นอกจากนั้นก็ยังพูดเรื่องแม่ เรื่องเงิน ไปมา จังหวะนั้นเอง “เฉินเนี่ยน” ได้เผลอผลักผู้หญิงคนนั้นตกบันได ตาย! แต่เหตุการณ์ในเรื่องไม่ได้ดำเนินไปด้านเดียว ในทางคู่ขนานกัน “เสียวเป่ย” เองก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เหมือนกัน “เสียวเป่ย” โดนข้อหาข่มขืนเพราะต้องการช่วย “เฉินเนี่ยน” แต่ก่อนที่ “เสียวเป่ย” ได้ลาก “เฉินเนี่ยน” ไปที่รกร้างที่หนึ่งเพื่อลากตำรวจมาแล้วให้ตำรวจจับ ทุกอย่างที่ “เสียวเป่ย” ทำนั้นเพื่อ “เฉินเนี่ยน”  ก่อนที่จะโดนจับ “เสียวเป่ย” ถาม “เฉินเนี่ยน” ว่า “เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เราจะยังได้เจอกันอีกใช่ไหม” และไม่ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะเป็นยังไงขอให้เชื่อใจฉัน ก่อนที่ตำรวจจะตามเข้ามา “เสียวเป่ย” ก็ทำเป็นข่มขืน “เฉินเนี่ยน” ทั้งคู่โดนตำรวจจับไปโรงพัก

                  ช่วงที่กำลังสอบสวน ทุกอย่างดูกดดันมาก “เสียวเป่ย” สารภาพรับผิดว่าเป็นคนทำเอง แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ถึงแม้ตำรวจจะมีเบาะแสแน่นขนาดไหน แต่หลักฐานก็ไม่มากพอ ทั้งคู่ปฏิเสธกับตำรวจว่าไม่รู้จักกัน ทำยังไงก็ไม่ยอมบอก จนทำให้ตำรวจนายหนึ่งที่เคยดูคดีของ “เฉินเนี่ยน” เกิดโมโห ลากทั้งคู่มาห้องสอบสวนเดียวกัน แล้วถามอีกครั้งว่ารู้จักกันไหม “เฉินเนี่ยน” ยังคงคำตอบเดิม พร้อมกับตบหน้า “เสียวเป่ย” แล้วโวยวายในห้องสอบสวน

                  “เฉินเนี่ยน” กลับไปสอบ “เกาเข่า” ส่วน “เสียวเป่ย” ถูกคุมตัวไปฝากขัง เหตุการณ์ตัดมาที่ประกาศผลสอบ “เกาเข่า” เพื่อเข้ามหา’ลัย “เฉินเนี่ยน” ได้ตามที่คิดไว้ และเธอเตรียมตัวจะเรียนต่อที่ปักกิ่ง ระหว่างนั้นนายตำรวจคนเดิมที่เคยทำคดีเกิดความสงสัยในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเขามั่นใจว่ายังไงสองคนนี้ก็รู้จักกัน ได้มาหาที่บ้าน “เฉินเนี่ยน” เเล้วพูดคุยกันอยู่สักพัก แล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันมีข่าวดีมาบอก เสียวเป่ย จะถูกประหารชีวิต” เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงสะสมกับคดีเก่าๆ ศาลจึงตัดสินเร็ว ระหว่างนั้น “เฉินเนี่ยน” พูดแทรกขึ้นมาว่า “เขายังเยาวชนไม่ใช่เหรอ” ตำรวจสวนต่อขึ้นมาว่า “เขาหลอกเธอ” จากนั้น “เฉินเนี่ยน” ร้องไห้ออกมาแล้วโวยวายกับตำรวจคนนั้น จนตำรวจมั่นใจว่า “เฉินเนี่ยน” กับ “เสียวเป่ย” รู้จักกันจริง ก็ได้รวบตัว “เฉินเนี่ยน” แล้วบอกว่า เมื่อกี้เขาโกหก “เสียวเป่ย” แค่โดนจำคุก 10 ปี

