ฟังจากปาก “ทับทิม” เรียนจบ อดีตสามี “ปลื้ม” ให้อะไรเป็นของขวัญ?
อีกหนึ่งนักแสดง-พิธีกรสาว “ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา” ที่ล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเมื่อทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสพูดคุยกับสาว “ทับทิม” เธอก็เล่าความรู้สึก พร้อมทั้งเผยของขวัญที่ได้รับในวันรับปริญญาให้ฟังอีกด้วยว่า
สำหรับเรื่องจบปริญญา ตนเองก็เตรียมรับพระราชทานปริญญาบัตรวันศุกร์ ที่ 23 นี้ ภาคบ่าย ตนเองจบปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนที่มันห่างไกลกับอาชีพในวงการนั้น คือจริงๆ ตนเองเรียนอยู่ 2 ที่ ทั้งเอแบคและรามคำแหง ซึ่งเอแบคเป็น Communication Arts การแสดง จริงๆ ตนเองสนใจเรื่องของพวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ บ้านเมือง เผื่อในอนาคตต่อยอดกับการเมืองการปกครอง ตนเองมองว่าเป็นอะไรที่แปลกดี ก็อยากเปิดโลกใหม่ๆ และความจริงเรื่องแบบนี้มันก็ใกล้ตัวตนเองมา รู้สึกว่าตนเองไม่มีความรู้ก็เลยอยากเรียนไว้ประดับความรู้ตนเอง ซึ่งพอเรียนแล้วก็ทราบทันทีว่าใกล้ตัวมาก ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่เกี่ยวข้องมากๆ
ส่วนใช้เวลาเรียนยังไงบ้าง ก็ประมาณ 3 ปีกว่า เป็นภาคพิเศษ ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ถือว่าตามเกณฑ์ ทางคุณแม่เองก็ดีใจมากๆ ตอนแรกครอบครัวก็มีสบประมาทเอาไว้ว่าอาจจะไม่ได้ จะไม่จบที่นี่ เพราะงานเยอะ และไม่ใช่สาขาที่ตนถนัด แต่คิดว่าถ้าตั้งใจจริงก็ทำได้ พยายามหาความรู้ ปรึกษาอาจารย์ และที่ดี คือ ตนเองไม่คิดเลยว่าการมาเรียนแบบนี้จะได้เจอเพื่อนที่อายุมากกว่า คือเป็นรุ่นคุณพ่อ พอได้เจอมันก็เหมือนเปิดสังคมอีกแบบนึง มันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ
ด้านของขวัญให้ตัวเองไม่มีเลยตอนนี้ จริงๆ การได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว เพราะตนเองก็อายุใกล้จะ 30 แล้ว การได้จบปริญญาที่นี่มันก็ถือว่าผ่านแล้วจุดนึงของชีวิต เพราะที่เอแบคก็ยังไม่จบ แต่ทำธีสิสจบเรียบร้อยแล้ว แต่มันยังเหมือนมีวิชาที่ยังไม่มีเวลานั่งเรียน แต่พบจบอันนี้ก็เป็นของขวัญให้ตัวเองแล้ว
ในส่วนของ “พี่ปลื้ม” เองเขาก็ทราบแล้วว่าตนเรียนจบ ทางคุณพ่อเองก็ทราบ ตอนแรกท่านก็จะมาที่งาน แต่ติดไปต่างประเทศ ก็มีฝากคำยินดีมาให้ทางไลน์ ส่วน “พี่ปลื้ม” เองก็มีฝากยินดีด้วยทางไลน์เหมือนกัน ติดงาน มาไม่ได้ ซึ่งถ้าเขาไม่ติดงานก็น่าจะมา
ส่วนคุณพ่อพี่ปลื้มเองจริงๆ แล้วถ้าย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว ที่ตนเองเลือกเรียนรัฐศาสตร์ก็คุณพ่อให้คำแนะนำมา มีอิทธิพลหนึ่งที่ทำให้ตนเองเลือกเรียน เพราะในอนาคตก็อาจไม่ได้ทำอาชีพดาราตลอดไป แต่ถ้ามีความรู้อื่นๆ ก็อาจจะต่อยอดทำอย่างอื่นได้ เป็นแรงบันดาลใจให้เหมือนกัน
สุดท้ายอยากจะฝากสำหรับคนที่กำลังท้อเรื่องเรียนหรือคิดว่าตนเองแก่เกินเรียนแล้ว จริงๆ ความรู้มันไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ตนมองว่าความรู้ถ้าตั้งใจที่จะหามันก็เรียนได้ อย่างตนเองเมื่อก่อนก็จะอ้างว่าไม่มีเวลา ทำงาน อ้างไปเรื่อยๆ สุดท้ายถ้าเราคิดจะทำจริงๆ มันก็มีเวลาได้ และความรู้เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถต่อยอดอะไรหลายๆ อย่างได้