“แอนนา” มั่นใจคดีหวยทิพย์บริสุทธิ์ แอบห่วงแม่ร้องไห้ทุกวัน กลัวทัวร์ลง!

“แอนนา” มั่นใจคดีหวยทิพย์บริสุทธิ์ แอบห่วงแม่ร้องไห้ทุกวัน กลัวทัวร์ลง!

              เมื่อวานนี้ “แอนนา” ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเคลียร์ประเด็นหวยทิพย์ โดยยอมรับว่าตนเองมีชื่อ 1 ใน 3 เป็นผู้จดทะเบียนบริษัทแพลตฟอร์ม “โชคดี ล็อตเตอรี่ ออนไลน์” แต่ไม่ได้เป็นผู้บริหารที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือบริหารงานในบริษัท เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ ที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 100,000 บาท ไม่ได้มีเจตนาจงใจจะไปกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะถ้ารู้ว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย การได้เงินค่าจ้างเพียงเท่านี้ คงไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่ต้องเสื่อมเสียไป

            ล่าสุด “แอนนา” ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นนี้อีกครั้งในรายการ “เผ็ดมันส์ บันเทิง” ช่อง 8 ยอมรับว่าไม่ได้เครียดกับคดี แต่เป็นห่วงความรู้สึกของคุณแม่และพ่อ รวมทั้งเพื่อนสนิทที่โทรมาร้องไห้ทุกวัน มากกว่า

จ๊ะจ๋า : หลายๆคนติดตามแอนนามาจากข่าวแตงโม จนพี่แอนนาไปต่างประเทศ ไปพักผ่อนหย่อนใจจนล่าสุดเป็นคดีของหวยทิพย์ เกิดขึ้นมา 3 ข้อกล่าวหานี่โดนอะไรบ้าง

          แอนนา : มีข้อหา ฉ้อโกงประชาชน แล้วก้อรับกินรับจ่าย และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ก้อเยอะนะ

จ๊ะจ๋า : แล้วเป็นไงบ้างคะ

          แอนนา : ตอนแรกที่รู้ข่าวเรื่องคดีทั้งหมดจริงๆ เลยวันแรกคือวันที่เผาโมเลย คือ 24 พค ค่ะ วันที่รู้ข่าวแอนนา นอนอยู่ในเม็กซิโก นอนอยู่แคนคูน กำลังอาบแดดสวยๆ อยู่เลย พี่จี้โทรมา แอนนาหล่อนโดนหมายจับ ก็เลยเลิกอาบแดดวิ่งขึ้นห้องคุยกันว่าเป็นอย่างไร ทางพี่จี้ก็บอกโดนหมายจับเหมือนพี่ต๊ะนั้นแหล่ะ ก็ยังทำใจได้นึกว่าโดนใหญ่กว่านั้นตอนแรก คราวนี้คนก็สงสัย ว่าทำไมไม่กลับ กลับมาเลยวันนั้นแล้วมาแถลง คือแล้วตอนนั้นแพลนมันคือตั๋วไปเมกซิโกแล้วไปยุโรป จากยุโรปกลับไทย ถ้าเราเปลี่ยนแพลนทั้งหมด กลับจากเมกซิโก ค่าตั๋วเครื่องบินอีก 2 แสน เราก็โอเคกลับตามเดิม ให้ทางทนายรายงานตัวกับทางตำรวจก่อน คือทนายอาคม คงสวัสดิ์ที่ทำคดีให้กับดาราหลายคนทั้งแพทเอย หวย 30 ล้านเอย เป็นทนายที่เก่งมาก เราก็ได้ถามทางทนายว่า คุณอาขาหนูมีสิทธิ์ที่จะโดนอะไรมากมายมั้ย คุณอาเลยบอกว่า คดีนี้มันขาดเจตนา เรารู้หรือป่าวว่าเค้าขายหวยทิพย์ด้วย ? หนูก็บอกหนูไม่รู้ ถ้าหนูรู้หนูจะทำเหรอ? คนในเพื่อนกันยังซื้อเลย เราจะหลอกเพื่อนเราเหรอ ถ้าเรารู้ เพราะเราก็คิดว่าอาชีพขายสลากเป็นอาชีพที่สุจริต ใครก็ขายได้ก็คิดอย่างนี้

ปอ อรรณพ : คือเราตอนนี้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหามั้ยครับ?

แอนนา : เราปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะมันคือกล่าวหาว่าเราไม่มีสลากจริง ซึ่งในความเป็นจริงเค้าจ้างดิฉันให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ เค้าจ้างเราให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้รับบทเป็น CEO

จ๊ะจ๋า : เดี๋ยวก่อนอันนี้ทั้งหมดคือ “การแสดง” ?

