รู้จักตัวตน “แพต ชญานิษฐ์” กับแพชชั่นสุดเนิร์ดด้านการแสดง
กำลังมีผลงานซีรีส์อีกเรื่องให้ได้ติดตามกัน สำหรับนักแสดงสาวมากความสามารถ “แพต ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” อย่างเรื่อง “Turn Left Turn Right สมองเลี้ยวซ้าย หัวใจเลี้ยวขวา” แต่ที่พิเศษคือ การเข้ามารับบทบาทนางเอกคนแรกของหนุ่มสายวาย “สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์” คาดว่าน่าจะเป็นอีกบทบาทที่ท้าทายสำหรับสาว “แพต” แต่นอกเหนือจากเรื่องผลงานมีอีกหลายแง่มุมในการใช้ชีวิต การจัดการกับปัญหาที่สาวเก่งคนนี้รับมือกับมันแบบได้อย่างสนุกสนานและน่าสนใจ ความคิดความอ่านในวัย 24 ปี กับเส้นทางในวงการ 5 ปีของเธอจะเป็นอย่างไร เจ้าตัวได้เปิดใจให้ฟังสุด Exclusive
นิยามความเป็น “แพต ชญานิษฐ์”
นิยามความเป็น “แพต ชญานิษฐ์” เป็นคำถามที่ดีมากๆ หนูก็เป็นหนู เป็นหนูแบบนี้แหละ ไม่มีคำนิยาม มี Independent สูงระดับหนึ่งในช่วงนี้ จนมีความหมั่นไส้ตัวเองในบางที หนูรู้สึกว่าหนูเหนื่อยถ้าต้องแกล้งเป็นคนอื่น ก็เลยเป็นตัวเองไปเลย การพรีเซ้นต์ความจริงของหนูออกไปว่านี่คือหนู มันทำให้หนูทำงานอย่างมีความสุข อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และรู้สึกว่าเราไม่โกหกตัวเองและคนอื่น
ดูเป็นคนอารมณ์ดี เรื่องที่รู้สึกแย่ที่สุดที่ผ่านมาคือ
น้อยนะ น้อยมาก ถามว่าเป็นคนที่ไม่ได้เจอสิ่งที่ดีเหรอ ไม่ใช่ เรายังมีความเป็นมนุษย์ มีชีวิตครบรส 5 กลิ่น รัก โลภ โกรธ หลง มีหมด แน่นอนก็ต้องมีเศร้า มีเสียใจ ผิดหวัง มันมีอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเราผ่านมันไปได้ โอเคอาจจะเฮิร์ท อาจจะดาวน์อยู่เป็น 2 อาทิตย์ คิดวนไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายหนูจะตระหนักรู้กับตัวเองว่ามันไม่มีประโยชน์เลยที่เราจะเสียเวลากับสิ่งนี้ พอเหมือนตระหนักรู้ปุ๊บ มันแค่แป๊บเดียวที่เราตระหนักรู้ว่าสิ่งนี้เสียเวลา มันก็จะ move on เลย มันเป็นอะไรที่ crazy powerful มาก พอตระหนักรู้ก็ shut down แล้ว move on ไปเรื่องใหม่เลย
จัดการกับปัญหาที่เข้ามายังไง
เอาตรงๆ หนูเป็นคนที่ใช้อารมณ์ก่อน หงุดหงิด เซ็ง เสียใจ เฟล และก็ freak out ต้องเป็นอะไรแบบนี้ก่อนเลย รู้เลยต้องเป็นแบบนี้ก่อน สุดท้ายก็อยู่แบบนั้นสักพักแล้วมันจะ handle ได้เอง อย่างที่บอกเมื่อกี้ พอหนูตระหนักรู้แล้วมันจะจบ มันยากนะกับการที่เอาขาหนึ่งข้างก้าวออกมาจากหลุมนั้น แต่หนูรู้สึกว่าหนูกล้าหาญพอที่จะทำ
สิ่งที่คนเข้าใจผิดในตัว “แพต” อยู่บ่อยๆ คืออะไร
หนูจะรู้สึกเคอะเขินทุกครั้งที่มีคนพูดแบบ เฮ้ย! เป็นคนแบบเพอร์เฟคท์มากเลย อันนี้ก็ดี อันนี้ก็ได้ แต่จริงๆ หนูเป็นแค่เป็ดที่ทำโน่นได้ ทำนี่ได้ แต่บางทีมันไม่ได้เพอร์เฟคท์ หนูรู้สึกว่าแบบคำว่าเพอร์เฟคท์มันไม่มี หนูก็แค่ enjoy ก็เลยรู้สึกเคอะเขิน รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ได้เพอร์เฟคท์ขนาดนั้น
