“เบญ” ดีใจจบป.โท คว้าเกรด 3.2 ปลื้มฟีดแบ็ค “สงครามนักปั้น 2” ดีเกินคาด
ทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนจนจบปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการตลาด มหาวิทยาลัยรามคำแหงโดยคว้าเกรดเฉลี่ยมาได้ถึง 3.2 อีกด้วย สำหรับ “เบญ เรวิญานันท์ ทาเกิด” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ พร้อมเผยความรู้สึกหลังเรตติ้ง “สงครามนักปั้น 2” ดีเกินคาด ซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ: “เบญ” เผย "เรน" คัมแบ็ค แจงนัวพระเอก ต.
ล่าสุดเราก็จบปริญญาโท สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.2 รู้สึกหายเหนื่อยเลย ใช้เวลาเรียนไปปีครึ่ง คือเรียนอาทิตย์ละ 1 วันแต่เป็นวันที่ใช้เวลาเรียนเยอะมากทั้งวันเลย ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสามทุ่ม ถามว่าเร็วไหม ถือว่าเร็วนะแต่คือมันยากกว่าปริญญาตรีมากนะ เรื่องการแบ่งเวลา คือทำงานด้วยเรียนด้วยมันก็หนักมากนะ แล้วช่วงที่เรียนมันเป็นช่วงที่เราถ่ายละคร "สงครามนักปั้น 2" และมีถ่ายอีกเรื่อง แต่ว่าเราก็จะบอกขอหยุดทุกวันเสาร์เพื่อไปเรียน คือที่ผ่านมามันยากมากๆ เราก็ต้องพยายามอ่านหนังสือ และสอบให้ได้คะแนนเยอะๆ ทางพ่อแม่ก็ดีใจ คือพวกเขาอยากให้เราเรียนต่ออยู่แล้ว ซึ่งเราก็โอเค คือตอนแรกที่เรียนก็ว่างอยู่แล้วพอทีนี้เรียนไปได้สักพักงานเริ่มเข้ามา มีละคร
ส่วนเรื่องแพลนเรียนต่อปริญญาเอก ตอนนี้บอกแม่ขอพักก่อน แต่ว่าเราก็มีคิดๆ ไว้อยู่ คงในอนาคต ถามว่าอยากแนะนำอะไรให้กับคนในวงการที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย คือถ้าใครอยากจะเรียนเสริมสร้างความรู้นำไปต่อยอดต่างๆ ก็สามารถจะมาเรียนได้ อย่างเราถ่ายละคร 2 เรื่อง คือคิวมันก็ 7 วัน แต่มันก็จะมีวันว่างของแต่ละคน คือไม่ได้ถ่ายทุกวัน ก็เอาเวลาตรงนั้นที่ว่างมาเรียน คือเราไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะยังทำอาชีพนักแสดงอยู่ไหม แต่อย่างน้อยเรามีความรู้จากที่เรียน เพื่อจะไปต่อยอดทำธุรกิจในอนาคตเผื่อเราไม่มีงานในวงการ อย่างที่เราเลือกเรียนการตลาดก็เพราะว่าเราคิดว่าในอนาคตอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะขายของหรือเปิดร้านอาหาร อย่างน้อยความรู้เรื่องการตลาดมันยังนำไปต่อยอดได้
กับละคร "สงครามนักปั้น 2" ตอนนี้จบแล้ว เมื่อ 2 วันก่อน ดีใจมาก ถามว่าเราประสบความสำเร็จกับบท “เรน” ไหม คือสำหรับเราโอเคกับบทที่ได้รับตั้งใจมากๆ ดีใจที่ทุกคนชอบ ถามว่าตอนถ่ายเครียดไหม เครียดมาก บทหนักมาก หนักที่สุดในชีวิตแล้วที่เคยเล่นมา ถือว่าบทไกลตัวกับเรามาก เราก็เลยมีการไปเรียนแอ็คติ้งเพิ่ม ส่วนเรื่องที่คนดูบอกว่า 2 ตอนสุดท้ายทำมาเพื่อเรนโดยเฉพาะ เราว่าไม่นะ คือมันเป็นบทสรุปของเรื่องมากกว่า อย่างทุกคนก็อยากจะรู้ว่าจุดจบของเรนเป็นยังไง ส่วนกระแสที่บอกว่า ไม่ปลื้มกับจุดจบ คือมันนอกเหนือจากที่เราควบคุม เราในฐานะนักแสดง และคนอื่นๆ ได้รับบทมาก็ต้องทำบทบาทการแสดงให้เต็มที่ที่สุด และเราก็เชื่อว่าทุกคนเต็มที่ที่สุดแล้วจริงๆ