 แอนนา : ไม่ใช่การแสดงหรอก เค้าเรียกว่า ดารารับจ้างถือแบรนด์ ทั้งนั้นแหล่ะ ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าดารามากมาย ดิฉันนะคะแบรนด์นี้ของดิฉันเองก็เยอะ เป็นอาชีพที่มีมานานแล้ว

จ๊ะจ๋า : แล้วมันมีคลิปๆ นึง ที่เห็นในโซเชียลเยอะมาก แอนนา ค่ะ เป็น CEO ของโชคดีลอตเตอรี่ ?

แอนนา : ตอนแรกต้องเล่าแบบนี้ ตอนแรกเริ่มเลย เค้าทาบทามมาบอกว่า ถ้าจ้างให้เป็น CEO เนี่ย จะคิดอย่างไร ? คือบางทีเค้าจ้างดาราออกหน้าให้

จ๊ะจ๋า : คือทำหน้าที่ CEO มีหน้าที่จัดหาพรีเซ็นเตอร์ให้ด้วยร่วมด้วยมั้ยหรือเป็นการโปรโมทด้วยมั้ย

แอนนา : ฉันรับจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์แค่นั้น จบ เคยเห็นฉันทำมั้ยล่ะ ฉันทำแค่พรีเซ็นต์ ใครมาถามฉันว่า ซื้อยังไงฉันยังไม่รู้เลย

จ๊ะจ๋า : คนที่เข้าไปในแอพลิเคชั่น จะเห็นพี่แอนนายืนพรีเซ็นต์แบบสวยๆ

แอนนา : หลายครั้งเลยหลายคนถามแบบนี้ต้องทำยังไงต่อ ยอมรับเลยไม่รู้ ก็จะบอกไปว่าให้เข้าไปถามใน Inbox ของทางทีมงานเอาเอง

จ๊ะจ๋า : คือตอนนี้ก็ยังยืนยันว่าตนเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีใครคนหนึ่งจ้างเราให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์พรีเซ็นต์ บอกว่าฉันหน่ะเป็น CEO แต่ข้อเท็จจริงคือไม่รู้

ปอ อรรณพ : แล้วเรื่องของคุณนอตละ ตัวแอนนาได้เคลียร์หรือยัง

แอนนา : สำหรับเรื่องพี่นอต ตัวแอนนา ต้องขอขอบคุณด้วยซ้ำที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ตัวเราถ้าทำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะมีปัญหาอีก เพราะเค้าก็เป็นประธานสมาคมของลอตเตอรี่ออนไลน์

จ๊ะจ๋า : ก็คือแสดงว่าที่ผ่านมา พี่แอนนาไม่รู้เลย ว่ามันมีความผิดปกติเกิดขึ้น?

แอนนา : คือเราไม่รู้อะไรเลย แต่ไม่ใช่ว่า มันจะเป็นสลากทิพย์นะ เท่าที่เราถามมาจากคนที่เค้าบริหารข้างใน เค้าก็บอกเราว่า สลากมันมีตัวจริง แต่ประเด็นที่มีปัญหาคือ ยี่ปั๊วรายนี้ เค้าเอาสลากมาขาย 2 งวดแล้ว พองวดที่ 3 ที่เค้าจะเอามาขายอีก เค้าส่งตัวแสกนมาก่อน เค้าบอกตัวจริงกำลังมา กำลังจะเดินทางมา พอผ่านไปได้ 2 วัน เค้าก็โทรถามว่าสลากตัวจริงยังไม่มาเหรอ เค้าก็หายไปติดต่อไม่ได้ ทางทีมงาน “โชคดี” ก็ไปลงแจ้งความ แล้วก็คืนเงินลูกค้าทั้งหมด ถ้าเราต้องการหรือทางโชคดีตั้งใจจะโกงจริงๆ เค้าก็คงไม่คืนเงิน นี่เค้าก็คืนเงินทั้งหมดติดต่อไม่ได้แค่ 65 ราย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม 65 คนเหล่านี้ถึงไม่รับโทรศัพท์ หรือไม่มาเอาสลากใหม่ คือต้องบอกก่อนว่าทาง “โชคดี” เค้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็โทรคืนเงิน ใครไม่คืนเงินก็เปลี่ยนลอตเตอรี่ไป เข้าใจมั้ย มันก็ไม่ใช่การฉ้อโกงแล้ว