4-5 ปีในวงการบันเทิง เติบโตขึ้นยังไงบ้าง
ก็เป็นคนที่ไม่ตบไม่ตีก็ไม่ได้ดีอะค่ะ บอกเลย คือรู้สึกว่าทุกวันนี้จะขอบคุณเพื่อนร่วมงาน พี่ๆ ผู้กำกับฯ หรือเหตุการณ์แบบสังคมทุกอย่างเสมอ ไม่เคยไม่ขอบคุณเลย คือขอบคุณมากที่ทำให้เติบโตแข็งแรงและเป็นตัวเองเวอร์ชั่นนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะคุณครู ทุกคนในชีวิตที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นของ “แพต” ในวงการ
เราเรียนศิลปากร แล้วพี่ที่คณะก็จะทำ Production House มี casting โน่นนี่ แล้วพอเป็นคณะศิลปากรมันจะมีความกิจการครอบครัว ก็จะมีชวนแกไป cast หน่อย เราก็เออ ไปก็ไป แล้วพอไปปุ๊บมันได้เลย หนูก็แบบได้ได้ไงอะ คือตอนนั้นไม่รู้เลยว่าการแสดงแปลว่าไง ไม่รู้เลยว่านี่คือ acting ไม่รู้อะไรเลย จากนั้นมามันก็เหมือนขึ้นรถไฟขบวนนั้นไปแล้วมันก็ไม่ได้ลงมาอีกเลย มันก็แล่นไปเรื่อยๆ
คิดยังไงกับโอกาสที่เข้ามาในชีวิต
งง รู้สึกงง แต่ก็ขอบคุณความงงนี้ที่ทำให้หนูรักตอนนี้ รู้สึกอินเลิฟกับการเป็นนักแสดงมากๆ เนิร์ดมากกับศาสตร์ acting มันทำให้หนูรู้สึกว่าชีวิตหนูอยู่ด้วย passion แห่งศิลปะ ศิลปะชิ้นนี้ ตอนนี้มันเป็นแบบนี้
อินเลิฟกับการแสดงขนาดนี้ได้ยังไง
มันเหมือนเราไม่เคยรู้สิ่งนี้มาก่อน เหมือนกับนักเรียนศิลปะคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร จนกว่าจะได้ลงมือทำว่าแบบมันตอบโจทย์ร่างกายหนู บางทีเหมือนรสชาติอาหาร ฉันชอบกินรสเปรี้ยว ฉันชอบกินรสหวาน แต่หนุรู้สึกว่าหนูชอบกินรสชาตินี้ ร่างกายหนูชอบกินรสชาตินี้มากๆ พอชอบกินมากๆ ก็เลยกระโดดลงไปในหลุมรสชาตินี้ หนูขุดหลุมนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังขุดอยู่ หนูจะขุดจนกว่ามันจะสุดทาง ขุดไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังขุดอยู่
ชอบงานแสดงแบบไหนที่สุด
มันค่อนข้างต่างกันนะ scale งานมันก็ต่างกัน การ present ก็ต่างกัน แต่รู้สึกยินดีและก็ดีใจที่ได้ไปลองหลายๆ แบบ ได้ไปลองละคร ซีรีส์ หรือว่า MV แต่ถ้าให้ตอบจริงๆ หนูชอบอะไรที่เป็น scale หนังหรือประมาณนั้น เชิงแบบ present ใน way นั้น มันรู้สึก powerful มากกว่า
รู้สึกยังไงมารับบทบาทนางเอก Original NETFLIX ของไทยคนแรก
