ช่วงเช้าๆ เวลาขับรถไปทํางาน ผมชอบเปิดฟังรายการ “แฉแต่เช้า” ทางคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม เพราะช่วงเช้าไม่มีเวลาได้อ่านหนังสือพิมพ์ ต้องรีบเร่ง เหมือนกับ “คนกรุง” ทุกคน
ที่จมจ่อมอยู่กับภาวะรถติดหนึบนอกจาก “แฉแต่เช้า” จะออกอากาศทางคลื่นวิทยุแล้ว ยังโผล่ในทีวีดาวเทียมช่อง “กรีน แชนแนล”
เป็นความฉลาดของ “ฉอด-สายทิพย์” หัวเรือใหญ่ “เอ-ไทม์ฯ”
ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัวนั่นคือจัดรายการครั้งเดียว ได้ออกอากาศ 2 ช่องทาง คือ
ทั้งคลื่นวิทยุ 94 อีเอฟเอ็ม และ กรีน แชนแนล ได้ทั้งคนฟัง-คนดู
ในช่วงเวลาเดียวกัน
“แฉแต่เช้า” เป็นรายการข่าวบันเทิง ที่ต้องบอกว่า
ยืนอยู่แถวหน้าของบ้านเรา โฆษณาทั้งช่วงเบรก ทั้ง Tie-in เจ้าของสินค้าและเอเยนซี ต้องจองข้ามปี ไม่ยังงั้นหมดสิทธิ์ลงผมจําได้ว่าครั้งหนึ่งเอ-ไทม์ฯ เคยนํารายการ “แฉแต่เช้า” ไปจัดโชว์กันสดๆ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตอนนั้น “มดดํา” ยังจัดคู่กับ “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” สามารถ เรียกแฟนคลับซื้อบัตรเข้าไปดูกันล้นห้องประชุมทีเดียว
นั่นแสดงให้เห็นว่า “แฉแต่เช้า” ได้รับความนิยมจริง วัดผล
ได้จริง
ผมเองก็เคยอาศัยประเด็นในรายการนี้ มาขยายความ ทํามาหากินต่อหลายครั้งหลายครา บางเรื่องฟังแล้วไม่มีเค้าจะเป็นจริง แต่พอสืบค้น...จริงของเขาแฮะช่วงระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่ “แฉแต่เช้า” อยู่บนหน้าปัดวิทยุและทางทีวีดาวเทียม ถือว่ายาวนานพอสมควร กับรายการ 1 รายการ
แต่ “แฉแต่เช้า” ก็สรรหาเรื่องจิปาถะ หยิบโน่นฉวยนั่นมาพูดคุยด้วยสไตล์เพื่อนคุยกับเพื่อนซึ่งบ่อยครั้งก็เกิดความผิดพลาดขึ้น ด้วย “ลืมตัว” นึกว่าเป็นการคุยกับเพื่อนจริงๆ ลืมนึกว่า นี่คือการจัดรายการ ที่มีคนฟัง-คนดูทั้งประเทศบ่อยครั้งที่มีคําพูดไม่สมควรจะออกอากาศหลุด มาเป็นระยะๆ หลายครั้งฟังแล้วสะอึกทีเดียว
คราวนี้เอาอีกแล้วครับทั่น...มีคนมาเล่าให้ผมฟัง กับสิ่งที่รับไม่ได้ในรายการ “แฉแต่เช้า” เขาเล่าว่า วันนั้น เปิดฟังรายการเหมือนทุกวันที่ทําเป็นปกติก่อนจะจบรายการไม่กี่นาที มีแขกรับเชิญโผล่มาทักทายรายการ คนๆ นั้นไม่ใช่ใคร คือ “จิ๊บ-ปกฉัตร” นั่นเองจําได้ว่าพิธีกรที่จัดคู่ช่วงนั้นคือ “นุ้ย อีเอฟเอ็ม” และ “ปอ-วรฐก์” ซึ่ง “นุ้ย อีเอฟเอ็ม” ก็ทักทาย “จิ๊บ-ปกฉัตร” เป็นปกติตามประสาคนคุ้นเคยกัน
แม้จะทิ้งท้ายด้วยคําถาม...“ยังชอบผู้หญิงอยู่ไหม”ซึ่งนั่นคนฟังพอรับได้ เพราะมีความจริงอยู่บ้าง เนื่องจาก “จิ๊บ-ปกฉัตร” มีคนที่เดินเคียงข้างเป็นเพศเดียวกัน ส่วน “ปอ-วรฐก์” นี่สิ ที่คนฟังท่านนี้ถึงกับส่ายหัว ด้วย
คําถาม...อวัยวะส่วนไหนของผู้หญิงที่แข็งแรงที่สุด?“จิ๊บ-ปกฉัตร” เธอมีมารยาทพอ ที่ตอบแบบสุภาพ ด้วยถือ ว่า ตอนนี้กําลังอยู่ระหว่างรายการที่ออกอากาศคลื่นเสียง-ภาพกระจายอยู่ทั่วประเทศ
เธอตอบว่า...หัวใจแข็งแรงที่สุด...แทนที่จะจบลงด้วยยอมรับกับคําตอบของเธอ แต่ “ปอ-วรฐก์” เฉลยให้เสร็จสรรพ บอกว่า...ลิ้นแข็งแรงที่สุด เพราะสามารถยกตัว “จิ๊บ-ปกฉัตร” ขึ้นได้อึ้งมั้ยครับ...ผมคงไม่ขยายความต่อกับคําตอบที่ไม่ถูกกาลเทศะ ของพิธีกรผู้นี้ว่าหมายถึงอะไร และสมควรจะพูดออกอากาศแบบนี้หรือไม่?แต่สิ่งหนึ่งที่ “คนสะท้อนข่าว” ต้องมีในสํานึก นั่นคืออะไรควร-ไม่ควร
แม้ “จิ๊บ-ปกฉัตร” ไม่ถือสา เพราะคุ้นเคยกับ “ปอ วรฐก์” ที่รู้นิสัยส่วนตัวกันดี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คนฟังทั้งประเทศ “รับได้” กับพฤติกรรมเยี่ยงนี้ผมอยากให้ “ฉอด*สายทิพย์” ลองไปฟัง “แฉแต่เช้า” วันที่ 8 พฤจิกายน ที่ผ่านมาหมาดๆ แล้วลองไตร่ตรองในฐานะหัวเรือหลักดูว่าเหมาะสมไหม
ที่สําคัญความผิดพลาดแบบนี้ ไม่ใช่แค่ตัวพิธีกรเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบ แต่ยังรวมถึงคนกุมบังเหียนที่ชื่อ “ฉอด-สายทิพย์” ด้วยเพราะเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพิ่งเกิดขึ้นกับ “แฉแต่เช้า” ที่พออภัยให้ได้ แต่มันเกิดขึ้นเป็นประจําผ่านคําพูดหยาบโลนต่างๆนานา
ว่าไปแล้ว “ฉอด-สายทิพย์” ก็ไม่ต่างจากเจ้าอาวาสวัด ที่ต้องสอดส่อง ควบคุมพระลูกวัดให้อยู่ในศีลในธรรม
ถ้าพระลูกวัดประพฤตินอกศีลแบบนี้บ่อยๆ ผมว่าคนเป็นเจ้าอาวาสแม้จะอยู่วัดดังแค่ไหน ก็คงหาความภูมิใจไม่ได้ !!
