เปิดใจ “ณเดชน์” ผู้บ่าวอีสานชวนหลงใน “มนต์รักหนองผักกะแยง” ชมเปราะ “โบว์” เล่นดีน่ารัก
คว้าใจแฟนจอแก้วแบบจุกๆ สำหรับพระเอกมากความสามารถ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ล่าสุดกับบทของ “ธรากร พันธุ์วิเศษ” หรือ “บักเขียว” ในละครเรื่อง “มนต์รักหนองผักกะแยง” ตีบทแตกกระจุย และยังสร้างเสียงหัวเราะได้ทุกเบรค ทุกตอน บวกกับความเป็นลูกอีสานของ “ณเดชน์” ยิ่งทำให้ละครเรื่องนี้มีเสน่ห์ เรียกว่าเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวมากๆ
พระเอกหนุ่มเผยว่าเล่นเป็น “ธรากร” พันธุ์วิเศษ หรือ “บักเขียว” แรกๆ จะไม่พูดภาษาอีสานเลย พูดไม่ได้อะไรประมาณนี้ คือด้วยความที่ครอบครัวเขียว มีเหตุต้องย้ายเข้ากรุงเทพ ฯด้วยสำเนียงอีสานที่ติดตัวมา จึงโดนเด็กที่กรุงเทพฯ แกล้งสารพัด ชีวิตวัยรุ่น ต้องมาเจอมรสุมหนัก เขาโทษว่าเป็นความผิดยาย ที่เป็นคนอีสาน เกลียดความเป็นอีสานจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้คนเป็นเมือง ให้คนกรุงเทพฯ ยอมรับ แต่จู่ๆ ดันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาหมดเนื้อหมดตัวหันหน้ากลับบ้านเกิดตัวเอง ซึ่งมีคุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ คุณน้า รอรับอยู่
พอกลับมา “เขียว” ก็จะมีเป้าหมายเดิมคือทำยังไงก็ได้ให้ได้กลับเข้าไปใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ในบทเป็นค่อนข้าง เอาแต่ใจ เป็นลูกคนเดียวด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีความเห็นแก่ตัวอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งในการแสดงเรื่องนี้ผมจะปรับในเรื่องของความลุกรี้ลุกรน ยิ่งตอนที่อยู่กับ “ชมพู่” เขาก็จะกลัวมากเพราะ “ชมพู่” มักชอบใช้กำลัง เป็นหัวโจก แค่เขาง้างมือก็กลัวหัวหดแล้ว เป็นคนที่เหมือนกระต่ายตื่นตูมหน่อยๆ ซึ่งผมว่า “โบว์” เล่นได้ดีเลยนะ เล่นออกมาได้น่ารักมาก พอทำงานด้วยกันไปนานๆ ก็จะรู้สึกว่าเป็นน้องชายคนหนึ่ง ด้วยความห้าว แมนๆ ลุยๆ ในตัวเขาอยู่แล้ว เวลาทำงาน ผมก็มีแนะนำภาษาอีสานให้น้องเขาบ้าง บางคำที่เขาไม่ค่อยเข้าใจ เพราะแม้ว่าในชีวิตจริงเราจะคุ้นชิ้นกับภาษาอีสานอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีปรับเยอะเหมือนกัน คือต่อให้เราคุ้นชินมากแค่ไหนก็ตาม พอมันเป็นละครก็จะปรับเปลี่ยนบ้างให้เป็นภาษาอีสานของตัวเอง ให้มันเข้าปากเรา มีลูกเล่นมากขึ้น มีคำวิเศษของภาษาอีสานที่จะทำให้มันน่าสนใจและดูเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น
นอกจากความสนุกสนานของเรื่องราวต่างๆ แล้ว คนดูยังจะได้เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทุกคนทำกันได้ไม่ใช่เรื่องยากเลย รวมไปถึงยังสอดแทรกเรื่องราวของมิตรภาพต่างๆ ของคนในหมู่บ้านวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ผมว่ามันมีเสน่ห์มากนะตรงนี้ ทำให้เราคิดถึงบรรยากาศบ้านนา อยากกลับบ้านเกิดอะไรประมาณนี้ อยากให้คนดูได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศต่างๆ แล้วยังมีความน่ารักของ “ชมพู่” กับ “บักเขียว” ที่จะมาทำให้คนดูได้อมยิ้มไปกับความไม่ยอมกัน สำหรับละครเรื่องนี้ บอกเลยว่า ผมจัดเต็มมาก มีทั้งบทบาทที่เข้มข้น เรื่องการร้องเพลง ทั้งร้อง ทั้งเต้น ผมใส่ลีลาเต็มที่ หาดูที่ไหนไม่ได้แน่นอนครับ แล้วผมก็ดีใจมากๆที่มีโอกาสได้มาทำงานกับที่ “พี่อ๊อฟ” อีกครั้ง “พี่อ๊อฟ” ได้ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องบทบาท การทำงาน การใช้ชีวิต วิธีคิด ในหลาย ๆ อย่าง ผมรัก และก็ศรัทธาในตัว “พี่อ๊อฟ” จึงอยากทำผลงานออกมาให้เต็มที่ ที่สุด ยังไง ก็ฝากติดตามละครกันด้วยนะครับ”