“นุ้ย สุจิรา” โต้ใช้แมสร่วมสามี ลั่น! โควิด19ไม่กระทบถึงปิดโรงเรียน
ถึงจะเป็นคุณแม่ลูกสอง แต่ยังสวยฉ่ำหุ่นเป๊ะ หน้าหวานเหมือนเดิมสำหรับ "นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” ล่าสุดที่เจ้าตัวลงรูปใช้ที่มาร์คหน้าร่วมกับสามีอย่าง “ปอนด์ ชยพล หลีระพันธ์” จนมีดราม่าตามมาหาว่าเธอใช้แมสร่วมกัน วันนี้เจอตัวขออัพเดตถึงเหตุการณ์นั้น รวมทั้งโรคโควิด19 ในขณะนี้มีผลกระทบอย่างไรกับโรงเรียนหรือไม่ เจ้าตัวเผยว่า
ล่าสุดเราใช้แมสหรือหน้ากากอนามัยร่วมกับสามีอันนั้นที่มาร์คหน้านะไม่ไช่แมส แมสห้ามใช้ร่วมกันนะพอข่าวออกมาจริงๆ นุ้ยใช้ร่วมกันก่อนข่าวโควิค19 จะมาอีกแต่อันนั้นคือแซวกันเล่นๆ มันคือที่มาร์คหน้าคือซื้อมาแล้วมันฉ่ำมากมันสามารถแปะได้15 นาทีแล้วมันยังเยิ้มอยู่เราหันหน้าหาสามีเราแล้วก็เลยแปะให้เขาสะเลย
กลัวดราม่าไหมไม่น่านะเพราะเราเป็นสามีภรรยากันสามีวันๆ ก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่บ้านและก็โรงเรียนเวลาไปข้างนอกเขาก็ใส่แมสตลอดเวลานะมันคือวัฒนธรรมของบ้านเรา นุ้ยก็แพ้ฝุ่นต้องใส่ตลอดอยู่บ้านก็นอนแยกห้องเวลาไม่สบายเพราะกลัวคนอื่นจะติดเราใส่แมสนอนด้วย
เราใส่แมสตลอด24ชม ช่วงนี้ก็ไม่ได้โทษกันนะว่าใครเป็นใครไม่เป็น ไม่ใช่แค่โควิค19 รวมถึงเชื้อโรคอื่นๆ ก็มีก็ต้องป้องกันและเรามีลูกเล็กด้วยมันเกิดขึ้นได้ถ้าร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ โรงเรียนตอนนี้เราก็มีมาตราการอบฆ่าเชื้อต่างๆ อยู่แล้วเช็คทุกอย่างเลื่อนตู้เอาพรหมออกมาซักเราก็มีเครื่องฝองอากาศรวมถึงแจกหน้ากากอนามัยด้วย
แต่ตอนนี้เราขาดแคลนก็ต้องให้ผู้ปกครองเตรียมมาให้เด็กๆ เราก็จะมีการสังเกตุเด็กๆ ถ้านอกน้ำมูกไหลใครมีอาการไข้และพาสปอตรวมทั้งได้ความร่วมมือกับผู้ปกครองให้ตรวจการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงด้วยคือให้เราสบายใจและสุขภาพของเด็กๆ ทุกคนสอนวิธีการป้องกันตัวเองวิธีต่างๆ เพราะเชื้อโรคอยู่รอบๆ ตัวเรา
เราต้องอย่างไรให้ตัวเองสุขภาพดีนอกจากออกกำลังและล้างมือให้สะอาดลดกิจกรรมให้ห้างและชุมชน โรงเรียนนุ้ยยังเปิดอยู่ให้นักเรียนมีกิจกรรมให้การเรียนดีกว่าปล่อยให้เขาไปทำกิจกรรมอื่นสถานที่อื่น เรามั่นใจของมาตราฐานของการควบคุมเชื้อโรคของโรงเรียนเราด้วยนุ้ยมีคุณหมอของเด็กซึ่งดูแลโรงเรียนอยู่แล้วจากกระทรวงสาธารณสุข
และระบบโรงเรียนนุ้ยเป็นระบบอเมริกันเพราะเราจะไม่ได้นักเรียนหยุดเดือนช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเด็กไม่ได้หยุดไปเที่ยวกัน ดังนั้นก็ไม่มีการออกประเทศแต่เราก็ตรวจเพื่อความปลอดภัยเราตรวจไม่ได้ให้จับผิดใครนะเราป้องกันโรคมากกว่าโรงเรียนไม่มีสั่งปิดนะเด็กๆน่ารักและผู้ปกครองก็พูดคุยกันความร่วมมือให้การตรวจมี1 เคสที่เดินทางไปต่างประเทศเราก็ให้หยุดดูอาการ 14 วัน
โรงเรียนเราเป็นระบบอินเตอร์เราก็มีการส่งการบ้านให้กลับเด็กๆ ที่ออนไลน์เรามีการสื่อสารทางแอฟพิเคชั่นของเรา ความถึงไลน์เวลาส่งการบ้านให้เด็กๆ โชคดีที่เราเป็นเด็กเล็กจะง่ายตรงนี้ แม้ว่าจะหายได้แต่สุขภาพมันก็จะกลับมาไม่เต็มที่มีนจะทำลายเนื้อปอด ทุกคนให้ความร่วมมือกันดี ลูกๆเราก็ต้องห้ามไปเรียนในห้างเลยไม่มีการเดินห้างแต่เด็กต้องออกไปใช้กำลังของเขา
แต่เราก็ให้เด็กมาเรียนพิเศษวันเสาร์อาทิตย์ที่โรงเรียนของเราเพื่อที่ไม่ให้เขาไปห้าง เพราะตอนนี้มันไม่ปลอดภัยเรามี รปภ และแม่บ้านก็ดูแลสถานที่และสุขภาพได้ดี เราก็รู้ว่าเด็กที่เรียนกับเรามีสุขภาพที่ดีเลยให้มาเรียนอยู่ที่เราดีกว่ามีหากิจกรรมที่โรงเรียน ทุกครอบครัวควรตระหนักถึงเรื่องนี้เพราะจริงๆ เชื่อโรคต่างๆ มันรักษาได้แต่ก็อย่านิ่งนอนใจ เอาเป็นว่าอย่าไปให้ที่ทีาสุ่มเสี่ยงไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปดีกว่า