                  หลังจากนั้นตำรวจได้พา “เฉินเนี่ยน” ไปเจอกับ “เสียวเป่ย” ไม่มีคำพูดใดๆ ณ สถานที่นั้น มีเพียงรอยยิ้มที่อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับทั้งคู่สื่อออกมาเต็มจอไปหมด ทั้งคู่ถูกนำตัวไปฝากขัง โดยที่ “เฉินเนี่ยน” ติดคุก 4 ปี ข้อหาฆ่าคนตาย

เรื่องราวผ่านมาถึงปี 2015 ตัดไปฉากเดิมที่ “เฉินเนี่ยน” กำลังสอนนักเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ในประโยคที่พูดถึงเรื่อง “อดีตและปัจจุบัน” เเละในห้องก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่น่าจะเจอเหตุกการณ์แบบเดียวกับเธอเมื่อในอดีต แต่ด้วยความเป็นครู “เฉินเนี่ยน” คงไม่อยากให้เด็กคนนั้นเป็นเหมือนเธอ เธอจึงเลือกที่จะเดินไปส่งเด็กคนนั้นที่บ้าน โดยมี “เสียวเป่ย” คอยดูแลอยู่ข้างหลัง เหมือนกับคำพูดที่เคยพูดไว้ในเรื่องว่า “เธอปกป้องโลกไป ฉันจะปกป้องเธอเอง” (มีเสริมใน **นะครับ)

                  *ประเด็นเรื่องครอบครัว “เฉินเนี่ยน” เกิดในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก ในเรื่องไม่มีฉากพ่อของ “เฉินเนี่ยน” แต่มีฉากที่แม่แวะกลับมาบ้านอยู่เป็นพักๆ เพราะแม่ต้องหนีจากเจ้าหนี้ที่โดนกล่าวหาว่าหลอกลวง ลวงโลก “เฉินเนี่ยน” จึงต้องใช้ชีวิตคนเดียว ตัดสินใจคนเดียว และเป็นครอบครัวที่โดนกดขี่ในเรื่องของฐานะการเงินที่ไม่คล่องตัวมากนัก

                  ** “เธอปกป้องโลกไป ฉันจะปกป้องเธอเอง”

                  คำว่าอยากปกป้องโลกของ “เฉินเนี่ยน” อาจจะต้องการสื่อว่า โลกใบนี้จะน่าอยู่หรือดีได้ เด็กและการศึกษาคือสิ่งที่สำคัญ เธอจึงเลือกที่จะเป็นครูในแบบที่ครูคนอื่นไม่เป็น

                  สิ่งที่สะท้อนในภาพยนตร์เรื่องนี้
- ระบบการศึกษา เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงระบบการศึกษาของประเทศจีน จริงอยู่ที่ว่าการศึกษาของประเทศจีนเป็นระบบการศึกษาที่ดีใส่ใจเกี่ยวกับข้อมูลความรู้ เเต่ด้วยประชากรที่มีมาก การศึกษาไม่สามารถทำให้ครูดูเด็กได้อย่างทั่วถึง ในห้องเรียนสอนได้แต่ความรู้ ไม่สามารถสอนความเป็นชีวิตได้

- การ Bully ไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมที่มีประชากรมาก และมีการเเข่งขันสูงอย่างประเทศจีน จะโทษที่ตัวเด็กก็อาจจะไม่ถูกต้อง ถ้าสังเกตจากในภาพยนตร์ เด็กผู้หญิงที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะกลั่นแกล้ง ดูถูกคนอื่น เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะดูแล อีกทั้งขาดการอบรมสั่งสอนที่ดี เลี้ยงลูกแบบตามใจ

- สังคมรอบข้าง เราเห็นได้ชัดมากจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เวลาใครที่โดน Bully ไม่มีใครกล้าช่วย เหตุผลเพราะว่าใครก็ตามที่เข้าไปช่วยก็จะโดนแบบ “เฉินเนี่ยน” ทุกอย่างเลยกลายเป็นเรื่องสนุกของคนรอบข้างไป เพราะสิ่งที่คนอื่นโดน ตัวเองไม่ได้โดน

ภาพยนตร์ : Better Days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ
ความสนุก : 10 / 10
กราฟิก CG : 10 / 10
เนื้อเรื่อง : 10 / 10 
บทสรุป : 10 / 10