“อิงเง เซอร์เจน” หรือ “เจ้านางสุจั่นตี” อดีตมหาเทวีแห่งสีป้อ รัฐฉานสิ้นพระชนม์
“อิงเง เซอร์เจน” หรือ “เจ้านางสุจั่นตี” อดีตมหาเทวีแห่งสีป้อ รัฐฉาน ในเจ้าฟ้าจาแสง สิ้นพระชนม์แล้ว 7 ก.พ. 66 ด้วยพระชันษา ๙๑ ชันษา ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอดีตมหาเทวีที่ผ่านเรื่องราวสุข ทุกข์มามากมาย
ถ้าใครเคยอ่านสิ้นแสงฉาน จะทราบว่าท่านได้สมรสกับเจ้าฟ้าจ่าแสงซึ่งภายหลังได้หายสาปสูญไปตั้งแต่โดนจับตัวไปเมื่อครั้งมี การล้มล้างการปกครองระบอบเจ้าฟ้าในเมียนมาร์ ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ ซึ่งก็เป็นครั้งสุดท้ายที่อดีตมหาเทวีได้พบกับพระสวามี ก่อนจะลี้ภัยไปอาศัยในต่างประเทศจวบจนวาระสุดท้ายจนสิ้นแสงฉานในวันนี้ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
อ่านต่อ:“เป้” คัมแบ็ค “โสด Stories” คาดงดฉาย "สิ้นแสงฉาน” เพราะมี
สำหรับ“อิงเง เซอร์เจน” หรือ “เจ้านางสุจั่นตี” กับเจ้าชายรัฐฉานเป็น เรื่องราวของความรักที่เหมือนเทพนิยาย ระหว่างสาวชาวออสเตรียกับนักศึกษาวิศวกรเหมืองแร่ชาวไทยใหญ่ ซึ่งไปพบรักกันในอเมริกาและแต่งงานกันที่นั่น โดยฝ่ายสาวก็คิดว่าสามีเป็นวิศกรธรรมดา จนเมื่อกลับมาถึงท่าเรือเมืองร่างกุ้ง รู้สึกแปลกใจที่มีผู้คนมาต้อนรับกันล้นหลามและโปรยข้าวตอกดอกไม้ สามีจึงบอกความจริงที่ยังบอกเธอไม่หมดให้ทราบ
“อิงเง่ เซอร์เจน” อดีตมหาเทวีแห่งเมืองสีป้อในรัฐฉาน ได้บันทึกเรื่องราวของเธอเป็นหนังสือชื่อ “Twilight Over Burma – My Life as a Shan Princess” จัดพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยฮาวายเมื่อปี ๒๕๓๗ ซึ่งเป็นเรื่องดังทั่วโลก ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และแปลเป็นภาษาไทยโดย มนันยา ในชื่อ “สิ้นแสงฉาน”
หนังสือดังกล่าว ได้กล่าวถึงตอนที่อิงเง่ เซอร์เจนมาถึงท่าเรือเมืองร่างกุ้ง เห็นผ้าขาวขนาดยาวเขียนคำว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” และมีหญิงสาวหลายคนโปรยข้าวตอกดอกไม้ลงบนพื้นน้ำ