ปอ อรรณพ : คือเค้าก็ไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง

แอนนา : ใช่มันจะมีแค่บางคนที่ติดต่อไม่ได้จริงๆ ซึ่งถ้าติดต่อได้เราก็คืนเงินให้ได้อยู่แล้ว เพราะมันไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเก็บเงินเอาไว้ เราจะมาเหนียมเงินแค่ 10 บาท 20 บาท กับผลประโยชน์ธุรกิจที่ทำมาหลักล้านเหรอ มันไม่คุ้มอยู่แล้ว คิดตามความเป็นจริงเลยนะ ถ้าเค้าจะโกงหรือว่าออกมาฉ้อโกงประชาชน ในช่วงทีเค้ากำลังกวาดล้างเหรอ ช่วงนั้นเป็นช่วงกวาดล้างลอตเตอรี่เลยนะ โดนปิดไปตั้งกี่บริษัท ใครจะมายืนทำอย่างนั้นอยู่ล่ะ

จ๊ะจ๋า : อย่างนี้พอมีประเด็นทั้งที่พี่ต๊ะพี่แอนนาออกมาให้ข้อมูลกับสื่อกับประชาชนในฐานะเป็น CEO เป็นพรีเซ็นเตอร์ แล้วที่นี้เจ้าของ คนที่เป็นคนว่าจ้างพี่แอนนาจริงๆ เค้ามีแอคชั่นอะไร

แอนนา : คือก็มีคนถามว่าเจ้าของเป็นใคร ก็ต้องพูดแบบนี้ แอนนาได้รับว่าจ้างผ่านเอเจนซี่ผ่านคนกลาง ดังนั้นเจ้าของเค้าน่าจะมีหลายคน เราก็เลยไม่รู้ว่าใครที่เป็นเจ้าของจริงๆ

ปอ อรรณพ : แล้วคดีนี้มันจะจบอย่างไร

แอนนา : แอนนาว่าเราก็ต้องสู้นะ เราไม่รู้ว่ามันจะจบลงแบบไหน แต่เรารู้ว่าเราไม่ได้ฉ้อโกงประชาชนจริงๆ ที่ผ่านมาเราก็ทำมาหากินโดยสุจริตมาโดยตลอด ดังนั้นก็ไม่มีอะไรน่ากังวลนะ สำหรับตัวพี่นะ ถ้าเราแสดงเจตนา แสดงความจริงให้ศาลเห็นแล้ว แล้วศาลตัดสินในรูปไหนก็ตาม เราก็ต้องยอมรับ เพราะว่านี่คือคำตัดสินของศาล

จ๊ะจ๋า : แล้วส่วนไหนที่พี่แอนนารู้สึกกังวล มีมั้ยคะ ?

แอนนา : ส่วนที่กังวลตอนนี้คือ กลัวทัวร์มากกว่า กลัวทัวร์ลง

จ๊ะจ๋า : จ๋าเห็นขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ แต่ไม่ใช่ทัวร์ลงพี่แอนนานะ เป็นเรื่องอื่น

ปอ อรรณพ : เหมือนตอนนี้เปลี่ยนไปเรื่องสิทธิของผู้ต้องหามากกว่า ?

แอนนา : คือเล่านะคะตอนนี้ พี่ไม่มีเจตนาจะว่าใครก็ตาม แม้กระทั่งคุณอาสรยุทธ คือเมื่อวานนี้คุณอาสรยุทธลงคลิป เป็นคลิปเกี่ยวกับตอนที่แอนนา เดินมาออกจากเกท ซึ่งตอนเดินมามันจะมีคนเดินมาหลายคน แล้วตอนเดินออกมา คนเค้ารู้อยู่แล้วว่าแอนนามีคดี แล้วเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ข้างหน้าเยอะ แล้วตอนเจ้าหน้าที่ถ่ายคนเค้าก็เหมือนเลิ่กลั่กอ่ะ เหมือนเค้าจะติดเข้าไปในคลิปมั้ย ฉันจะกลายเป็นข่าวด้วยหรือป่าว พอเราเดินออกมาพี่ตำรวจเค้าก็ถ่าย เราเลยถามว่าอันนี้ไลฟ์สดอยู่เหรอ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ไลฟ์สด เป็นการถ่ายบันทึกการจับกุม แสดงว่าถ้าเป็นบันทึกการจับกุม มันจะไม่แพร่ภาพไปที่สื่อมวลชนใช่มั้ย? เค้าบอกว่าไม่ต้องกลัว นี่อยู่ในบันทึกของตำรวจอย่างเดียว สรุปว่าหลุดหมดเลย คือเข้าใจมั้ยว่าคนที่เดินตามมา เค้าก็ไม่ได้อยากอยู่ในกล้อง ตอนที่จับกุมก็ต้องยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ ตม ก็ไมได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุเลยค่ะ เค้าไม่ได้ใส่กุญแจมือ เค้าก็แค่แสดงหมายจับ เราก็บอกว่าพี่อย่าเพิ่งถ่ายหนูนะ หนูยังไม่แต่งหน้า ก็เลยขอหล่ะ ขอเข้าห้องน้ำก่อน ว่าจะไปแต่งหน้า แต่ก็กลัวเค้ารอนาน ก็เลยขอเปลี่ยนชุดก่อน ก็เลยเปลี่ยนเป็นชุดสีส้ม ก็เลยเหมือนเปลี่ยนชุดเยอะ ก็เป็นการให้เกียรติการมอบตัว ออกจากงวงช้าง 1 ชุด ก่อนบิน 1 ชุด นั่งรถตำรวจอีก 1 ชุด สัมภาษณ์อีก 1 ชุด จริงๆ มีทั้งหมด 5 ชุดนะ ตอนสอบสวนเป็นชุดสายเดี่ยวสีดำ ตอนสัมภาษณ์เป็นแขนยาว