เขาก็ติดต่อเข้ามากับทางนาดาวแหละ ให้ไปแคสต์ หนูก็รู้สึกว่า NETFLIX จริงปะเนี้ยะ ไม่อยากจะเชื่อว่า NETFLIX จริงหรือเปล่า ตอนนั้นจริงไม่จริงก็ไม่รู้แล้ว แต่บทน่าไปแคสต์มาก ก็คือเหมือนไปเพราะเนื้องานมันน่าสนใจจริงๆ ก็ไปแคสต์ แล้วก็ได้ขึ้นมา พอได้จริงๆ ก็งง จริงปะเนี่ย หนูเป็นคนที่ดู NETFLIX มานาน นานมาก Horse of card อย่างนั้น ก็เลยรู้สึกว่ายังไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริงอยู่ จนรู้สึกว่าตื่นได้แล้ว มันเป็นเรื่องจริง ตระหนักรู้แล้วก็เริ่มกดดันขึ้นเรื่อยๆ พี่เอกชัยบอกตลอดนางเอก NETFLIX คนแรกของประเทศไทย แกจะทำให้เสียหน้าไม่ได้ มีความรู้สึกแบบเป็น Miss Thailand ที่ไปประกวดเวที Miss Universe ที่จะทำให้คนทั้งประเทศเสียหน้าไม่ได้ รู้สึกว่ามันกดดันมากก็เลยแบบเนิร์ดจริงจังมาก ตั้งใจมาก
ความแตกต่างที่เป็นคนแสดงแทนการเป็นผู้ชมใน NETFLIX
มันเป็นความภูมิใจในตัวเองที่มันไม่ใช่แค่ตัวเอง พอผลงานมันออกไปแล้ว มันไม่ใช่แค่ภูมิใจในตัวเอง แต่ภูมิใจในทีมงานทุกๆ คน partner ร่วมงานทุกคน มันเป็นอารมณ์ที่แฮปปี้มาก คือมันภูมิใจในตัวเองไม่พอ มันแบ่งความภูมิใจไปให้กับเพื่อนๆ ร่วมงานกับเราด้วย มันยิ่งใหญ่มาก เรารู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มากจริงๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เรามีอารมณ์นี้ คนบางคนยังไม่เคยมีอารมณ์นี้เลยด้วยซ้ำ
เป้าหมายสูงสุดในวงการบันเทิง
หนูมองว่ามันเป็นงานศิลปะ พอมันเป็นงานศิลปะแล้วก็รู้สึกว่าหนูจะหยุดเรียนรู้ไม่ได้ หนูเป็นคนที่คิดแบบนี้ว่า นักกีฬา นักดนตรีก็ยังต้องซ้อม คือหนูเป็นนักแสดง ทำไมต้องหยุดเรียนอะ หนูต้องเป็น practice actor ตลอดเวลา หนูรู้สึกว่ากลัวที่สุดว่าตัวเองเป็นน้ำเต็มแก้ว เมื่อก่อนชอบคิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนไป แต่นั่นเป็นความคิดของ ego แต่คือทุกคนเปลี่ยนตลอดเวลา หนูเพิ่งรู้ตัวว่าหนูเปลี่ยนไปทุกวันด้วยซ้ำ แต่ว่าสิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวว่าตัวเองเป็นน้ำเต็มแก้ว และเติมอะไรไม่ได้แล้ว ส่วนจะขุดไปถึงไหน ก็คงขุดทางนี้ไปจนหมดแรง
บทบาทที่อยากเล่นที่สุด
อยากเป็นคนพิการด้านใดด้านหนึ่ง หนูรู้สึกว่ามันมี conflict อะไรบางอย่างที่น่าสนใจด้านกายภาพ บทบางบทถ้ามันมีการแสดงที่มัน full body ไม่ได้มี conflict ในร่างกาย หนูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจระดับหนึ่งที่ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของบท เช่น บทเดินกะเผลก ก็ต้องเดินกะเผลกตลอดเวลา รู้สึกว่าอยากใช้ร่างกายอะไรบางอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งในบทด้วย เป็นอะไรที่น่าสนใจ อย่างเล่นอะไรที่เป็น physical design
ถ้าตอนนี้ไม่ทำงานการแสดงจะทำอะไรอยู่
หนูว่าหนูอยู่บริษัทออกแบบอันใดอันหนึ่งในประเทศสักอัน เราเรียนสาขา graphic visual communication design เลยน่าจะอยู่สักที่หนึ่ง
อยากผันตัวไปทำงานตามสายที่เรียนไหม
