‘แรงเงา’ กับเสียงสะท้อนสังคม

‘แรงเงา’ กับเสียงสะท้อนสังคม

1

  สัปดาห์ก่อนเพิ่งเขียนไปหยกๆ ถึง “แรงเงา” ละครที่
กําลังกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่ตอนนี้ เหมือนหยั่งกับนั่งทางในเห็น ยังไงๆ ละครเรื่องนี้คงมาในอีหรอบเดียวกับ “ดอกส้มสีทอง” 
ที่ตัวละครอย่าง “เรยา” ถูกสังคมในอีกมุมหนึ่งถล่มยับ  มาตามนัดเลยครับ!

    ไม่ใช่เรื่องผิดที่ “แรงเงา” จะเดินในร่องแอ่งเดียวกับ “ดอกส้ม 
สีทอง”...ถ้าไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นี่สิเรื่องแปลก
ถ้าผมเป็น “หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์ุ” หัวเรือหลักบรอด-
คาซท์ฯ ก็คงได้แต่ “ขอบคุณ” กับความหวังดีของมูลนิธิต่างๆนานา ที่ออกมาสับเละเป็นชิ้นๆ


    นอกจากจะให้ “หลักคิด” ยังถือเป็นการ “เรียกแขก” จากคนดูที่ปกติจะดูละครเรื่องอื่น ไม่ใช่แฟนพันธ์ุแท้ละครช่อง 3
แต่พอมีกระแส มีคนพูดถึงทั้งดี-ร้าย 
ตั้งแต่ระดับแม่ค้าปากคลองตลาด จนถึง
คุณหญิง-คุณนาย มีใครบ้างล่ะ จะไม่อยากรู้ อยากเห็นถึงความเป็นไป ของ “แรงเงา”

   จากเรตติ้งคนดู แรกๆ ตัวเลขไม่ถึง 10 วันนี้พรุ่งพรวดแบบไม่ต้องมีพระนํา ปาไป 
10 กว่า แซงหน้าละครทุกเรื่อง จนกลายเป็นแชมป์ประเทศ ทั้งๆ ที่เพิ่งออกอากาศมาไม่กี่อึดใจเสียงสะท้อนขององค์กรต่างๆ ถ้าดูตามตัวผู้เล่นใน “แรงเงา” ก็ชัดว่า 
น่าถูกตําหนิ ไม่ว่าจะเป็นนพนภา ที่บุกไปฉะ มุตตาถึงสํานักงาน

    ซึ่งบรรดาเมียหลวงทั้งหลาย บอกว่า เขาไม่ทํากัน ขณะที่มุตตาก็ทําตัวอ่อนต่อโลกจนน่าหมั่นไส้ ไม่เหลือศักดิ์ศรีของผู้หญิง มีที่ไหนหลงเชื่อคารมผู้ชายง่ายๆ จนกลายเป็นเหยื่อทางเพศส่วนมุนินทร์ก็ไม่รู้โกรธอะไรนักหนา ตามล้างตามเช็ดแบบบ้าระห่ำ เกินกว่าที่ผู้หญิงทั่วๆ ไปจะมีพฤติกรรม เยี่ยงนี้ได้

    ถ้าดูตามที่เห็น ก็พอรับได้กับเสียงสะท้อน แต่ถ้าดูอย่างวิเคราะห์ถึงความเป็นมาและเป็นไปของตัวละครแต่ละคน ทุกอย่างล้วนตั้งอยู่บนเหตุและผลความอ่อนต่อโลกของมุตตา ใช่ว่า อยากจะเป็นเช่นนั้น แต่เป็นผลพวงแห่งการเลี้ยงดูของครอบครัว ถูกถนอมกล่อมเกลี้ยงราวไข่ในหิน ไม่ต่างจากการถูกปิดหูปิดตาจากโลกภายนอก

    เมื่อถึงวันที่ต้องเดินออกจากชายคาบ้าน เผชิญโลกด้วยตัวเอง ความคิดความอ่านที่จะ “ทันคน” จึงมีอยู่น้อย
การที่เธอเพลี่ยงพล้ำตกเป็น “เหยื่อ” จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้!!ถ้าจะว่าไปแล้ว “แรงเงา” ไม่ต่างจาก “แรงกรรม” เหมือนคําโบราณที่พูดไว้ว่า...บุญกรรมเหมือนเงาตามตัว เพราะท้ายที่สุด แล้ว ตัวละครทุกคนในเรื่อง ต่างล้วนได้รับผลจากแรงกรรมของตัวเองทั้งสิ้น

    ผมไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับผลได้-เสียจาก “แรงเงา” จนต้องออกมาแก้ต่างให้ เพียงแต่อยากบอกบรรดา “ขาประจํา” ทั้งหลายให้มองอย่างวิเคราะห์ ปราศจากอคติ ไม่เป็นเหมือนอย่างที่ตัวเองคิด...ผิดหมด!!ถ้าเอาตรรกะนี้มาเป็นประเด็น ละครทุกเรื่อง บันเทิงทุกอย่างที่มีอยู่ในจอโทรทัศน์บ้านเรา

    ต้องบอกว่า 99% ล้วนเป็น “สีเทา” หมดแล้วจะทํายังไงดี...ในเมื่อตัวเลือกที่เป็น “ฟรีทีวี” บ้านเรามีอยู่ไม่กี่ช่อง
“แรงเงา” เรตติ้งดี-ไม่ดี ชีวิตผมก็หลังขดหลังแข็งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นกิจวัตร ใช่ว่าเข้าข้าง “แรงเงา” แล้ว
พรุ่งนี้ผมจะได้เป็น “ผอ.เจนภพ” ซะเมื่อไหร่



    เพียงแต่มุมหนึ่งต้องเห็นใจคนทํางานบ้าง ละครแต่ละเรื่องกว่าจะสร้างเสร็จออกมาฉายได้ ต้องลงทุน ลงแรง ทํางานหามรุ่งหามค่ำแต่พอออกฉาย กลับมองไม่เห็นอะไรดี ทุกอย่างเลวหมดซึ่งในความเป็นจริงไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ในความไม่ดีย่อมมีดีอยู่บ้างล่ะ เหมือนอย่าง “แรงเงา”

    ในภาพรวม ที่สะท้อนอะไรให้สังคมได้เห็น พอเป็นคติเตือนใจอยู่บ้างความเป็นไปในแวดวงละครบ้านเรา ใช่ว่าคนดูโง่ ใช่ว่าจะไม่รู้ ใช่ว่าจะหลงเชื่อ...เปล่าเลย คนดูฉลาด 
คนดูรู้ ไม่ได้หลงเชื่อ แต่เป็นดังที่เห็น เพราะเขามองว่า...นี่คือ “บันเทิง” ไงล่ะ!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments