หลายวันก่อนเห็น “พิศณุ นิลกลัด” โผล่หน้าจอ “ครอบครัวข่าวช่อง 3” ด้วยอาการ หน้าตั้ง อกผาย ไหล่ผึ่ง พุงพลุ้ยเล็กน้อยพร้อมกับคําพูด...“ผมยินดีมากครับ ที่ได้มาร่วมงานกับช่อง 3 ถือว่าเป็นการต้อนรับที่อบอุ่น”ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสําหรับ ปลาเปลี่ยนน้ำ ไม่ว่าใครก็ต้องพูดแบบนี้ ถ้า “พิศณุ” ทํางานอยู่กับช่อง 3 ไม่ต่ำกว่า 30 ปี แล้วย้ายมาอยู่กับ 7 สี ซึ่งเป็นคู่แข่งอมตะนิรันดร์กาล ก็คงพูดแบบนี้
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กระทั่งขึ้นปีใหม่ 2556 ซึ่งปฏิทินโบราณถือว่าเป็นปี งูน้ำ รู้สึกว่า ช่อง 7 จะถูกน้ำ (ลาย) พ่นใส่ ชนิดที่เปียกแฉะไปทั้งตัวเมื่อเจอกับกระแสหลายด้านที่ประเดประดังเข้ามาใส่ แทบจะตั้งตัวไม่ติด ทั้งๆ ที่เรื่องดังกล่าว เป็นสิ่ง “ธรรมดา” ที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอๆ
สาเหตุที่ “พิศณุ” ย้ายไปอยู่ช่องคู่แข่ง ใครจะมองว่า เกิดจาก “คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์” เป็นคนชักชวน ก็คงมีความจริงอยู่บ้างแต่ก็คง “ไม่จริง” ทั้งหมด ช่วงที่ “คุณแดง-สุรางค์” ยังนั่งบริหารอยู่ช่อง 7 สี ก็มีดาราระดับแม่เหล็ก อย่าง ชมพู่-อารยา, ป๋อ-ณัฐวุฒิ ย้ายไปอยู่กับช่อง 3 บ้างแล้ว
แม้แต่พิธีกรข่าวไก่-ภาษิต, เอิ้น-ปานระพี ก็สะบัดตูดหนีถ้า “พิศณุ” ย้ายไปเพราะบารมี “คุณแดง-สุรางค์” ทําไมจึงไม่สามารถใช้ “บารมี” ตรึงดาราและพิธีกรเหล่านี้ให้อยู่กับช่องได้การจะ “ย้าย” หรือ “อยู่” ผมว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัจเจกบุคคลเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความ “พอใจ” ของเจ้าตัว
ถ้าพอใจจะอยู่ที่เดิมก็อยู่ แต่ถ้าไม่พอใจมีอะไรมาสะกิดใจ ก็ “ย้าย”...ใครจะทําไม?เพียงแต่ว่า “พิศณุ” ย้ายไปอยู่กับช่อง 3 แล้วมีคนมองว่า ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่ โดยเขาให้เหตุผลว่า “พิศณุ” ไม่ควรจะทํารายการแบบเดียวกับที่เคยอยู่กับช่อง 7 สี แถมเวลายังชนกันเป๊ะ
ไม่มีใครเถียงว่า รายการ “สะเก็ดข่าว” คือโลโก้ของเขา ที่คนติดทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะทํามาต่อเนื่องยาวนานเมื่อเขามาทํา “ข่าวนอกลู่” กับช่อง 3 ถือเป็นสิทธิ์โดยชอบ จะเหล้าเก่าในขวดใหม่หรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของธุรกิจในวงการฟุตบอล เมื่อนักเตะจะฝีเท้าดี-ไม่ดี ย้ายไปอยู่ทีมคู่แข่ง เวลามีแมทช์ที่ต้องตะบันแข้งกัน สิ่งหนึ่งที่เขาถือ คือนักเตะคนนั้น จะไม่ลงสนาม เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับทีมเก่า!!
เนื่องจากยังมีพื้นที่อีกมาก ที่สามารถจะช่วยทีมให้เข้าสู่เส้นชัยได้ ผลแพ้-ชนะ ใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับต้อง “ชนะ” ทีมเก่าให้ได้เท่านั้น ถึงจะคว้า “แชมป์”ตอนนี้ช่อง 7 สี ไม่ต่างจากสถานีที่ต้องเจอศึกรอบด้านนอกจากจะสูญเสียคนเก่าคนแก่ ที่เคยกินข้าวหม้อเดียวกันคนแล้วคนเล่ายังต้องเจอกับการถูกเตะสกัดขา จากช่องคู่แข่ง ที่พยายามจะ “กินรวบ” เรตติ้ง ตั้งแต่เปิดสถานียันปิดสถานี
ช่อง 3 ตอนนี้ได้ “คุณแดง-สุรางค์” ไปทําละคร “ก่อนข่าว” เพื่อเอาใจ “คอละคร” ต่างจังหวัด ซึ่งปรากฏว่าได้ผลแฮะ
จากเรตติ้งละครก่อนข่าวของช่อง 3 ที่อยู่ในอาการ กระดึ๊บๆ ได้ระดับ 2-3 ก็พอใจแล้ว
แต่ตอนนี้ละครก่อนข่าวช่อง 3 ตีตื้นขึ้นมาอยู่ในระดับ 4-5 นั่นคือความพอใจในระดับหนึ่ง ถ้ามีกระแสคนดูต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าน่าห่วงสําหรับ 7 สีเหมือนกัน
เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่แล้ว ก่อนจะสิ้นปีเก่า ผมเห็นภาพ “คุณแดง-สุรางค์” จับมือกับ “บอย-ถกลเกียรติ” ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
อดเป็นห่วงช่อง 7 สีไม่ได้เหมือนกัน เพราะหลังจากที่เห็นภาพนั้นแล้ว ผังใหม่ปีนี้ของช่อง 5 ปรับเปลี่ยนเวลาละครใหม่ทันที
จากเดิมที่ละครหลังข่าวของช่อง 5 มีเวลาออกอากาศแค่ 1 ชั่วโมง ถูกขยายไปเป็น 1 ชั่วโมง 30 นาที
จะว่าไม่เกี่ยวกับ “คุณแดง-สุรางค์” ก็พูดไม่เต็มปากนัก ถ้าหากว่าช่อง 5 ไม่เชื่อมั่นในเรตติ้งละครที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คงไม่เพิ่มเวลาให้หรอกครับ สู้เอาไปทําอย่างอื่น เสี่ยงจะเกิดหนี้สูญน้อยกว่า
แต่เมื่อมี “คุณแดง-สุรางค์” มาการันตี ร่วมผลิตละครกับ “เอ็กแซ็กท์” กําลังใจมาเป็นแผง...เสือฝ้ายเลยได้เวลาลุย
สภาพของ 7 สีตอนนี้ไม่ต่างจากโดดเดี่ยวผู้เดียวดาย ละครก่อนข่าวก็เจอช่อง 3 ยืนเผชิญหน้า ละครหลังข่าวก็เจอทั้งช่อง 3 และช่อง 5 ที่โจมตีขนาบซ้าย-ขวา
แต่ใช่ว่า 7 สีจะไร้น้ำยา ยังไงยักษ์ก็เป็นยักษ์วันยังค่ำ เพียงแต่ว่าคนคัดท้ายเรือ จะให้ตั้งลําอยู่แบบไหน ที่ไม่ให้ “เสียศูนย์” ไปกับกระแส (ปาก)