จ๊ะจ๋า : สรุปว่าแอนนาดูนางงามเยอะ ก็เลยเปลี่ยนชุดเปลี่ยนสี 5 ชุด

ปอ อรรณพ : แล้วถามจริงๆ พี่แอนนาติดใจอะไรมั้ยทั้งสื่อทั้งตำรวจ

แอนนา : ก็พูดตรงๆ นะคะ โดนหนักมาก ทั้งโดนพาดหัวข่าว แอนนาหนีตูดบาน อดีตโสเภณี งี้ ถามว่าแอนนาโกรธมั้ย เราก็โกรธ ฟ้องมั้ยเราก็ไม่ฟ้อง เพราะเราเข้าใจว่าสื่อเค้าก็ต้องทำงานของเค้า แต่เราแค่ขอความร่วมมือว่า ถ้าจะพาดหัวแบบนี้มันจะเป็นการเหยียดเพศไปมั้ย เหยียดอาชีพ ไม่อยากให้ทำอีก ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆ เพราะว่าเข้าใจมั้ยว่าการเหยียดเพศ เหยียดอาชีพ มันคือสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ เหมือนในอาชีพในอดีตเราทำมันไปแล้วอ่ะ จะให้เรากลับไปแก้เราแก้ไม่ได้ ถ้าคุณบอกว่าวันนี้แอนนาต้องปรับการพูดปรับมายเซ็ท แล้วทำให้มันดีขึ้นเราปรับ แต่บอกให้เราแก้ไขอดีตเราแก้ไม่ได้เลย

จ๊ะจ๋า : แล้วที่เมื่อวาน พี่แอนนา ไปพบเจ้าหน้าที่ จ๋าเห็นภาพหนึ่ง จ๋ารู้ว่าพี่แอนนาเป็นคนรักแม่มาก เป็นคนรักครอบครัวมากแล้วจ๋าก็เห็นคลิปตอนที่แม่พี่แอนนา ร้องไห้ตลอด

แอนนา : แม่โทรมาร้องไห้ตลอดทุกวัน ตั้งแต่ตอนอยู่เมืองนอก แม่บอกมันเกิดอะไรขึ้น ไหนบอกไปเที่ยว แล้วมันเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ ก็อธิบายให้แม่เข้าใจว่าแม่ เรามาพักผ่อนแม่อย่าพูดเรื่องนี้น้า ก่อนหน้านั้นก็พูดกับแม่อยู่แล้วว่าเราเครียดกดดันกับสภาวการณ์หลายๆ เรื่อง ทั้งข่าวเพื่อนด้วย อะไรหลาย ๆ อย่างที่เรานอนไม่หลับเลย เรากินยาวันละ 6 เม็ดเลยนะ ก็รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป คือเราก็ไม่ได้หนีหรอก แค่หลบไปพักร้อน

จ๊ะจ๋า : แล้วพี่แอนนาเห็นแม่ร้องไห้แบบนี้ พี่แอนนารู้สึกยังไงบ้าง

แอนนา : ก็ช็อคเหมือนกันนะ พอแม่มาถึงแม่บอกว่าทำไมไม่พูดทั้งหมด ไม่พูดให้หมดเลยว่าใครเป็นเจ้าของ คือคดีมันกระทบกับหลายๆคน ถ้าจะพูดอะไรมันต้องมีทนาย แล้วทนายเองก็เป็นคนพูดเองว่าอันไหนควรพูด ถ้าจะพูดว่าใครเป็นเจ้าของทนายก็ต้องเป็นคนพูด ไม่ใช่เราเป็นคนพูดเรามีหน้าที่คือเล่าความเป็นจริงทั้งหมดให้ทนายฟัง แล้วทนายก็จัดการทั้งหมดกับตำรวจเอง เพราะเราไม่รู้กฎหมาย