เส้นทางบันเทิง “โบว์ เมลดา” ผ่านอะไรมาบ้างนะ
เป็นอีกหนึ่งสาวที่มาแรงไม่น้อย สำหรับนางเอกสาวมากความสามารถจากวิกหมอชิตอย่าง “โบว์ เมลดา สุศรี” เชื่อว่าหลายคนต่างพากันหลงในความน่ารักของเธอ เรื่องของความสามารถบอกเลยว่ามีครบทุกด้านจริงๆ แต่กว่าเธอจะมาอยู่ตรงนี้จุดเริ่มต้นของเธอคืออะไร วันนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกเส้นทางก่อนจะมาเป็นที่รู้จักกันอย่างทุกวันนี้ของ “โบว์ เมลดา” เริ่มมาจากอะไร
เป็นเด็กที่แบบแล้วแต่พ่อแม่ ตั้งแต่เด็กเลย อยากให้ทำอะไรก็ทำ บางทีก็มีงอแงบ้าง แต่สุดท้ายก็ทำอยู่ดี แม่ก็อยากให้เป็นเด็กกิจกรรม เช่นเมื่อก่อนเราเป็นคนไม่ค่อยยิ้มอะไรอย่างงี้ แม่ก็จะพาไปประกวด Smile Kids ให้เรากล้ายิ้มมากขึ้น กล้าแสดงออก ได้เจอเพื่อนได้เจอคนแบบว่า คนอื่นบ้างเพราะว่าโบว์อยู่คอนโดคืออยู่แต่ในห้อง เพื่อนก็มีอยู่คนเดียวเจอกันอยู่แค่นั้นอะค่ะ เลยต้องหากิจกรรมอย่างอื่นไปทำข้างนอก
มีถ่ายโฆษณาบ้าง ได้เป็นแบบ Extra เล่นแบบเห็นแต่มือตอนเด็กๆ แล้วประกวด Smile Kids เดินแบบ ประกวดร้องเพลง ร้องเพลงเนี่ยเป็นเด็กที่ร้องเพลงไม่เคยจบเพลงเลย แม่เลยบอกว่าให้ไปเรียนร้องเพลงเพราจะได้ร้องจบสักที เลยส่งไปเรียน แล้วครูก็ส่งประกวดของสยามกลการ เลยมีโอกาสได้ประกวดมาเรื่อยๆ เก็บรางวัลมาเรื่อยๆ จนได้เป็นนักร้องของ Kamikaze ค่ะ Kiss Me Five ฮะ เป็นวง Girl Groupในยุคนั้น
วงการแรกเลยที่ได้เข้ามาอย่างเต็มตัวคือเป็นนักร้องค่ะ เป็นศิลปิน ก็ทำมาเรื่อยๆ สักพัก เหมือนทุกคนก็เร่ิมโต เริ่มต้องมีเข้ามหา’ลัยอะไรอย่างงี้ค่ะ ก็เลยแบบว่าวงแยกย้ายกันไปโต หนูก็เลยออกมา ต่อมาเรียนไปสักพักนึง แม่ก็ลองแบบเออลองไปประกวด Thai Supermodel ไหม จริงๆ ก็มีแคสละครบ้าง แต่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่สายนั้น ไม่ใช่ทางของนักแสดง ก็เลยเลือกเป็นเดินแบบ พอเดินแบบเสร็จ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ ตอนแรกคิดว่าลองๆ ไปดูดีกว่า
ตอนนั้นคุณแม่หลอกให้ไป แม่บอกเดี๋ยวพาไปกินข้าวบ้านอยู่พระโขนงไปกินเซ็นทรัลลาดพร้าว ห่างกันเป็นโยดเลย ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ว่าแม่จะหลอกมาทำอะไรหรือเปล่า ก็ด้วยความเห็นแก่กินก็เลยไปยอมไป ซึ่งแม่ไม่ได้บอกว่าจะพาไปประกวด แต่ว่าข้างในใส่เป็นขาสั้นยีนส์กระโปรง เราก็ถามว่าทำไมถึงใส่กางเกงยีนส์ข้างในทำไมไม่ใส่กางเกงซับหล่ะ กางเกงซับยังซักไม่ทัน ซักไม่แห้งเงี้ย เสื้อข้างในเสื้อกล้ามแล้วก็มีเสื้อคลุมทับ ซึ่งปกติแม่ไม่ได้ให้ใส่เสื้อกล้าม ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอยู่ดี
พอไปถึงแม่บอกเขามีการประกวด Thai Supermodel นะ ลองขึ้นไปดูไหม? เราก็บอกได้ก็ขึ้นไปดู ไม่ได้จะประกวดด้วยนะ เพราะรู้สึกว่าถ้าตัวเองประกวดอะ ถ้าเราได้ตำแหน่งเขาจะบอกว่าเอ้ยนี่เด็กเส้น แต่ถ้าไม่ได้ตำแหน่งเขาก็จะบอกว่าไอเด็กนี่มันกาก เราก็คิดไว้เลยว่าแบบมันต้องอย่างงี้ คิดไว้ก่อน สุดท้ายก็ประกวดค่ะ เพราะเราเห็นคนเดินแล้วแบบมันเขี้ยว อยากเดินบ้าง ก็เลยไปประกวดแล้วก็เข้ารอบเรื่อยๆๆ จนแบบได้ตำแหน่ง แล้วก็มาเป็นนักแสดงถึงทุกวันนี้