เคยคิดแต่ตอนนี้รู้สึกว่าเรายังไม่ทิ้งนะ ยังเสพ ยังซื้อหนัง เข้า pinterest ยัง ไป museum หรือ art gallery อยู่ ไปเสมอ มันเป็นแขนงหนึ่งของงานศิลปะ เพราะว่าหนูเป็นคนที่เลิฟกับงานศิลปะอยู่ แต่จะไปทำเต็มตัวไหม ตอนนี้ยังมองไม่เห็นตัวเองแบบนั้น ตอนนี้รู้สึกว่าหนูยังเอ็นจอยกับการขุดหลุมที่ว่าอยู่
คิดยังไงกับการทำอะไรหรือไม่ทำอะไรเพราะคำว่า Passion
มันเป็นเรื่องของ priority ในชีวิต เหมือนกับบางคนเลือกที่จะครอบครัว แฟน เพื่อน หรืออะไร แต่หนูรู้สึกว่าตอนนี้ priority ของหนูคือ passion มันชัดมากว่ามันคืออันดับ 1 มันก็ตอบยากเหมือนกันว่าทำไม แต่ร่างกาย ความรู้สึกและสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเลือกให้มันต้องมาทางนี้แล้ว
ถ้าเป็นคนอื่นได้ 1 วันอยากเป็นใคร
ไม่เคยคิดเลยอะ หนูอยากลองเป็นคนคุกสักวันหนึ่ง ใครก็ได้ อยากรู้บรรยากาศ พลังงานของคนในนั้น น่าสนใจ มนุษย์ทุกอย่างเป็นอะไรที่น่าสนใจ ทุกบทบาทเลย ขอทานก็น่าเป็นนะ สักวันหนึ่ง หรือว่าคนที่แบบเป็นโรคผิวหนัง เรื้อน น่าเป็นนะ น่าสนใจ อยากรู้ว่าแบบการที่เราอยู่ในจุดที่มีคนรักมากๆ และไปอยู่ที่ๆ คนรังเกียจมากๆ จะรู้สึกยังไง
มีคนทักว่าเหมือน Jennie BLACKPINK รู้สึกยังไง
เอาจริงๆ ตั้งแต่เข้าวงการมา มีคนทักว่าหน้าหนูเหมือนคนหลายคนมาก แบบมาก มากจนตอนนี้จะให้พูดว่าเหมือนใครบ้างยังจำไม่ได้เลย เลยรู้สึกว่าโอเคไม่แปลกใจที่คนทักว่าเหมือนในบางมุม รู้สึกว่าก็ตลกดี เป็นช่วงเวลาหนึ่ง สิ่งนี้ก็จะหายไป และก็มีคนใหม่เข้ามาให้เหมือนอีก หนูเหมือนทุกคน ยกเว้นตัวเอง
เมื่อเจอคอมเมนต์ไม่ดีรู้สึกยังไง
มันจะมีบางคอมเมนต์ที่มันไม่รู้สึกก็ตอบยากว่าไม่ใช่ มันก็รู้สึก แต่สุดท้ายมันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไป defense สิ่งนั้น การที่เราอยู่ตรงนี้เราก็ยอมรับละ ว่าเราเป็นคนสาธารณะก็ใช่ ฉะนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่มีสิ่งนี้วนเวียนเข้ามา สุดท้ายการที่เรา present ความจริงไปมันคือดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าคอมเมนต์หรืออะไรก็ตามก็ทำอะไรเราไม่ได้ มันก็เจ็บปวดแหละ เป็นธรรมดา ไม่มีใครที่จะไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่โดนแหละ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าสุดท้ายความจริงเป็นยังไงมันก็จะผ่านไป
3 สิ่งที่อยากทำก่อนตาย
ก่อนอื่นต้องไปกินชาบูหม่าล่าก่อน หนูชอบกินชาบูมาก อันดับ 2 ไม่รู้ดิ หนูรู้สึกว่าการกินของอะไรเป็นอะไรที่ทำให้ร่างกายหลั่งสารอะไรบางอย่างที่ทำให้ร่างกายมีความสุขมากๆ หนูเลยรู้สึกว่าถ้าเราได้กินของอร่อยก่อนตายอะ โอเค หนูขอเลือก 3 สิ่ง เป็นของอร่อย 3 สิ่ง นอนกินอย่างราชาแล้วก็ตายไป มันทำอะไรไม่ได้แล้ว คนจะตาย โดดร่มเหรอ พอรู้สึกว่าใกล้ตายก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว